เก๋งเล็กอีโคคาร์ซีดานกลุ่ม B Segment ที่ขายในบ้านเราตอนนี้ มีอยู่ไม่กี่รุ่น เห็นๆ ก็จะมี Toyota Yaris Ativ, Honda City Sedan, Mitsubishi Attrage, Mazda2 Sedan, MG5 Pro และ Suzuki Ciaz ที่ตอนนี้ Suzuki ก็เทขาย Ciaz หมดสต๊อคหมดหน้าตักไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าเจาะตลาดรถกลุ่มนึ้ให้ลึกลงไปอีก ดูกันจริงๆ แล้ว ก็จะมีขับเคี่ยวกันอยู่แค่ 2 แบรนด์หลัก นั่นก็คือ Toyota Yaris Ativ และ Honda City Sedan โดยครั้งนี้เราหยิบยืมเอาเจ้า Yaris Ativ ตัว Premium Luxury ที่จับยัดออปชั่นมาแบบแน่นๆ จุกๆ เต็มพิกัด เพื่อทำให้ได้รู้ว่า ถ้าจะเล่นราคา ใส่ออปชั่น ข้าก็ทำได้
ภายนอก
มาดูกันที่ดีไซน์ภายนอกกันก่อน สำหรับ โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ดูโดยรวมถือว่ามีความสปอร์ตทันสมัย กับตัวรถสไตล์ Fastback แถมโดดเด่นด้วยชุดแต่งรอบคัน ทั้งสเกิร์ตด้านข้าง-ด้านหลัง พร้อมสปอยเลอร์หลังสีดำ โดยด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าสีดำเงา และวัสดุตกแตงไฟตัดหมอกสีดำเงา เข้าชุดกับไฟหน้าเป็นแบบ Full LED พร้อม LED Light Guiding ที่มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้า และระบบ Follow-me-home ด้านไฟท้ายเป็นแบบ Led light Guiding ขยับมาด้านข้างเลือกใช้ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทนขนาดยอดฮิต 15 นิ้ว กับยาง Yokohama BluEarth -FE AE30 ขนาด 195 /50 R15 เสาอากาศแบบครีบฉลาม ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและปรับตั้งเวลาแบบอัตโนมัติ โดย โตโยต้า ยาริส เอทีฟ มีมิติตัวตัวรถ ยาว 4,425 มม. กว้าง 1,740 มม. สูง 1,480 มม. และมีความยาวช่วงล้ออยู่ที่ 2,550 มม.
ภายใน
ห้องโดยสารภายในของโตโยต้า ยาริส เอทีฟ ตัวพรีเมี่ยม ลักชูรี่ มาด้วยโทนสีดำ-แดง แต่อิงไปทางสีแดงซะมากกว่า เพราะเบาะนั่งที่หุ้มด้วยวัสดุหนังแท้และหนังสังเคราะห์เป็นสีแดง แต่น่าเสียดายที่ไม่ให้เบาะปรับไฟฟ้าด้านคนขับมาให้ด้วย โดยเป็นการปรับธรรมดา ที่ปรับระดับสูง – ต่ำได้ แต่ก็ชดเชยมาให้ด้วยออปชั่นและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่แบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ที่มีระบบ T-Connect ช่องเสียบ USB และ Bluetooth ในตัว ในขณะที่ความบันเทิง จัดลำโพงชุดใหญ่ของ Pioneer มาให้ เพื่อสร้างความสุนทรีในระหว่างเดินทาง
ระบบความปลอดภัย
ด้านระบบความปลอดภัยถือว่าจัดเต็มให้มาแบบจุกๆ ทั้งถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ที่เอาจริงๆ สำหรับผม จะขาดฟีเจอร์นี้ไปไม่ได้ แต่สำหรับ ยาริส เอทีฟ ตัวพรีเมี่ยม ลักชูรี่ อาจจะหงุดหงิดหน่อยกับการเบรกที่รุนแรง และเร่งแบบเอาเป็นเอาตาย เพื่อไล่ระดับความเร็ว, ระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ทำงานร่วมกับกล้องมองรอบคัน และอื่นๆ อีกหลายรายการที่อัดแน่นมาอำนวยความสะดวก
สมรรถนะ
ยาริส เอทีฟ ยังไม่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริด แต่ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาดความจุ 1,197 ซี.ซี. แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-iE มอบพละกำลังสูงสุด 94 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Sequential Shift ที่ตามสเปคให้ความประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนลองขับจริงจะได้เท่าไหร่เดี๋ยวบอกกันอีกที ส่วนมลพิษได้มาตรฐาน EURO 5 มากับสวิตซ์ปรับโหมดการขับขี่บนพวงมาลัยได้ถึง 3 แบบ ได้แก่ โหมด ECO, โหมด NORMAL และโหมด SPORT ส่วนช่วงล่าง ด้านหน้าจะใช้แบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังใช้แบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง พร้อมมเหล็กกันโคลง ขณะที่ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ
รีวิวหลังขับ
ด้านรูปร่างหน้าตา ต้องบอกว่าดูสปอร์ตหรูหราดีกับตัวถังแบบ Fastback จะมีที่น่าน้อยใจเล็กๆ ก็แค่ในรุ่นท็อป Premium Luxury ยังใส่แม็กซ์แค่ขอบ 15 มาให้ แต่ก็เข้าใจได้ว่าต้องการให้อัตราเร่งตีนต้นดี ถ้าไปใส่ของ 16 ก็จะอืดขึ้นอีกหน่อย ส่วนภายในห้องโดยสาร ร้อนแรงกับเบาะนั่งสีแดง แต่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเมื่อเบาะแดงอยู่ในเซกเมนต์นี้ แต่ถ้าพูดถึงออปชั่นอันนี้ต้องบอกว่าโตโยต้าเขาให้มาแบบไม่ยั้ง เอาให้ให้รู้กันไปเลยว่าถ้าจะทำตลาดกันด้วยออปชั่น โตโยต้าก็ทำได้ แต่ออปชั่นหรือระบบต่างๆ นั้น มันอาจจะทำงานไม่สมูทไม่เสถียรเท่ารุ่นพี่ๆ อย่างอัลติส หรือคัมรี่ แต่ก็มีมาให้ใช้เหมือนกัน เรียกได้ว่ามีมาเพื่อปิดช่องทางของคู่แข่งอย่างนั้นก็ว่าได้
ขณะที่สมรรถนะของขุมพลัง ยาริส เอทีฟ ต้องถือว่าไม่ใช่ Best in Class เพราะคู่แข่งอีกแบรนด์ที่เค้าใส่ ขุมพลังเทอร์โบหรือไฮบริดมาในรถเซกเมนต์นี้แล้ว แต่ทางยาริส เอทีฟ ยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปล้วนแบบเบนซินอยู่ โดยสเปคของเครื่องยนต์บล็อคนี้มีขนาดความจุ 1,197 ซี.ซี. 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-iE 94 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ซึ่งฟิลลิ่งของเครื่องยนต์และเกียร์ชุดนี้ ต้องบอกว่าเน้นการขับขี่แบบทั่วไป ไม่ได้เน้นความแรงอะไรเหมือนอีกค่ายที่ใช้ขุมพลังเทอร์โบที่แรงที่สุดในเซกเมนต์นี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโตโยต้าก็พยายามชดเชยความแรงด้วยอัตราเร่งที่เลือกใช้เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Sequential Shift ซึ่งจะว่าเป็นก็พอถูไถไปได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่อยู่ในระดับ 13-14 กม./ลิตร ทั้งที่จริงๆ แล้วผมว่าน่าจะทำได้มากกว่านี้
เรื่องความแรงอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับผมจะเลือกรถใช้งานซักคัน แต่จุดสำคัญคือเรื่องการควบคุม เพราะมันหมายถึงความปลอดภัย ซึ่งเจ้ายาริส เอทีฟ ผมถือว่าเรื่องการควบคุมอยู่ในระดับหัวๆ ของรถกลุ่มนี้ โดยช่วงล่างที่ด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังใช้แบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง พร้อมมเหล็กกันโคลง ถูกเซ็ตอัพมาได้กำลังดี ไม่นิ่มและก็ไม่กระด้างจนเกินไป ขับในเมืองใช้งานนั่งสบาย ส่วนถ้าขับนอกเมืองใช้ความเร็ว ก็หนึบแน่นเกาะถนน ไม่ใช่เน้นแรงอย่างเดียว แต่ช่างล่างไม่เอาเลย อย่างนี้ก็ไม่ไหว
แต่จุดที่น่าปรับปรุงอีกซักหน่อยก็คือเรื่องของระบบพวงมาลัยที่เป็นแบบไฟฟ้า EPS ซึ่งเซ็ตอัพมาน้ำหนักเบามือดี ซึ่งเอาจริงๆ มันก็เหมาะกับการใช้งานในเมืองนั่นแหล่ะ แต่พอขับความเร็วสูงซึ่งน้ำหนักมันก็แปรผันตามความเร็วแหล่ะ เพียงแต่แค่มันยังรู้สึกว่ายังหนักไม่พอ ยังรู้สึกเบาๆ โหวงๆ ไปนิด ถ้าเซ็ตหรือปรับให้หนักมือกว่านี้ก็หน่อยล่ะก็ เพอเฟ็กต์!! สำหรับผมเลยครับ
สุดท้ายที่ต้องชมอีกเรื่องคือเรื่องระบบความปลอดภัยที่ใส่มาให้แบบเต็มสตรีมในรถกลุ่มนี้ ซึ่งถ้าให้พูดกันตามตรง ว่าก่อนหน้านี้โตโยต้า ไม่เคยยัดออปชั่นมาให้แน่นๆ ขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะรถจีนที่เล่นใส่ออปชั่นมาแน่นๆ ตั้งแต่รถกลุ่มล่างๆ ทำให้เจ้าตลาดอย่างโตโยต้าต้องออกโรงโชว์ซะหน่อยว่า ถ้าจะให้สู้กันเรื่องออปชั่น ข้าก็ไม่แพ้เองนะ เรื่องนี้ผลประโยชน์ก็เลยตกมาเป็นของผู้บริโภคที่ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ รวมไปถึงระบบเบรก ที่แต่ก่อนรถกลุ่มนี้คงจะได้แค่ หน้าดิสก์ หลังดรัมเบรก แต่ยุคนี้โตโยต้าจัด ดิสก์ 4 ล้อ แถมเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Brake Hold ให้มาเลย … เลิศๆ
ซึ่งถ้าให้สรุปสำหรับรถกลุ่มนี้ ก็ต้องบอกว่า Toyota Yaris Ativ เตรียมพร้อมมากวาดยอดขายในรถกลุ่มนี้จริงๆ ก็พี่ใหญ่ใส่ออปชั่นมาเต็ม แบบจุกๆ ขนาดนี้ น้องเล็กในตลาดก็มีเหวอกันบ้างแหล่ะ ส่วนถ้าใครไม่ได้มองรุ่นท็อป Premium Luxury ยาริส เอทีฟ ก็มีรุ่นรองลงมาให้เลือก ตามความพอใจ โดยมีทั้งหมด 4 รุ่น ตามราคาดังนี้
- Sport ราคา 549,000 บาท
- Smart ราคา 594,000 บาท
- Premium ราคา 669,000 บาท
- Premium Luxury ราคา 699,000 บาท
ใครพอใจกับออปชั่นรุ่นไหน ก็ลองเลือกกันได้เลยครับ ….