• Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result
  • Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result

รีวิว!! Ford Ranger Wildtrak Diesel V6 … เสริมไลน์พรีเมี่ยม ขยับเข้าใกล้ Raptor

Admin by Admin
May 8, 2024
in Review
16
SHARES
143
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

ต้องบอกว่า Ford เป็นกระบะ ที่ไม่ทำตลาดเหมือนเจ้าอื่นๆ ที่เน้นออกไลน์อัพจับกลุ่มแมส แต่ Ford จะเน้นออกตัวไลน์อัพตัวบนหรือตัวพรีเมี่ยม เริ่มจากตอนแรก ที่มีแค่ตัว Wildtrak ต่อมาขยับเปิดไลน์อัพที่สูงขึ้นอย่าง Stormtrak และล่าสุดเปิดตัว Wildtrak V6 ดีเซล 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้า กับราคาค่าตัว 1,519,000 บาท ซึ่งเครื่องยนต์บล็อคนี้จะเป็นอย่างไรเราไปพิสูจน์กัน

Ford Ranger Wildtrak V6 3.0 เป็นไลน์อัพที่แทรกกลางระหว่าง Stormtrak 2.0L Bi-Turbo 4×4 ค่าตัว 1,414,000 บาท กับ Raptor 2.0L Bi-Turbo 4WD ค่าตัว 1,799,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร Bi-Turbo กำลังสูงสุด 210 แรงม้า โดยหากใครจะหวังว่า Ford จะจับเอาเครื่องยนต์บล็อคนี้มาใส่ในกระบะ Performance อย่าง Raptor บอกเลยว่าไม่มีสิทธิ์ เพราะทาง Ford บอกมาแล้วว่า จะไม่เอาเครื่องยนต์บล็อคนี้ไปใส่ในกระบะ Raptor ถึงตรงนี้คงต้องเลือกแล้วว่าจะขับ Ford Ranger Raptor ที่มีเครื่องยนต์ 2 บล็อคให้เลือกกับตัวแรง เบนซิน V6 ที่แรงทะลุเดือด แต่กินน้ำมันซะเหลือกเกิน หรือจะขับแค่ตัวดีเซล 2 ลิตร 4 สูบ ที่ความแรงอาจไม่ทันใจ แต่ประหยัดน้ำมัน หากถ้าต้องการเครื่องยนต์ที่แรงดี แถมประหยัดน้ำมัน คงต้องหันมามอง Ford Ranger Wildtrack ดีเซล V6 คันที่ผมกำลังจะรีวิวนี้

ดีไซน์ภายนอก-ภายใน ยกมาจาก Wildtrak

Ford Ranger Wildtrak V6 มีการตกแต่งภายนอกและภายในห้องตามแบบฉบับ Wildtrak เพราะเป็นการยกรุ่น Wildtrak มาอัพเกรด แต่ครั้นจะไม่ใส่ฟีเจอร์อะไรเพิ่มมาให้เลยนั้นก็ดูจะไม่เข้าท่า เลยจับยัดฟีเจอร์เพิ่มจากเดิมนิดหน่อย ได้แก่ ระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าคือฟีเจอร์อะไร ขออธิบายสั้นๆ ว่าเจ้า Zone Lighting นี้ มันจะการทำให้รถเหมือนเป็นดังตะเกียง ที่สามารถให้แสงสว่างรอบรถได้ แต่ไฮไลท์อยู่ที่มันสามารถเลือกได้ว่าจะให้ส่องสว่างโซนไหน ไม่ว่าจะหน้ารถ หลังรถ หรือข้างรถ สามารถเลือกเปิดได้หมดจุดต่อไปก็จะเป็น สัญลักษณ์ V6 บริเวณแก้มข้างด้านหน้า ซึ่งตรงนี้ผมชอบความไม่ตะโกนด้วยตัวสัญลักษณ์ตัวใหญ่โต แต่มีไว้เล็กๆ เพียงแค่บอกว่าข้านี่คือ V6 กระบะคันละล้านห้า อะไรแค่นี้ … และปิดท้ายด้วย ล้ออัลลอยสีทูโทน ขนาด 20 นิ้ว หุ้มยางขนาด 225/55 R20

ส่วนภายในห้องโดยสารก็อย่างที่บอกตกแต่งสไตล์ Wildtrak เน้นโทนสีดำแต่เล่นตะเข็บสีส้ม หน้าจอกลางเป็น SYNC 4A แบบ Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto พร้อม ลำโพง 6 ตำแหน่ง รวมถึงมีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายมาให้

สมรรถนะเต็มสูบกับขุมพลังดีเซล V6 สูบ 3.0 ลิตร ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5

มาถึงไฮไลท์สำคัญของรถคันนี้ ซึ่งหนีไม่พ้นเรื่องของเครื่องยนต์ดีเซล V6 ความจุ 3.0 ลิตร ที่ถูกประกอบจากโรงงานในประเทศอังกฤษ โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้ เคยถูกใช้ใน Ford F-150 Series รุ่นปี 2018 และ Everest ที่ขายในออสเตรเลีย มาดูสเปคของขุมพลังบล็อกนี้ที่ให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 – 2,250 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด รองรับน้ำมัน B20 ได้ และที่สำคัญผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ตามมาตรฐานรถเพื่อการพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4A AWD ที่ต้องบอกว่าเป็นระบบขับเคลื่อนที่ฉลาดดีเหลือกเกิน ซึ่งมันจะสั่งการระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ว่าจะให้ Transfer กำลังไปที่ล้อไหนเท่าไหร่ เหมาะกับคนที่ไม่ได้คล่องเรื่องระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ หากขับเข้าทางทุรกันดาร หรือทางออฟโรดเข้าโหมดนี้ก็มีหน้าที่แค่ขับ ที่เหลือรถมันจัดการให้ อีกทั้งยังมาพร้อม 6 โหมดให้เลือกใช้งาน Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery, Mud/Ruts และ Sand เรียกได้ว่าสบายสุดๆ ไปเลย

เครื่องยนต์ดีเซล V6 ความจุ 3.0 ลิตร

มาถึงช่วงทดลองขับ ต้องบอกว่าเจ้า Ranger Wildtrak V6 ที่ดูจะโชว์จุดขายด้านความแรง แต่พอขับจริงๆ พละกำลัง 250 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตัน-เมตร มันไม่ได้แรงกระโชกใจอะไรขนาดนั้น โดยเฉพาะช่วงออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง อัตราเร่งมันมาแบบค่อยๆ มาตามสไตล์เครื่อง V6 แต่พอลอยตัวคราวนี้ เรียกอัตราเร่งเมื่อไหร่ มีแรงม้า แรงบิด พร้อมให้ใช้งาน โดยฟิลลิ่งของเครื่องบล็อคนี้ผมว่ามันเป็นเครื่องยนต์ที่แรงแบบสุภาพเป็นสไตล์กระบะผู้ดี แถมเสียงเครื่องยนต์ถ้าไม่บอกว่าเป็นดีเซล แทบจะไม่เชื่อ เพราะเสียงเครื่องยนต์ที่เข้ามาในห้องโดยสารมันเงียบดีเสียเหลือเกิน บวกกับได้เกียร์อัตโนมัติแบบ 10 สปีด ที่สามารถเปลี่ยนอัตราทดได้ราบลื่นไหล ยิ่งรู้สึกสมูทเข้าไปอีก สรุปโดยรวมแล้วเครื่องยนต์ของ Ranger Wildtrak V6 ผมถือว่าโอเคเลย เป็นเครื่องที่เน้นการตอบสนองแบบนุ่มนวลแต่ทรงพลัง และอัตราการกินน้ำมันก็รับได้หากใช้ในชีวิตประจำวัน โดยตัวเลขก็วิ่งอยู่ที่ 10 กม./ลิตร บวกลบ แล้วแต่การขับขี่ ซึ่งถือว่ารับได้

ระบบช่วงล่าง เด่นที่ช็อค Monotube

ขณะที่ช่วงล่างของ Ranger Wildtrak V6 ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง โดยมากับช็อคอัพแบบ Monotube ส่วนด้านหลังแบบแหนบซ้อน พร้อมช็อคแบบ Monotube เช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างไปจาก Ranger รุ่นอื่น ก็คือจะมีการเสริมด้วยคอม้าที่ทำจากวัสดุอะลูมิเนียมเพื่อรองรับน้ำหนักเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้น และที่สำคัญมาพร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบดิฟล็อกหลังแบบไฟฟ้า

สำหรับฟิลลิ่งการขับขี่การควบคุม ต้องยอมรับว่าทาง Ford เซ็ตอัพช่วงล่างมาได้ดีมากๆ ขับแล้วถ้าไม่มองกระจกหลังไปเห็นท้ายกระบะ นึกว่ากำลังขับเอสยูวีอยู่ ประกอบกับการได้พวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักได้ตามความเร็วและมีความแม่นยำสูงเข้าไปด้วยแล้ว ยิ่งทำให้รถกระบะคันนี้ เป็นรถกระบะที่ขับง่าย ขับสนุกก และขับสบาย ไม่แพ้รถเอสยูวี

ระบบความปลอดภัยมีให้เพียบ

ด้านระบบความปลอดภัยของ Ranger Wildtrak V6 ประกอบด้วย ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Alert) ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System – BLIS® with cross-traffic alert) กล้องมองรอบคัน 360 องศา ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steering Assist)

ขณะที่ระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบกล้องมองรอบคัน 360 องศา พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะหน้า-หลัง, ระบบควบคุมการทรงตัว ESP, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบเบรก ABS / EBD, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA, ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) และถุงลมนิรภัย 7 จุด (คู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า)

สรุป

ปิดท้ายที่ค่าตัว 1,519,000 บาท หลายคนอาจจะมองว่า จะบ้าไปแล้วเหรอ แต่ก่อนกระบะคันละล้าน ก็โคตรแพงแล้ว มาตอนนี้ซื้อรถกระบะทีคันละล้านห้า แม่เจ้า!! แต่เชื่อเถอะครับว่าแฟนคลับ Ford Ranger ไม่บ่นซักคำ และถ้ายิ่งได้ลองขับแล้ว ผมเชื่อว่า ราคานี้ ไม่แพง … แต่แอบเสียดายที่เครื่องยนต์บล็อกนี้ไม่ถูกจับใส่ใน Ford Ranger Raptor ไม่งั้นสำหรับผม ตัดสินใจง่ายเลยครับ

Related Posts

ส่องรถใหม่ครึ่งปีหลัง 68 …
Review

ส่องรถใหม่ครึ่งปีหลัง 68 …

July 11, 2025
สงครามรถตู้ เอาไงดี??จีน เกาหลี หรือญี่ปุ่น
Review

สงครามรถตู้ เอาไงดี??จีน เกาหลี หรือญี่ปุ่น

July 8, 2025
ค่ายรถ แอบบ่น … กระบะพี่ มีคลังค้ำ ยังไม่ค่อยตอบโจทย์ ไฟแนนซ์ยังเข้มงวดอยู่ดี
Review

ค่ายรถ แอบบ่น … กระบะพี่ มีคลังค้ำ ยังไม่ค่อยตอบโจทย์ ไฟแนนซ์ยังเข้มงวดอยู่ดี

July 15, 2025
เจาะจุดเด่น New Porsche 911 Carrera GTS ที่มาพร้อมระบบ T-Hybrid รุ่นล่าสุด
Review

เจาะจุดเด่น New Porsche 911 Carrera GTS ที่มาพร้อมระบบ T-Hybrid รุ่นล่าสุด

July 4, 2025

Category

  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
  • Uncategorized

Tags

Bentley BRIC Superbike BYD Fast Auto Show Thailand Fast Auto Show Thailand 2025 Ford GWM Honda Hyundai JAECOO KIA Lamborghini Lexus Mercedes-Benz MG MINI Mitsubishi MOTIF Motorrad NETA Nissan Porsche Rolls-Royce Suzuki Toyota Volvo XPENG Yamaha Zeekr ฺBMW

About

มิติใหม่แห่งข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในแวดวงยานยนต์ และไลฟ์สไตล์ บนโลกออนไลน์ ในรูปแบบวาไรตี้ ที่ไม่ควรพลาด

Categories

  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
  • Uncategorized

Browse by Tag

Bentley (1) BRIC Superbike (1) BYD (2) Fast Auto Show Thailand (1) Fast Auto Show Thailand 2025 (1) Ford (1) GWM (3) Honda (1) Hyundai (1) JAECOO (1) KIA (2) Lamborghini (2) Lexus (1) Mercedes-Benz (1) MG (1) MINI (1) Mitsubishi (1) MOTIF (1) Motorrad (1) NETA (1) Nissan (1) Porsche (2) Rolls-Royce (1) Suzuki (1) Toyota (3) Volvo (1) XPENG (2) Yamaha (2) Zeekr (1) ฺBMW (2)

Recent Posts

  • กรังด์ปรีซ์ฯ ผุดโปรเจ็กต์ใหม่ “THAILAND DIECAST EXPO” งานแสดงสินค้า โมเดลรถและของสะสมไดแคสต์ (Diecast) ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
  • Lamborghini Temerario GT3 สายพันธุ์สนามแข่งขันจากโรงงานซัง’อกาตา

© 2024 CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์

No Result
View All Result
  • Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle

© 2024 CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์