• Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result
  • Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result

กระแส EV แรง แต่ยังแซงไฮบริดไม่ได้!!

Admin by Admin
January 13, 2025
in Review
29
SHARES
268
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

ไม่ว่าใครก็ต้องยอมรับว่ากระแสรถยนต์ EV หรือรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรามาแรงเกินต้านทาน ไม่ต้องย้อนกลับไปไกลให้ต้องมาเปิดปฏิทิน เอาแค่ความสนใจและฟีดแบคของรถ EV ในงาน Motor Expo 2024 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา มันก็เห็นชัดแล้วว่าบูธแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนที่รถส่วนใหญ่เป็น EV คนให้ความสนใจเข้าไปดูรถกันแบบบูธแทบแตกเกือบทุกวัน ในบริเวณพื้นที่ของการทดลองขับ ลูกค้าลงทะเบียนมาทดลองขับรถ EV สัญชาติจีนกันทั้งวันตั้งแต่งานเริ่มจนปิดช่วงการทดลองขับ

เพราะอะไรคนไทยถึงตื่นตัวกับกระแสรถยนต์ EV กันขนาดนี้? ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์มันก็เป็นหนึ่งในแฟชั่นชิ้นใหญ่ที่ถ้าเห็นเพื่อนใช้ ฉันก็อยากใช้บ้าง ซึ่งหลายคนมองข้ามความจำเป็นและเหมาะสมไปเลย ตามมาด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวยงามล้ำสมัยดูอินเทรนด์กับโลกยุคใหม่ บวกเข้าไปกับเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นที่ถูกใจคนรุ่นใหม่เสียเหลือเกิน อยากได้อะไรก็มีให้หมด พร้อมความภูมิใจที่ว่า ต่อไปนี้ฉันไม่ต้องเติมน้ำมันแล้ว รถฉันไม่ปล่อยไอเสียแล้วนะ และที่สำคัญคือ ราคาค่าตัวที่ไม่ลำบากเอาเสียเลย พูดง่ายๆ ว่าอยากได้ก็ซื้อ ไม่เดือดร้อนกระเป๋าสตางค์มากมาย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น…ผ่านช่วงงานมาหลายวัน หลายยคนคิดว่ายอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo ครั้งนี้น่าจะเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีรถยนต์ EV จำหน่าย ซึ่ง BYD ก็ติดท็อปหัวตารางมาหลายวัน แต่สุดท้ายแล้วแบรนด์รถยนต์ที่มียอดจองสูงสุดในงาน มันกลับไม่ใช่แบรนด์ที่มีรถยนต์ EV จำหน่าย แต่แชมป์ยอดจองในงานกลับเป็นของ Toyota ซึ่งก็ไม่ได้มีรถยนต์ EV มาขายในงานนี้ ซึ่งแน่นอนว่าความหลากหลายของโมเดลรถยนต์ที่มีจำหน่ายย่อมส่งผลถึงยอดจอง อย่าง Toyota ที่มีทั้งกระบะ พีพีวี เอสยูวี ซีดาน และอื่นๆ อีกมากมาย ในขณะที่อันดับ 2 เป็นของ BYD ที่ก็มีรถยนต์หลากหลายรุ่นหลากหลายแบบเข้ามาจำหน่ายเช่นเดียวกัน ส่วนอันดับ 3 เป็นของ Honda ซึ่งก็ไม่มีรถยนต์ EV จำหน่ายเช่นกัน แม้จะมี e:N1 มาโชว์แต่ก็ไม่ได้จำหน่าย แต่ค่ายนี้เคี้รุ่นขายดีซึ่งก็เป็นรถยนต์ HEV ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Civic, HR-V, CR-V หรือ Accord

ถึงตรงนี้คุณผู้อ่านลองย้อนกลับไปบรรทัดแรกๆ ที่ผมบอกว่า รถยนต์แบรนด์จีนในงานบูธแทบแตก รวมถึงการทดลองขับของลูกค้าในงานก็มีแต่รถยนต์ EV จีนที่วิ่งกันทั้งวัน แต่ทำไมแชมป์และยอดจองรถยนต์ส่วนใหญ่กลับไม่ใช่รถยนต์ EV สัญชาติจีน??

ผมตอบตามทัศนะส่วนตัวของผมว่า ถึงเวลาซื้อรถใช้งานจริงๆ แล้วลูกค้าคนไทยส่วนใหญ่ หรืออีกจำนวนมาก ไม่ได้เลือกซื้อรถยนต์จากกระแส แฟชั่น หรือรูปร่างหน้าตาที่หวือหวามาใหม่ล้ำสมัย และเทคโนโลยีที่เลิศล้ำ แต่ยังคงคำนึงถึงความน่าเชื่อถือ พอพูดถึงความน่าเชื่อถือเดี๋ยวทัวร์ก็จะมาลงผมอีกว่า แล้วค่ายรถจีนไม่น่าเชื่อถือตรงไหน!!! ใจเย็นก่อนนะครับ ความน่าเชื่อถือของผมหมายถึง ระยะเวลาของแบรนด์นั้นๆ ที่ทำธุรกิจในประเทศไทย ชื่อเสียงในแง่ดีของแบรนด์ที่สร้างมาอย่างต่อเนื่อง คุณภาพสินค้าที่สร้างความพึงพอใจมาเป็นระยะเวลานาน และที่สำคัญที่สุดคือเรื่อง After Sales Service หรือพูดง่ายๆ คือ บริการหลังการขายหรือศูนย์บริการ อย่างน้อยด้วยความที่แบรนด์ญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่อยู่ในประเทศไทยมานาน มันก็สร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้าที่เน้นเรื่องนี้ได้มากกว่าพอสมควร ศูนย์ไหนไม่ดี งานปัญหาแก้ไม่หาย ก็ไปหาศูนย์ใหม่ได้ หรือหลายคนเมื่อเลิกเข้าศูนย์หลังรถหมดระยะประกัน เอาเข้าไปเซอร์วิสกับอู่ข้างนอก ก็ยังมั่นใจได้ว่ามีอะไหล่เบิกได้ง่ายๆ และอู่ต่างๆ ก็ชำนาญการซ่อมรถแบรนด์ญี่ปุ่นกันมาเป็นอย่างดี

แม้กระทั่งรถยนต์ไฮบริดที่สมัยก่อนกลัวนักกลัวหนาว่ามันซ่อมยากหรือซ่อมไม่ได้ เดี๋ยวนี้อู่ซ่อมรถไฮบริดในประเทศไทยเพียบครับ ซึ่งเมื่อเทียบกับรถ EV ค่ายจีน วันนี้ยังถือว่าใหม่มากสำหรับใครหลายๆ คน ซึ่งยังคงอาจกังวลว่าศูนย์บริการจะซ่อมได้มั้ย? อะไหล่มีรองรับหรือต้องรอนานหรือไม่? ถ้าไม่ใช่ศูนย์บริการของทางค่าย จะมีอู่ข้างนอกที่ซ่อมได้แล้วหรือยัง? ถ้าหากมีคำถามเหล่านี้อยู่ในใจ ผมเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มนั้นยังไงก็ยังไม่ไปรถจีนจนกว่าจะแน่ใจจริงๆ หรืออาจขอรอเวลาอีกสักพัก

แต่รถยนต์ EV มันก็น่าสนใจนะ?? ในแง่ไหนล่ะ ถ้าในเรื่องของดีไซน์ภายนอก ภายใน เทคโนโลยี ฟังก์ชั่น อันนั้นผมไม่เถียงเลย เขาล้ำหน้าไปกว่ารถญี่ปุ่นมาก และที่สำคัญมาในราคาที่ถูกกว่าเสียด้วย สมรรถนะการขับขี่ก็ดี เงียบ เร็ว แรง แต่ทำไมตัวเลือกที่เป็นรถยนต์ไฮบริดก็ไม่ได้ลดความนิยมลง แถมยังดูเพิ่มเสียด้วยซ้ำ ถ้าไม่นับเรื่องความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่ผมกล่าวไปแล้ว ผมมองว่า ประสิทธิภาพของระบบไฮบริดรุ่นใหม่ๆ มันพัฒนาไปจากเดิมมาก ในลักษณะการขับใช้งานทั่วไป

รถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ๆ ถูกออกแบบให้ใช้กำลังจากมอเตอร์เตอร์ไฟฟ้าส่งไปที่ล้อมากกว่ากำลังจากเครื่องยนต์ ซึ่งก็หมายถึงการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่น้อยลงตามไปด้วย มีการปรับปรุงพัฒนาทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าคุณได้ลองขับรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ๆ จะรู้เลยว่าในช่วงการเดินทางที่ใช้ความเร็วคงที่ มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานมากกว่าเครื่องยนต์ นี่ผมยังไม่นับรวมรถยนต์ประเภท Plug-in Hybrid (PHEV) ที่บางครั้งขับจากบ้านไปที่ทำงาน เครื่องยนต์แทบไม่ทำงานเลย นั่นหมายถึงความประหยัด ยกตัวอย่างง่ายๆ จากที่ผมเคยขับใช้งานจริงมา เอาสักรุ่นสองรุ่นที่ฮิตๆ แล้วกันครับ เริ่มจาก Toyota Corolla Cross HEV ขับใช้งานทั่วไปในเมืองสลับขึ้นทางด่วนตามปกติ อัตราสิ้นเปลือเชื้อเพลิงคำนวนมาแล้วอยู่ที่ประมาณ 22-23 กม./ลิตร ส่วนอีกคันเป็นรถอีกแบรนด์ที่เพิ่มขนาดขึ้นมา Honda CR-V e:HEV AWD ขับใช้งานรูปแบบเดียวกันเป๊ะ ได้อยู่ที่ประมาณ 15 กม./ลิตร

ถามว่าถ้าเทียบกับรถ EV ที่ชาร์จไฟฟ้าเต็มหนึ่งครั้งขับได้เกิน 400 กม. แน่นอนว่ามันเทียบกันไม่ได้อยู่แล้วในเรื่องของความประหยัด แต่ข้อดีของรถไฮบริดมันคือ คุณจะขับไปไหนเมื่อไหร่ยังไงก็ได้ ออกนอกเส้นทางหรือแผนประจำวันได้โดยไม่ต้องมาสนใจ แบตเตอรี่ว่าเหลือเท่าไหร่ เพราะปั๊มน้ำมันมีอยู่ทุกหนแห่ง แล้วจากอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถยนต์ไฮบริดอย่างที่ผมบอกไป มันก็ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่าแต่ก่อนมาก ยิ่งถ้าคุณใช้คันเร่งอย่างถูกต้องมันจะยิ่งโคตรประหยัด ออกต่างจังหวัดคุณก็ไม่ต้องสนแล้วว่าจะหาสถานีชาร์จไฟฟ้าได้หรือไม่ ต้องไปรอนานมั้ย จอดชาร์จไฟฟ้าทีนึงเสียเวลาไปครึ่งค่อนชั่วโมง

เรื่องของออพชั่นต่างๆ ในรถยนต์ไฮบริดค่ายญี่ปุ่นก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดรับไม่ได้ ที่สำคัญในแง่ของราคาขายต่อ ณ ปัจจุบัน ยังไงก็ขายง่ายกว่าละได้ราคากว่ารถยนต์ EV และต้องไม่ลืมเรื่องของค่าประกันภัยรถยนต์ที่ของรถยนต์ EV ที่จัดว่าแพงซะเหลือเกิน ทำเอาหลายคนที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรถ EV เห็นค่างวดประกันเข้าไปถึงกับเปลี่ยนใจก็มี

ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นสาเหตุว่าทำไมรถยนต์ไฮบริดยังเป็นตัวเลือกสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละคนรวมถึงความเหมาะสมด้วย และถ้าคุณยังสงสัยว่า ในบูธรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นกับบริเวณที่ให้ทดลองขับคนไม่เยอะเท่าบูธรถจีนแต่ทำไมยอดจองยังขึ้นนำ? ก็เพราะคนซื้อเขาเชื่อมั่นในแบรนด์และตัวสินค้าไปแล้วไงครับ ไม่ต้องดูมาก ลองมาก อยากได้ก็จองเลย ซื้อเลย … นั่นเอง

Related Posts

ส่องรถใหม่ครึ่งปีหลัง 68 …
Review

ส่องรถใหม่ครึ่งปีหลัง 68 …

July 11, 2025
สงครามรถตู้ เอาไงดี??จีน เกาหลี หรือญี่ปุ่น
Review

สงครามรถตู้ เอาไงดี??จีน เกาหลี หรือญี่ปุ่น

July 8, 2025
ค่ายรถ แอบบ่น … กระบะพี่ มีคลังค้ำ ยังไม่ค่อยตอบโจทย์ ไฟแนนซ์ยังเข้มงวดอยู่ดี
Review

ค่ายรถ แอบบ่น … กระบะพี่ มีคลังค้ำ ยังไม่ค่อยตอบโจทย์ ไฟแนนซ์ยังเข้มงวดอยู่ดี

July 9, 2025
เจาะจุดเด่น New Porsche 911 Carrera GTS ที่มาพร้อมระบบ T-Hybrid รุ่นล่าสุด
Review

เจาะจุดเด่น New Porsche 911 Carrera GTS ที่มาพร้อมระบบ T-Hybrid รุ่นล่าสุด

July 4, 2025

Category

  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
  • Uncategorized

Tags

Bentley BRIC Superbike BYD Fast Auto Show Thailand Fast Auto Show Thailand 2025 Ford GWM Honda Hyundai JAECOO KIA Lamborghini Lexus Mercedes-Benz MG MINI Mitsubishi MOTIF Motorrad NETA Nissan Porsche Rolls-Royce Suzuki Toyota Volvo XPENG Yamaha Zeekr ฺBMW

About

มิติใหม่แห่งข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในแวดวงยานยนต์ และไลฟ์สไตล์ บนโลกออนไลน์ ในรูปแบบวาไรตี้ ที่ไม่ควรพลาด

Categories

  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
  • Uncategorized

Browse by Tag

Bentley (1) BRIC Superbike (1) BYD (2) Fast Auto Show Thailand (1) Fast Auto Show Thailand 2025 (1) Ford (1) GWM (3) Honda (1) Hyundai (1) JAECOO (1) KIA (2) Lamborghini (1) Lexus (1) Mercedes-Benz (1) MG (1) MINI (1) Mitsubishi (1) MOTIF (1) Motorrad (1) NETA (1) Nissan (1) Porsche (2) Rolls-Royce (1) Suzuki (1) Toyota (3) Volvo (1) XPENG (2) Yamaha (2) Zeekr (1) ฺBMW (2)

Recent Posts

  • New YAMAHA TMAX 2025 พรีเมี่ยมบิ๊กสกู๊ตเตอร์โฉมใหม่ ยกระดับความหรูหรา เทคโนโลยีล้ำ
  • ส่องรถใหม่ครึ่งปีหลัง 68 …

© 2024 CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์

No Result
View All Result
  • Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle

© 2024 CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์