จากกระแสตอบรับรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ในบ้านเรา ที่กำลังได้รับความสนใจ มีปริมาณรถบนถนนมากขึ้นทุกวัน แต่ปัญหาเรื่องจุดชาร์จสาธารณะก็ยังเป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าปวดหัวปวดขมับอยู่ไม่น้อย
แม้หลายคนที่เป็นโปรเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าจะบอกว่าไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณซื้อหวยแล้วไม่ถูกทุกงวด ยังไงก็ต้องโชคร้ายเจอปัญหาบ้างอยู่ดี บางคนจะเข้าแอพจองจุดชาร์จยังยากเลย นี่ยังไม่รวมการจ่ายเงินที่บางผู้ให้บริการต้องหักบัตรเครดิตหรือเดบิตเพียงอย่างเดียว เติมเงินไม่ได้ คนที่ไม่ใช้บัตรพวกนี้ก็มีปัญหาอยู่ดี และยิ่งช่วงหน้าเทศกาล ที่มีปริมาณรถเดินทางล้นทะลักถนน บางคนบอกก็แค่จองตู้แล้วไปแวะชาร์จ แถมได้พักสายตาระหว่างชาร์จอีกต่างหาก แต่อย่าคิดว่าง่ายอย่างนั้นนะครับ เพราะหากการจราจรที่ติดขัดขนาดหนักช่วงหยุดยาว คุณเกิดไปไม่ทันเวลาจอง หรือแค่ไปช้ากว่าเวลาที่จองไว้ โอกาสที่จะเป็นนักสู้หน้าตู้ชาร์จก็มีไม่น้อย หรือการเดินทางของคุณก็อาจสะดุดไม่เป็นไปตามแผนได้ นี่ยังไม่รวมถึงตู้ชาร์จเสียหาย ชาร์จไม่ได้ หรือจ่ายกระแสไฟได้ไม่เต็มพิกัด
แต่ทั้งนั้นทั้งนี้บอกก่อนเลยนะครับว่าอย่ามาดราม่า ว่าผมไปบลูลี่รถไฟฟ้า แค่อยากแชร์ประสบการณ์ที่เคยเจอมาก่อนหน้านี้ เล่นเอาวุ่นวายอยู่พอสมควร จนทำให้ผมรู้สึกว่า หากปีนี้ผมจะเดินทางช่วงเทศกาลหยุดยาว อย่างปีใหม่ที่กำลังใกล้จะมาถึงนี้ ผมจะมองหารถยนต์พลังงานทางเลือก ที่นอกจากจะให้อัตราการประหยัดที่ดีแล้ว ก็ยังง่ายในการหาเติมน้ำมันเชื้อเพลิง
โดยรถพลังงานทางเลือกที่ผมหมายถึงนั้น ก็เป็นรถจำพวกที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าล้วน 100% อย่างรถยนต์ไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างแบตเตอรี่กับน้ำมัน หรือรถประเภทลูกผสมแบบเสียบปลั๊ก (Plug-in Hybrid) รวมไปถึงบ้างค่ายที่ใช้เทคโนโลยี e-Power หรือใช้น้ำมันเพื่อไปปั่นไฟเก็บไว้ให้มอเตอร์ไว้ขับเคลื่อน ซึ่งนอกจากจะสะดวกสบายในการเดินทางช่วงหน้าเทศกาลแล้ว ยังไม่ต้องทำให้หงุดหงิดเสียอารมณ์เวลาเกิดปัญหาอย่างที่ผมเกริ่นมาข้างต้น
ไหนๆ เราก็พูดถึงรถยนต์พลังงานทางเลือกกันแล้ว ลองมาสำรวจตลาดหน่อยดีกว่าว่ามีรถยนต์พลังงานทางเลือกในตลาดตอนนี้ที่ค่าตัวอยู่ประมาณ 1 ล้านบาทบวกลบ มีรุ่นไหน แบรนด์ไหนกันบ้าง
กลุ่มรถยนต์ไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV)
Toyota Corolla Cross HEV ราคา 1,094,000 – 1,204,000 บาท
เริ่มต้นกันที่ยักษ์ใหญ่ในบ้านเรากันเลยกับค่ายโตโยต้า กับรถเอสยูวีอเนกประสงค์ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ตอบโจทย์คนเมืองและครอบครัว ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร 2ZR-FXE ให้กำลังสูงถึง 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร และเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ารวม 122 แรงม้า ซึ่งขุมกำลังชุดนี้จะจับคู่การทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับ Toyota Corolla Cross HEV มีให้เลือก 2 รุ่น รุ่น Premium 1,094,000 บาท รุ่น Premium Luxury 1,204,000
TOYOTA YARIS CROSS ราคา 789,000 – 889,000 บาท
รถครอสโอเวอร์ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐาน Daihatsu New Global Architecture หรือ DNGA แบบเดียวกันกับ TOYOTA YARIS ATIV แต่มีขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่า โดยมากับขุมพลังไฮบริด 4 สูบแถวเรียง DOHC ความจุ 1.5 ลิตร Atkinson-cycle Dual VVT-i ที่ให้กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ 91 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 121 นิวตัน-เมตร คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะให้กำลังสูงสุด 111 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT โดยตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอ้างอิงตาม ECO Sticker 26.3 กม./ลิตร สำหรับ Yaris Cross HEV มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่น รุ่น Smart ราคา 789,000 บาท รุ่น Premium ราคา 849,000 บาท และ Premium Luxury ราคา 889,000 บาท
TOYOTA ALTIS ราคา 1,009,000 – 1,129,000 บาท
ซีดาน ที่มากับเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร 2ZR-FXE 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ VVT-i ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,200 รอบต่อนาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 71 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตัน-เมตร ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกันจะได้พละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ส่วนระบบส่งกำลังเป็นแบบอัตโนมัติ E-CVT และที่สำคัญ Altis HEV ใหม่ มากับแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ส่งผลให้อัตราความประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 23.8 กม./ลิตร (อ้างอิงจาก Eco Sticker) สำหรับ Altis HEV มีให้เลือกด้วยกัน รุ่น รุ่น Premium ราคา 1,009,000 บาท และรุ่น GR Sport ราคา 1,129,000 บาท
Honda HR-V e-HEV ราคา 899,000 – 1,179,000 บาท
ครอสโอเวอร์ทรงกล่อง ตัวถังกำลังพอเหมาะไม่เล็กจนเกินไป ห้องโดยสาร เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกที่นั่ง ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้ เครื่องยนต์รหัส LEC6 เบนซิน 4 สูบ Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี. พละกำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 – 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร ที่ 4,500 – 5,000 รอบ/นาที รองรับน้ำมันสูงสุด E20 แบตเตอรี่ Lithium-ion ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 131 แรงม้า ที่ 4,000 – 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ที่ 0-3,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 25.6 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับ HR-V e-HEV มีให้เลือก 3 รุ่น รุ่น E+ ราคา 899,000 บาท รุ่น EL 1,079,000 บาท และรุ่น RS 1,179,000 บาท
Honda Civic e:HEV ราคา 1,099,000 – 1,299,000 บาท
ซีดานยอดนิยมที่สปอร์ตโดดเด่นด้วยกระจังหน้า และกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟท้าย LED รมดำ ภายในห้องโดยสารกว้างสบายให้ความรู้สึกเท่ สปอร์ต ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย โดยขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร กับราคาเริ่มต้น 1,099,000 บาท ในรุ่น e:HEV EL+ และรุ่น e:HEV RS ราคา 1,299,000 บาท
Honda City e:HEV ราคา 729,000 – 799,000 บาท
City e:HEV มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมีตัวเลขอ้างอิงอัตราประหยัดน้ำมันขุมพลัง e:HEV 27.8 กม.ต่อลิตร Honda City ขุมพลัง e:HEV มีให้เลือก 2 รุ่น รุ่น SV ราคา 729,000 บาท และรุ่น RS ราคา 7999,000 บาท
MG VS HEV ราคา 699,000 บาท
เอสยูวีขุมพลังไฮบริดที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ VTi-TECH ความจุ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร เมื่อทั้งสองระบบทำงานร่วมกันจะให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 177 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ด้านอัตราสิ้นเปลือง MG VS HEV มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 24.4 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 98 กรัมต่อกิโลเมตร พร้อมเลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 3 รูปแบบ ECO COMFORT และ SPORT พร้อมด้วย KERS MODE ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ ในขณะชะลอรถ ตั้งค่าได้ถึง 3 ระดับ
Haval H6 HEV ราคา 1,099,000 บาท
H6 Hybrid เป็นการทำงานร่วมกันเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ Direct Injection ขนาด 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ขนาด 1.6 kWh ซึ่งเมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ได้พละกำลังสูงสุด 243 แรงม้า 530 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20
กลุ่มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)
Haval H6 PHEV ราคา 1,249,000 บาท
เอสยูวีเสียบปลั๊กที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ Direct Injection ขนาด 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ ให้พละกำลังสูงสุด 154 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ได้พละกำลังสูงสุด 326 แรงม้า 530 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ด้านแบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-Ternary (NMC) ขนาด 34 kWh แบบ CTP Cell-to-pack พร้อมระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟ Plug-in Hybrid วิ่งด้วย EV Mode ไฟฟ้าล้วน ระยะทางสูงสุด 201 km. ตามมาตรฐาน NEDC
MG HS PHEV ราคา 1,299,000 บาท
รถเอสยูวีลูกผสมแบบปลั๊กอินไฮบริดที่สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% หรือ EV Mode ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร โดยเครื่องยนต์เป็นแบบเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 122 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ที่ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เพียง 0.2 วินาที โดยแบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-ion แบบ 6 โมดูล ขนาด 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งข้อดีของมันคือ ถ้าแบตเตอรี่มีปัญหา สามารถเปลี่ยนเป็นโมดูลได้ ไม่ต้องยกแบตเตอรี่เปลี่ยนทั้งลูก
กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยี e-Power
NEW NISSAN KICKS ราคา ราคา 849,900 – 979,900 บาท
รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ต้องรอชาร์จ เพราะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ รองรับน้ำมัน E20 ความจุถังน้ำมัน 41 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า รหัส EM47 พละกำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 3,410 – 9,697 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,410 รอบ/นาที แบตเตอรี่ Lithium-ion 2.06 kWh 4 Modules 96 Cells ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร สำหรับ NEW NISSAN KICKS E-POWER มีให้เลือก 3 รุ่น รุ่น V ราคา 849,900 บาท รุ่น VL ราคา 919,900 บาท และรุ่น Autech ราคา 979,900 บาท