ยิ่งใกล้งาน Motor Expo เข้าไปเท่าไหร่ เราก็จะได้เห็นสัญญาณของรถใหม่ที่จะเข้าไปเผยโฉม และขายในงานนี้เป็นระยะๆ แต่ปีนี้บอกเลยว่าดูจะคึกคักเกินไปหน่อย เพราะยังไม่ทันจะถึงวันงาน รถใหม่ที่รอเรียงแถวเข้างาน ตอนนี้ล่อไปยี่สิบกว่าคันแล้ว!
โดยเฉพาะรถสัญชาติจีนที่ปีนี้บอกได้เลยว่าครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของงานเลยทีเดียว และที่สำคัญบูธใหญ่อันดับ 1 – 3 เป็นของแบรนด์รถจากจีนเสียด้วย แล้วค่ายจีนส่วนใหญ่ก็จะใช้งานนี้เป็นการเผยโฉมรถใหม่ครั้งแรกเลยเสียด้วย ต่างจากทางค่ายญี่ปุ่นที่รถใหม่แบบ All-New เขาชิงเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว รอรับจองอย่างเดียวไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก ทางฝั่งยุโรปก็ไม่ใช่ว่าจะแผ่วเพราะเขาก็มีมาด้วยเหมือนกัน เราลองมาดูกันคร่าวๆ แบบเป็นน้ำจิ้มกันครับว่า ใน Motor Expo ครั้งนี้เราจะได้เจอคันไหนบ้าง หรือมีคันไหนที่เราอยากเห็นในงานนี้บ้าง
GAC AION
ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอเริ่มจากรถสัญชาติจีนก่อนเลยแล้วกันครับ Aion ส่งรถโมเดลล่าสุดเข้างานด้วย Aion V เป็นรถเอนกประสงค์ลุยๆ หน่อย ตัวรถยาวกว่า Aion Y เล็กน้อย มีฐานล้อยาวกว่า แต่ความกว้างซ้าย-ขวาของบอดี้ดันน้อยกว่า รูปร่างหน้าตาดูทันสมัย ภายนอกดูบึกบึนกับขอบซุ้มล้อสีดำ ด้านบนมีราวหลังคา ภายในตกแต่งดูหรูหรา มาตรวัดดิจิทัล หน้าจอกลางขนาด 14.6 นิ้วแบบสัมผัส มีระบบประมวลผลด้วย Ai เพิ่มความสบายให้เบาะคู่หน้าด้วยระบบนวด ที่เบาะมีรูเป่าลมเย็นจากแอร์ ด้านท้ายปรับรูปแบบการขนสัมภาระได้ 3 แบบ
Aion V รุ่น Standard ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหน้า พละกำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร จ่ายไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนความจุ 62 kWh อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.9 วินาที ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จเต็มทำได้สูงสุด 480 กม. (NEDC) รุ่น Long Range ยังคงใช้มอเตอร์ตัวเดียวแต่เพิ่มกำลังเป็น 224 แรงม้า แรงบิดเท่ากัน ขยายความจุแบตเตอรี่เป็น 75 kWh วิ่งได้ไกลสุดต่อการชาร์จเต็มที่ 610 กม. (NEDC) ตัวท็อปสุดเป็น Super Long Range มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวเหมือนกัน 224 แรงม้า แต่ขยายความจุแบตเตอรี่เป็น 90.2 kWh วิ่งได้ไกลสุด 710 กม. (NEDC) ราคารอดูที่งาน น่าจะข้ามล้านไปนิดๆ
GEELY
ต่อด้วยรถของแบรนด์ในเครือ Geely Holdings กับ Geely Galaxy E5 เป็น SUV ที่ภายนอกหรูหราทันสมัยมาก ขนาดตัวรถใกล้เคียง Neta X ภายนอกโดดเด่นด้วยรูปทรงโค้งมนดูหรูหรา หลังคากระจก Panoramic Roof ลูกเล่นฟังก์ชั่นภายในจัดมาให้เพียบ เบาะคู่หน้ามีทั้งรูเป่าลมแอร์และระบบนวด Geely Galaxy E5 ถูกแบ่งเป็นสองรุ่นย่อย เริ่มจาก Standard Range ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหน้า พละกำลัง 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนขนาด 49.52 kWh อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.9 วินาที วิ่งได้ไกลสุด 415 กม. (NEDC) อีกรุ่นเป็น Long Range ใช้มอเตอร์เดียวเหมือนกัน พละกำลังเท่ากัน แต่ขยายขนาดความจุแบตเตอรี่เป็น 60.22 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 505 กม. (NEDC) ชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง DC Fast Charging จาก 30-80% ใช้เวลา 20 นาที
OMODA&JAECOO
ต่อด้วยรถในกลุ่ม Omoda & Jaecoo ที่น่าจะส่ง Jaecoo 5 เข้างานนี้ เป็นรถที่มากับคอนเซ็ปต์ SUV สไตล์ Outdoor เจาะกลุ่มสายลุย โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง ภายในมีการออกแบบที่นั่งพิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยงเสียด้วย รวมไปถึงมีระบบป้องกันขนของสัตว์ต่างๆ ช่วยให้ภายในรถมีอากาศที่สะอาดตลอดเวลา สเปคขุมพลัง แบตเตอรี่ หรือสมรรถนะยังไม่ถูกเปิดเผย คาดว่าคงจะไปให้รายละเอียดวันเปิดตัวในงาน แต่บอกใบ้มาว่าลากจูงได้ถึง 1,250 กก.
JUNEYAO
อีกแบรนด์ใหม่ค่ายจีนที่เดินทางมาถึงประเทศไทยคือ JuneYao ภายใต้ JuneYao Group ที่เป็นบริษัทสายการบิน ซึ่งรถที่คาดว่าจะมาโชว์ในก็หนีไม่พ้น JuneYao Air ที่เป็นรถ EV เก๋ง 5 ประตู ภายนอกก็ทรงนิยมรถ EV สัญชาติจีน โค้งๆมนๆ หน้าตาคล้ายๆ กัน หลังคา Panoramic Sunroof ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งคันที่ยังไม่เปิดเผยข้อมูลตัวรถจนกว่าจะถึงวันงาน
LEAPMOTOR
ต่อมาคิดว่าหลายคนคงได้ข่าวกันมาบ้างแล้วกับรถจีนแบรนด์ใหม่ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย นั่นก็คือ Leapmotor โดยคันที่จะมาก็คือรถ EV รุ่นแรกของแบรนด์อย่าง Leapmotor C10 เป็น SUV ไฟฟ้าสายหรู รูปทรงดูภูมิฐานไม่อวกาศแหวกแนวเหมือนค่ายอื่น เป็น SUV 5 ที่นั่งเน้นความสบายภายในห้องโดยสาร ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว ขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลังสูงสุด 231 แรงม้า รับกำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ขาดความจุ 69.9 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 530 กม. (ไม่ได้แจ้งหน่วย) น่าจะถูกใจลูกค้าที่ยังชอบรถ SUV ทรงเดิมๆ ไม่ล้ำสมัยจนเกินไป
CHANGAN
ในขณะที่ Changan ที่เพิ่งทำเซอร์ไพร์สลดราคา S07 ประกาศมาแล้วว่าจะมีโมเดลใหม่มาโชว์และขายในงานนี้กับ Changan Deepal E07 เป็นรถรูปแบบใหม่ SUV ผสมปิ๊กอัพ ซึ่งหลายคนคาดว่าจะมาเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกยานยนต์ รูปทรงภายนอกแปลกแหวกแนวด้วยการเป็น SUV ที่ด้านท้ายเปิดเป็นกระบะขนของได้ ระยะห่างจากตัวรถถึงพื้นถนนที่ 192 มม. จึงสามารถลุยน้ำได้สูงถึง 600 มม. ขนาดตัวรถถ้าให้เทียบกับรถปิ๊กอัพที่ขายอยู่ในประเทศไทย Changan Deepal E07 มีตัวถังที่สั้นกว่า แต่ก็มีความกว้างซ้าย-ขวากว้างกว่าปิ๊กอัพทั่วไป
Changan Deepal E07 ที่ขายในประเทศจีนแบ่งเป็นรุ่นย่อย 3 รุ่น เริ่มจาก Single Motor มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหลัง 224 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 328 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน LFP ขนาด 70 kWh อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 7.9 วินาที วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 500 กม. (NEDC) ตามมาด้วยรุ่นมอเตอร์ตัวเดียว ขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ใช้เป็นลิเธียม Ternary NMC เพิ่มความจุเป็น 90 kWh พละกำลังกระโดดขึ้นมาเป็น 343 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 365 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.7 วินาที วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 650 กม. (NEDC)
รุ่นท็อปเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวหน้า-หลัง ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบตเตอรี่ลิเธียม Ternary NMC ความจุ 90 kWh พละกำลังมหาศาล 598 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 645 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.96 วินาที วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 600 กม. (NEDC) แต่จะมาประเทศไทยครบทั้งสามรุ่นย่อยหรือไม่ รอชมที่งาน
SAIC
ค่ายอื่นขนกันมาขนาดนี้ มีหรือ MG จะอยู่เฉยๆ เคยเอามาโชว์ปีที่แล้ว ครั้งนี้ขายเลย กับ IM LS6 ที่เพิ่งอัพเกรดมาล่าสุด IM LS6 เป็นรถ EV 5 ประตูคูเป้ท้ายลาดที่มีรูปทรงโดดเด่นเตะตาดีเหลือเกิน ภายในดีไซน์เรียบๆ แต่ล้ำสมัยเหมือนมาจากอนาคต ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ ล่าสุดอัพเกรดชิพระบบการโต้ตอบอัจฉริยะเพื่อการสั่งงานระบบต่างๆ ภายในเป็นแบบ 5 ที่นั่ง เบาะปรับได้หลายทิศทาง จะนั่งหรือจะนอนยาวๆ ก็ได้สบาย แม้กระทั่งเบาะหลังก็ปรับเอนนอนได้ พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังกว้างขวางมาก
IM LS6 รุ่นย่อยถูกซอยแบ่งออกหลายรุ่น เริ่มจากมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหลัง 294 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร อีกรุ่นเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวหน้า-หลัง ขับเคลื่อน 4 ล้อ 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.48 วินาที แบตเตอรี่มีสองแบบ แบบลิเธียม-ไอออน LFP มีขนาดความจุ 75 kWh ส่วนแบบ NMC มีขนาด 83 kWh และ 100 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุดทำได้ตั้งแต่ 625 – 802 กม. ขึ้นกับขนาดของแบตเตอรี่ ล่าสุดอัพเกรดระบบ Fast Charging 900V ทำให้ใช้เวลาในการชาร์จเพียง 15 นาทีกับระยะทางวิ่งได้ 570 กม. และเพิ่มระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ
XPENG
ปิดท้ายรถสัญชาติจีนด้วย Xpeng X9 ซึ่งจริงๆ ก็เปิดตัวในประเทศไทยไปแล้ว แต่เป็นลักษณะแบบลับๆ เฉพาะคนรู้ใจ หรือกะไม่ขายใครก่อนงานก็ไม่รู้กับโมเดล X9 ซึ่งเป็นรถ EV ลักษณะ MPV 7 ที่นั่ง ประตูสไลด์ ภายนอกล้ำสมัย ภายในกว้างขวางนั่งสบาย เบาะนั่งสามแถว ปรับไฟฟ้าทั้งหมด มีตู้แช่เครื่องดื่มร้อน-เย็น ระบบเสียง Xopera ลำโพง 23 ตัว ขุมพลังใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลัง 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 7.7 วินาที แบตเตอรี่ขนาด 101.5 kWh เทคโนโลยี 800V วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 680 กม. (NEDC) มีระบบเลี้ยว 4 ล้อ ระบบช่วงล่างถุงลมปรับสูง-ต่ำได้ ระบบความปลอดภัยมาเต็ม รถมาจอดโชว์ในงานแน่นอน แต่จะเปิดราคาเลยหรือไม่ เปิดให้จองเลยหรือไม่ หรือแค่เปิดสิทธิ์ในการจองก่อน อันนี้ต้องไปดูในงาน
รถสัญชาติจีนที่จะไปจอดโชว์จอดขายในงาน Motor Expo ปีนี้คงไม่ได้มีแค่ที่ผมบอกมา น่าจะมีอีก แต่ขอเป็นน้ำจิ้มแค่นี้ก่อน ลองมาดูรถจากฝั่งญี่ปุ่นกันบ้าง
GWM
เซอร์ไพรส์พิเศษที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้นำนวัตกรรมใหม่ล่าสุดส่งตรงจากประเทศจีนถึง 2 รุ่น จาก 2 เซกเมนต์ที่กำลังได้รับความนิยมสูงจากผู้บริโภคชาวไทย อย่าง “GWM WEY 80 PHEV” รถยนต์เอ็มพีวีอเนกประสงค์ระดับไฮเอนด์ และ “GWM TANK 700 Hi4-T” รถยนต์เอสยูวีออฟโรดขุมพลังปลั๊กอิน-ไฮบริด
TOYOTA
ขาใหญ่อย่าง Toyota หลังจากเปิดตัว All-New Camry ไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ยอดขายน่าจะมาดี เพราะรถสไตล์ซีดานไซส์ใหญ่ในประเทศไทยตอนนี้มันมีน้อยเหลือเกิน หันไปขับ SUV กันหมด โดย Camry ใหม่ก็มากับหน้าตาทันสมัยสวยดีเสียด้วย นอกจาก Camry ในงานนี้ Toyota เพิ่งปล่อยข่าวออกมาว่าจะเปิด Altis ตัวพิเศษออกมาด้วย
Toyota Altis HEV GR Sport ยังคงใช้ตัวถังเดิม เพิ่มเติมชุดแต่ง GR (Gazoo Racing) ที่ภายนอก ประกอบไปด้วยกันชนหน้าและกระจังหน้าสีดำเงา หลังคาสีดำเงา ล้อขนาด 17 นิ้วสีดำ ไฟท้ายเป็นโคมใส ภายในตกแต่ง GR Sport เบาะนั่งหนัง Suede เดินด้ายแดง พร้อมโลโก้ GR เข็มขัดนิรภัยสีแดง ขุมพลังไฮบริดทุกอย่างเหมือนดิม เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ระบบเกียร์ E-CVT ระบบช่วงล่างปรับปรุงใหม่ให้อารมณ์สปอร์ตมากขึ้นทั้งที่ตัวโช้คอัพ และคอยล์สปริง รวมถึงมีการปรับระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าให้กระชับมากขึ้นด้วย
HONDA
จาก Toyota แล้วก็ต้องมา Honda ในงานปีนี้ไม่ได้มีรถใหม่อะไรให้หวือหวา ใหม่สุดก็เป็น Honda HR-V e:HEV Minorchange ซึ่งเผยโฉมไปแล้วแต่เพิ่งไม่เปิดราคา ซึ่ง HR-V e:HEV Minorchange มีการปรับเปลี่ยนทั้งใน 3 รุ่นย่อยมีทั้งภายนอกอย่างดีไซน์กระจังหน้า กันชนหน้า โดยรุ่น RS ได้ชุดไฟท้ายใหม่ ล้อลายใหม่ เพิ่มระบบไฟหน้า Adaptive Driving Beam และไฟส่องสว่างมุมด้านหน้า Cornering Light รุ่น EL และ RS มีสีตัวถังภายนอกให้เลือกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสีเป็นสีน้ำตาล Sand Khaki Pearl ไฮไลท์ภายในทั้ง 3 รุ่นย่อยมีการเปลี่ยนรูปทรงเบาะคู่หน้า เปลี่ยนดีไซน์ฐานเกียร์ อัพเกรดกล้องมองหลัง เพิ่มระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก ขุมพลังเดิม e:HEV เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 106 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 131 แรงม้า ส่งกระแสไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
NISSAN
Nissan ล่ะจะมีอะไรมาโชว์ ก็รถที่รอกันมานานเหลือเกิน รอแล้วรอเล่าจนในที่สุดได้ฤกษ์เปิดตัว Serena รถตู้ MPV ไซส์ย่อมออกมาเสียที แต่จากเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าจะมีทั้งที่เป็นไฮบริด และ e-Power สุดท้าย Nissan Motor (Thailand) เคาะเอา Serena S-Hybrid รหัสตัวถัง C27 มาชิมลางก่อน โดยเป็นรถนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซียด้วยเงื่อนไขภาษีที่ทำให้ราคาน่าจับต้องมากขึ้น Serena S-Hybrid มับขุมพลังไฮบริดประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า สเปคที่แจ้งมาคร่าวๆ คือตัวเครื่องยนต์ให้กำลัง 150 แรงม้า บวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ SM 24 อีก 2.6 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ส่วนภายในจะมีลูกเล่นอะไรใส่มาให้ต้องไปดูของจริงในงาน
MAZDA
ค่าย Mazda ที่เงียบๆ มาพักใหญ่ และเหมือนจะเงียบต่อไปอีกนาน แต่งานนี้กลัวบูธจะเหงา เลยจับเอา Mazda CX-5 มา Minorchange ซะหน่อย ซึ่งเป็นการปรับโฉมภายนอกเล็กน้อย เพิ่มฟังก์ชั่นเข้าไปหน่อย แต่ไม่ได้มีเทคโนโลยีขุมกำลังอะไรใหม่ๆ แน่นอน โดยตัวเลือกเครื่องยนต์ในรุ่นย่อยยังเหมือนเดิมคือ เบนซิน 2.0 ลิตร Skyactiv-G ดีเซล 2.2 ลิตร Skyactiv-D และรุ่นท็อป เบนซิน 2.5 ลิตร Skyactiv-Turbo
SUBARU
มาถึงค่ายดาวลูกไก่ Subaru หลังจากประกาศหยุดฐานการผลิตที่ประเทศไทย และต่อไปนี้จะมีแต่รถนำเข้าทั้งหมด แทบไม่มีความคืบหน้าของรถใหม่มาพักใหญ่ จนกระทั่งไม่นานมานี้มีการคาดการณ์ว่า TC Subaru (ประเทศไทย) มีแนวโน้มจะเอา Subaru Crosstrek e-Boxer Hybrid เข้ามาขาย จะจริงหรือไม่ยังไม่รู้ แต่เราก็อยากให้เอารถคันจริงมาจอดโชว์ในงานนี้ จะขายหรือยังไม่ขายนั่นก็อีกเรื่อง เอาจริงๆ Crosstrek มันก็อยู่ในสารระบบเดียวกับ XV นี่แหละครับ เจ้าคันนี้มันเป็นโมเดลล่าสุด และที่สำคัญมากับขุมพลังเทคโนโลยีใหม่ e-Boxer พูดง่ายๆ ก็ไฮบริดนั่นแหละ เป็นการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร 150 แรงม้า กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet AC Synchronous ที่เพิ่มกำลังเข้าไปอีก 16.7 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ LinearTronic CVT ที่สำคัญไม่ได้มีเฉพาะระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่มีรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้ามาให้เลือกด้วย
MITSUBISHI
Mitsubishi ก็เป็นอีกค่ายที่ผ่านมาเน้นกระบะ Triton เป็นหลัก แต่ในงานที่จะถึงนี้มีเสียงแว่วๆ ว่าจะมีครอสโอเวอร์รุ่นใหม่มาโชว์ตัวกับชื่อรุ่นที่ยังไม่เคยขายในประเทศไทยอย่าง XForce ซึ่งน่าจะเป็นคู่แข่งหลักของ Toyota Yaris Cross เจ้า XForce ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า แต่ถูกออกแบบมาให้พร้อมขับในทุกสถานกาณ์ด้วยโหมดการขับที่มีทั้ง Normal , Wet, Gravel และ Mud (อย่างกับรถ Off-road) ส่วนอ๊อพชั่นภายในจะเป็นยังไงต้องรอดูในงาน แต่ที่แน่ๆน่าจะเหมือนกับสเปคที่ขายในประเทศอินโดนีเซีย เพราะถ้า XForce มาขายจริง ก็น่าจะเป็นรถที่นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย
SUZUKI
Suzuki น่าจะยังขายรถที่มีอยู่ก่อน โดยเฉพาะ Swift ที่เซลส์ยังส่งมอบรถใหม่กันอยู่ทุกวัน แต่ไฮไลท์ที่คนติดตามทุกปีคือ Suzuki Carry ที่มักจะมากับไอเดียการตกแต่งรถไปใช้งานแบบเก๋ๆ ซึ่งยังไม่รู้ว่าปีนี้จะมาในรูปแบบไหน ยังไงต้องห้ามพลาดเด็ดขาด มาลุ้นกันว่าปีนี้จะมากับคอนเซ็ปต์อะไร
ก่อนจะข้ามไปฝั่งยุโรปขอแวะเกาหลีแพร็บ
HYUNDAI
ที่จะได้เห็นในงานนี้แน่คือ Hyundai Palisade จากที่ Hyundai ประเทศไทย นำมาจอดโชว์ในงานหลายรอบแล้ว ครั้งนี้พร้อมขายเลย Hyundai Palisade เป็นรถ SUV ขนาดใหญ่ เน้นภายนอกบึกบึนแข็งแกร่ง แต่ภายในหรูหรา พร้อมฟังก์ชั่นมากมาย เบาะนั่ง 3 แถว สเปคเครื่องยนต์ที่จะนำเข้ามาขายในประเทศไทยเป็น ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ พละกำลัง 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีโหมดการขับให้เลือกทั้ง Comfort , ECO , Sport, Smart และยังมีในโหมดลุยที่เป็น Terrain Mode ปรับเปลี่ยนได้ทั้ง Snow , Mud และ Sand
ข้ามมาฝั่งยุโรปบ้าง
MERCEDES-BENZ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดทัพไลน์อัพ 6 รุ่น ครอบคลุมทั้งแบรนด์ Mercedes-Maybach และรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในกลุ่ม G-Class, S-Class และ V-Class
Mercedes-Maybach EQS 680 SUV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Mercedes-Maybachจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 12,500,000 บาท และ Mercedes-Maybach S 580 e Premium รถยนต์ซีดานระดับไฮเอนด์ลักชัวรีแบบฉบับของ S-Class โดยกลับมาพร้อมตัวถังสีทูโทนใหม่ แบบ Local Production จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 11,300,000 บาท
Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology ครั้งแรกกับการสานต่อตำนาน 45 ปี ของ G-Class เจ้าของฉายา King of Off-Road มาพร้อมระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% และมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ทำให้สามารถทำแรงบิดได้สูงสุดถึง 1,164 นิวตันเมตร ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว 2 รุ่น ในรุ่น STANDARD ราคาเริ่มต้น 9,500,000 บาท และรุ่น EDITION ONE ราคาเริ่มต้น 12,200,000 บาท โดยสำหรับรุ่น EDITION ONE จะจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 6 คัน ในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเปิดตัว Mercedes-Benz G 450 d ยนตรกรรม The new G-Class ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลตามคำเรียกร้องในราคาเริ่มต้น 12,200,000 บาท
Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium ยนตรกรรมลักชัวรี่ซีดานที่มอบความครบเครื่องในทุกมิติ ทั้งสุนทรียภาพด้านการขับขี่ ความสะดวกสบายของการโดยสาร ระบบความบันเทิง และความปลอดภัยขั้นสูง มาพร้อมการเพิ่มความสะดวกสบายทุกการขับขี่ที่มากขึ้น ด้วยระบบควบคุมทิศทางตัวรถแบบเลี้ยว 4 ล้อ (Rear axle steering 4.5°) จำหน่ายในราคา 7,580,000 บาท
Mercedes-Benz V 300 d Exclusive รถแวนระดับลักชัวรี่ 6 ที่นั่ง รุ่นนำเข้ามาตรฐานยุโรป จำหน่ายในราคา 5,820,000 บาท
BMW&MINI
BMW พร้อมเปิดตัวและขายตัวโหดสายพันธุ์ M พร้อมกัน 2 รุ่นคือ M4 CS และ M5 ซึ่ง M4 CS นอกจากความแรงระดับ 550 แรงม้าแล้ว ยังมากับตัวถังลดน้ำหนัก และอุปกรณ์ต่างๆ ที่แทบจะถอดมาจากรถแข่ง ส่วน M5 ก็รถพ่อบ้านสายซิ่งกับพละกำลังมหาศาล 585 แรงม้า รถซีดานอะไร 0-100 กม./ชม. 3.5 วินาที รายละเอียดทั้งสองรุ่นมีอยู่ในเว็ปไซต์ Carzanova เข้าไปดูได้ครับ
ขอต่อด้วยรถภายใต้หลังคาบ้านใหญ่เดียวกันอย่าง MINI ซึ่งได้เข้าสู่ยุค EV เต็มตัว หลังจากที่เปิดตัว MINI Cooper SE มากับค่าตัว 1.699 ล้านบาท แต่ไฮไลท์ในบูธ MINI ครั้งนี้น่าจะไปอยู่ที่ MINI Aceman SE ที่เปิดราคาไปแล้วตั้งแต่สิงหาคมที่ผ่านมากับค่าตัว 1.999 ล้านบาท จะว่าไปเจ้า Aceman SE นี้มันก็เปรียบเหมือน Contryman เวอร์ชั่น EV นั่นแหละครับ แต่มีการปรับทรงให้ดูเข้ากับการเป็นรถ EV เสียหน่อย ภายในกว้างขวางเป็นรถครอบครัวได้สบาย เข้า-ออกง่ายกว่า Cooper SE เยอะ
Aceman SE ยังคงใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหน้า 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ 7.1 วินาที ชาร์จเต็มวิ่งได้ 405 กม. (WLTP) มีโหมดการขับให้เลือก 7 โหมด ได้แก่ Core Mode, Go-Kart Mode, Green-Mode, Balance Mode, Timeless Mode, Vivid Mode และสุดท้าย Personal Mode
VOLVO
มาถึง Volvo ครั้งนี้พร้อมแล้วกับการเผยโฉม EX90 รถ SUV ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ขนาดตัวรถใหญ่กว่า XC90 เล็กน้อย คาดว่าน่าจะเอามาทั้งสองรุ่นย่อย โดยรุ่นแรกเป็น Twin Motor มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวหน้า-หลัง ขับเคลื่อน 4 ล้อ พละกำลัง 403 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 5.9 วินาที ชาร์จเต็มวิ่งได้ 600 กม. (WLTP) ส่วนอีกรุ่นเป็น Twin Motor Performance ใช้มอเตอร์สองตัวหน้า-หลังแบบเดียวกัน แต่เพิ่มพลังเป็น 517 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 910 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 4.9 วินาที ชาร์จเต็มวิ่งได้ 590 กม. (WLTP) ราคาเปิดในงาน คาดว่าเท่าไหร่ลองทายกันดูครับ
จีนแล้ว ญี่ปุ่นแล้ว เกาหลีแล้ว ยุโรปแล้ว มาถึงอเมริกันแบรนด์กันบ้างครับ
เพื่อให้อารมณ์ต่อเนื่องขอเริ่มจากรถ EV แบรนด์ที่คนไทยหมายปองอย่าง Tesla มีข่าวค่อนข้างชัวร์ว่า Motor Expo ครั้งนี้ Tesla จองพื้นที่ไว้แล้ว เพื่อเป็นการนำเสนอสินค้าในไลน์อัพทั้งหมดมาโชว์ และเราคาดว่าน่าจะเอาโมเดลใหม่อย่าง Model Y Juniper มาโชว์ในงานนี้ด้วย แต่รายละเอียดของรถยังไม่เป็นที่เปิดเผย รู้แค่ว่าหน้าตามันก็คือ Model Y รุ่นปัจจุบันปรับโฉมนั่นแหละครับ ราคาไม่ต้องพูดถึงเพราะยังไม่น่าจะเปิดขายในบ้านเรา
FORD
ภายใต้อเมริกันแบรนด์เก่าแก่อย่าง Ford นอกจาก Ranger และ Everest แล้ว เดาว่างานนี้เราน่าจะได้เห็น All-New Mustang รถสปอร์ตตัวแรงของค่าย ซึ่งล่าสุดเป็นเจเนอรชั่นที่ 7 ของ Mustang เปิดตัวในสหรัฐอเมริกามาได้พักใหญ่แล้ว มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.3 ลิตร เทอร์โบ EcoBoost และ V8 5.0 ลิตร แต่ที่จะมาประเทศไทยก่อนน่าจะเป็นตัว EcoBoost รูปทรงภายนอกยังคง DNA ของ Mustang รุ่นที่แล้ว แต่ปรับเปลี่ยนให้ดูทันสมัยมากขึ้นโดยเฉพาะหน้าและท้ายรถ ภายในโดดเด่นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ ต่างจากรุ่นเดิมๆ ไปค่อนข้างมาก มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัย ส่วนอ๊อพชั่นจะมาอย่างไรต้องรอชม
LOTUS
LOTUS CARS THAILAND เตรียมเผยโฉม ‘LOTUS CHAPMAN BESPOKE’ รถไฟฟ้าสปอร์ตพรีเมียมคอลเลกชันพิเศษ เปิดตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟเป็นประเทศที่ 2 ของโลก และเป็นประเทศแรกใน South East Asia ด้วยบริการแต่งรถสุดพิเศษที่คัสตอมไมซ์ระดับไฮเอนด์ เพื่อสร้างสรรค์รถยนต์ LOTUS ในคอนเซปต์เฉพาะของตนเองได้ กับสุดยอดยนตกรรม 2 รุ่น Flagship นำโดย รถไฟฟ้า Hyper-SUV รุ่น “ELETRE TYPE 79 (Black Gold Edition)” ด้วยสีดำพร้อมลายเส้นตัดขอบสีทอง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากรถฟอร์มูล่าวันคันแรกจากรุ่น LOTUS Type 79 และรถสปอร์ตไฟฟ้า Hyper-GT รุ่น “EMEYA Blossom (Limited Edition)” ที่อินสไปร์มาจากสีของดอกไม้ในช่วงฤดูร้อน East Carleton Manor ในโทนสีชมพูอมส้ม ถือเป็นคอลเลคชั่นสุดพิเศษที่มีเพียง 88 คันทั่วโลก เตรียมมาสัมผัสประสบการณ์ขับขี่อันทรงพลังครั้งใหม่กับ LOTUS CARS พร้อมดีลรถ Pre-Configuration สุดเอ็กซ์คลูซีฟจำนวนจำกัด
ทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างรถที่เรียงรายรอเข้างาน Motor Expo ปีนี้ อาจจะมีนอกเหนือจากนี้ อดใจรออีกไม่กี่วัน เราก็จะได้เห็นรถทั้งหมด แต่บอกเลยว่าเก็บแรงไว้ดีๆ เพราะปีนี้รถเยอะมาก เดินวันเดียวไม่น่าจะพอครับ
Photo credit: https://electrifynews.com/news/auto/2024-tesla-model-y-project-juniper-what-we-know-and-expect/