เรื่องมีอยู่ว่า มีลูกเพจถามว่า “BMW i4 กับ BMW 420i M Sport เลือกคันไหนดี?” ราคาก็พอๆ กัน i4 แพงกว่าอยู่ประมาณ 2 แสนกว่าบาท (ไม่รวม BSI Package) มันมีอะไรที่ต่างกันบ้างนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่คันนึงเป็นแกรนด์คูเป้ 4 ประตูพลังงานไฟฟ้า กับอีกคันเป็นรถสไตล์คูเป้ 2 ประตูเครื่องเบนซินเทอร์โบ
ในราคาที่ใกล้เคียงกัน ถ้าคุณเลือก BMW i4 eDrive35 M Sport ราคาปัจจุบันพร้อม BSI Standard Package อยู่ที่ 3,929,000 บาท คุณจะได้ BMW ที่เป็นแกรนด์คูเป้ 4 ประตูพลังงานไฟฟ้า มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลัง 286 แรงม้า ท็อปสปีด 190 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6 วินาที ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งขับได้ระยะทางสูงสุด 483 กม. (WLTP)
ภายในนอกได้ล้อ M Aerodynamic ขนาด 18 นิ้ว ชุดแต่ง M Aerodynamic ระบบช่วงล่างเป็น Adaptive M ปรับได้ มีระบบช่วยขับขี่ Driving Assistant และระบบช่วยจอด Parking Assistant ภายในดูล้ำสมัยสไตล์รถไฟฟ้า แต่ยังดูไม่อลังการเท่า iX ระบบเครื่องเสียง HiFi Loudspeaker (ไม่ใช่ Harman Kardon) และยังแอบมีสิ่งเพิ่มอรรถรสในการขับด้วยเสียงปลอมๆ อย่างระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ Iconic Sounds Electric มาให้
แต่ถ้าเลือก BMW 420i Coupe M Sport ราคาปัจจุบันพร้อม BSI Standard Package อยู่ที่ 3,699,000 บาท คุณจะได้ BMW ทรงสปอร์ตคูเป้ 2 ประตูสุดหล่อ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2 ลิตร เทอร์โบ พละกำลัง 184 แรงม้า (แอบรู้สึกว่าน้อยไปหน่อย) เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic ขับเคลื่อนล้อหลัง ทำความเร็วสูงสุดได้ 240 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7.5 วินาที
ส่วนภายนอกได้ล้อขนาด 18 นิ้วของ M ชุดแต่งภายนอก M Sport ระบบช่วงล่าง M Sport มีระบบบช่วยขับขี่ Driving Assistant ระบบช่วยจอด Parking Assistant ภายในดีไซน์สปอร์ต แต่ก็ไม่สปอร์ตจ๋าอะไรมาก เน้นหรูหรามากกว่า มีของให้เล่นเยอะพอสมควรเช่น BMW Live Cockpit Plus , BMW ConnectedDrive เครื่องเสียง Hifi Loudspeaker ไม่ใช่ Harman Kardon
i4 eDrive35 M Sport | 420i Coupe M Sport | |
รูปแบบตัวรถ | แกรนด์คูเป้ 4 ประตู | สปอร์ตคูเป้ 2 ประตู |
ขุมพลัง | มอเตอร์ไฟฟ้า | เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ |
แรงม้า (PS) | 286 | 184 |
แรงบิด (Nm) | 400 | 300 |
ขับเคลื่อน | ล้อหลัง | ล้อหลัง |
ความเร็วสูงสุด | 190 กม./ชม. | 240 กม./ชม. |
0-100 กม./ชม. | 6 วินาที | 7.5 วินาที |
คราวนี้ลองมาดูความแตกต่างของ BMW 2 คันนี้ในมุมมองส่วนตัวดูบ้างนะครับ ก่อนอื่นต้องบอกว่าการเอา 2 คันนี้มาพูดถึงพร้อมกันมันก็ดูจะแปลกๆ หน่อย เพราะคันหนึ่งเป็นรถเครื่องยนต์สันดาป ส่วนอีกคันเป็นรถพลังงานไฟฟ้า ซึ่งหลายคนน่าจะบอกว่าจะเอามาเทียบกันได้ยังไง แต่ผมเอาราคาของรถยี่ห้อเดียวกันเป็นที่ตั้งว่า ถ้าดูกันแค่ราคาที่ต่างกันไม่ถึง 10% ของราคารถ มันก็มีอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งก็อาจมีบางคนลังเลระหว่างรถ 2 คันนี้อยู่ก็ได้
ก่อนอื่นเลยคือรูปทรงของรถมันก็ต่างกันแล้ว มันอาจดูสปอร์ตทันสมัยทั้งคู่ แต่คันหนึ่งมี 4 ประตู ส่วนอีกคันมี 2 ประตู ดังนั้นรูปแบบการใช้งานก็ต่างกันไป เพราะถ้าคุณตั้งใจหารถที่เป็นรถประจำครอบครัวมีผู้โดยสารนั่งด้านหลังเป็นประจำ รถ 4 ประตูก็ต้องเหมาะกว่าแบบไม่ต้องสงสัย ดังนั้น i4 ก็จะตอบโจทย์ข้อนี้ไป
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ใช้รถเดินทางแค่คนเดียวหรือเต็มที่ก็มีคนนั่งไปด้วยข้างๆ อีกคน เบาะหลังก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นนัก ดังนั้นรถคูเป้อย่าง 4 Series ก็เป็นทางเลือกที่ดีและดูจะเท่กว่า ที่สำคัญถึงแม้จะเป็นรถคูเป้ แต่ภายในห้องโดยสารของ 4 Series ก็ไม่ได้อึดอัดคับแคบแต่อย่างใด โดยเฉพาะห้องโดยสารท่อนหน้าก็กว้างขวางไม่ได้แตกต่างจากรถซีดานแม้แต่น้อย
เบาะก็นั่งสบายเพราะไม่ได้ห่อตัวกระชับแน่นถึงขนาดรถตระกูล M และหากเลือกไว้เป็นรถเรียกสายตาสาวๆ แน่นอนว่ารถสปอร์ตคูเป้สองประตูยังไงก็ได้เปรียบ แต่ก็ไม่แน่ เพราะสมัยนี้สาวๆที่ชอบความภูมิฐานหรูหรามากกว่าความสปอร์ตก็มีเยอะแยะไป และรูปทรง i4 มันก็ไม่ได้ดูแก่แต่อย่างใด
มาถึงเรื่องการขับ เรื่องสมรรถนะความแรง เจ้า i4 ได้เปรียบเห็นๆ กับพละกำลังที่มากกว่า 4 Series ถึง 100 แรงม้า 100 นิวตันเมตร (เยอะนะครับ) ขับเคลื่อนล้อหลังเหมือนกัน แต่ถ้าดูอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ถ้าไม่ได้ไปแข่งกันออกตัวอย่างเอาเป็นเอาตาย การที่ i4 eDrive35 ทำได้เร็วกว่า 420i Coupe อยู่ 1.5 วินาที ผมว่าไม่ใช่สาระสำคัญอะไร และที่สำคัญคุณต้องไม่ลืมเรื่องของแรงม้า/น้ำหนัก i4 มีแรงม้าและแรงบิดมากกว่าก็จริง แต่น้ำหนักตัวรถก็มากกว่า 420i ประมาณ 250 กก. นั่นหมายถึงมีกำลังมากกว่าแต่ก็ต้องแบกน้ำหนักมากกว่า อัตราเร่ง 0-100 มันเลยไม่ห่างกันมากจนน่าตกใจ
อย่างไรก็ตามการเหยียบคันเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง รถพลังงงานไฟฟ้ายังไงก็ได้เปรียบเพราะแรงบิดทั้งหมดของมอเตอร์ไฟฟ้ามันมีมาให้ใช้ทันทีไม่มีรีรอ แล้วไหนจะแรงดึงหนักๆ ที่ต่อเนื่องยาวๆ ในขณะนี้รถเครื่องยนต์เทอร์โบอย่าง 420i Coupe มันต้องใช้รอบเครื่องยนต์กับการบูสต์เทอร์โบเพื่อเค้นแรงบิดออกมา แล้วไหนจะจังหวะต่อระหว่างสปีดเกียร์อีก ให้เร็วขนาดไหนมันก็ไม่เท่ารถไฟฟ้า แต่หากดูจากตัวเลข 0-100 ก็นับว่าเครื่องยนต์เทอร์โบ และเกียร์ของ 420i Coupe ก็ทำงานมีประสิทธิภาพสูงมาก ในขณะที่มีแรงม้าและแรงบิดน้อยกว่า
อีกอย่างที่บางคนอาจไม่สนใจหรือมองข้ามไปเลยคือ อรรถรสในการขับ หลายคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ ขอแค่รถที่ขับแล้วแรงและเร็วกว่าคนอื่นก็พอแล้ว แต่สำหรับผม อรรถรสการขับก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ได้เยอะ จริงอยู่ที่ i4 แรงกว่า แต่มันเป็นรถไฟฟ้ามันเลยไม่มีเสียงอะไรมาเร้าอารมณ์การขับเลย ถึงมีเสียงสังเคราะห์จำลองเสียงเครื่องยนต์มาให้ก็เถอะ มันก็ปลอมอยู่ดี แต่ก็ยังดีกว่า iX ที่ผมเคยขับอยู่พักหนึ่งและไม่รู้สึกชอบเสียงสังเคราะห์ล้ำยุคที่มีมาให้เลยแม้แต่เสียงเดียว อย่างกับอยู่ในหนังสตาร์วอล
ผิดกับรถคูเป้เครื่องยนต์เทอร์โบอย่าง 420i ทุกครั้งที่กดคันเร่งมันได้ความเร้าใจจากเสียงเครื่องในรอบสูงๆ มีเสียงดูดอากาศ มีเสียงจากท่อไอเสีย มันสุนทรีย์กว่าเยอะครับ เพราะผมเชื่อมาตลอดว่า “รถแรงมันต้องมีเสียง” ที่สำคัญในอนาคตอันใกล้จะไม่มีให้ขับแล้วนะครับ รถรุ่นใหม่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบเนี่ย
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด หากคุณขับ 420i คูเป้ คุณจะไปไหนเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจอยาก เลิกงานอยากลั้นลา เตร็ดเตร่ เถลไถล ซัดบนทางด่วนสักรอบก่อนเข้าบ้าน นึกอยากกินอาหารทะเลกับแฟนวิวสวยๆ ช่วงพระอาทิตย์ตก ก็เข้ามอเตอร์เวย์หวดไปบางแสน น้ำมันหมดก็แวะเติม ปั๊มน้ำมันมีตลอดทาง 420i คูเป้จะเป็นเหมือนคู่หูไปกับคุณได้ทุกที่ทุกเวลา
ในทางกลับกันถ้าคุณมี i4 เป็นคู่หู คุณต้องเป็นคนที่มีการวางแผนพอสมควร เพราะการออกนอกเส้นทางประจำ หรือระยะทางที่มากขึ้น นั่นหมายความถึงกำลังไฟฟ้าในแบตเตอรี่ที่จะลดลง ดังนั้นที่ผมบอกว่าต้องมีการวางแผนคือ คุณจำเป็นต้องรู้ล่วงหน้าว่าคุณจะไปไหนบ้าง ถ้าออกนอกเส้นทางประจำ ในกรณีที่แบตเตอรี่ใกล้หมด คุณจะแวะชาร์จได้ที่ไหนบ้าง หรือถ้าคืนก่อนหน้านั้นกลับดึกแล้วดันลืมเสียงชาร์จก็วุ่นเลยทีนี้ ไหนจะระยะเวลาในการเสียบชาร์จตามสถานีชาร์จที่ยังไงก็นานกว่าเติมน้ำมัน ยังไม่นับว่าไปถึงสถานีชาร์จอาจต้องไปจอดรอรถที่กำลังชาร์จอีกนะครับ ฟังดูวุ่นวายเนอะ ไม่ชิลเลย… แต่เอาน่า ชาร์จแบตเตอรี่เต็มขับได้ 400 กม. (หักระยะทางออกตามเหตุของความคลาดเคลื่อนของระยะทางที่โรงงานเคลมไว้) i4 มันก็พาคุณออกนอกลู่นอกทางได้บ้างแหละ แต่ถึงบ้านแล้วอย่าลืมเสียบชาร์จก่อนนอนแล้วกันครับ
ท้ายสุด ผมถามว่า คุณจะใช้รถคันนี้นานเท่าไหร่? แน่นอนว่าซื้อมาใหม่ๆ ในระยะแรกรถมันยังไม่มีปัญหา บวกกับแพคเกจ BSI ที่ติดรถมาตอนซื้อ BMW ป้ายแดงมันก็ช่วยให้คุณสบายใจและประหยัดไปได้เยอะ ขึ้นกับว่าคุณได้แคมเปนไหนมา ถ้าได้ BSI หลายปีก็สบายใจได้หลายปี แต่ถ้าได้แบบสแตนดาร์ดต่ำสุดมาอาจต้องคิดเยอะกว่านั้น
ถ้าให้ผมแนะนำหากจะใช้ยาวๆ แล้วสามารถซื้อแพคเกจ BSI เพิ่มได้ก็ซื้อเถอะครับ เพราะขึ้นชื่อว่า BMW ถ้าไม่มี BSI แล้วคุณต้องจ่ายค่าเซอร์วิสเอง และยิ่งถ้ารถมีปัญหาต้องแก้ไขซ่อมแซมนอกเหนือจากการเช็คระยะทั่วไป เงินในกระเป๋าคุณมันจะยุบฮวบไปแบบไม่รู้ตัว
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาหลังจากที่รถถูกใช้ไประยะหนึ่งแล้ว อันนี้พูดยาก เพราะขึ้นอยู่กับคุณใช้มันอย่างไร ใช้มากหรือใช้น้อย ขับระวังหรือขับโหด อีกอย่างคือ i4 ยังเป็นรถที่ค่อนข้างใหม่ ดังนั้นปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังจากใช้ไปยาวๆ จะมีอะไรบ้างเรายังไม่รู้ ในขณะที่ 420i ยังพอเดาได้เพราะยังใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบแบบเดียวกับ BMW รุ่นอื่นๆ หลายรุ่นที่ช่างซ่อมกันจนชำนาญแล้ว หรือถ้าถึงวันที่เข้าศูนย์ BMW ไม่ไหวจริงๆ อู่ข้างนอกยังพอแก้ไขซ่อมแซมให้ได้
แต่หากเป็น i4 ผมว่าอู่นอก ณ ตอนนี้ หมดสิทธิ์ครับ แล้วถ้าจะขายต่อล่ะ? บอกได้เลยว่า 420i Coupe ในแง่ของราคาขายต่อดูมีอนาคตกว่าเยอะ แน่นอนว่าราคาขายต่อเป็นรถมือสอง ไม่ว่ารุ่นไหนมันก็ราคาตกทั้งนั้น ทำใจไว้ได้เลย แต่ 420i Coupe เป็นรถคูเป้สไตล์เท่ห์ๆ ที่มีคนรอช้อนมือสองในราคาที่เอื้อมถึงได้อยู่แล้ว และการเป็นรถรูปทรงสปอร์ตราคาก็ตกน้อยกว่ารถ 4 ประตูมาแต่ไหนแต่ไร รวมถึงการจะซื้อ 420i มือสองไปใช้ ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผมว่ายังไงก็น้อยกว่ารถพลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งอีกไม่นานนี้จะไม่มีรถใหม่ที่มากับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบอีกแล้ว (เข้าสู่ยุคของรถยุโรปพลังงานไฟฟ้าล้วน)
ดังนั้นน่าจะมีหลายคนที่อยากเก็บรถแบบนี้ไว้อย่างแน่นอน ในขณะที่หากวันใดวันหนึ่งคุณจะขาย i4 เป็นรถมือสอง ถ้า BSI ยังไม่หมดก็ยังพอทำใจกับราคาที่ยังไงก็ตกฮวบแต่ยังไม่ถึงกับดิ่งลึก แต่ถ้าไม่มี BSI แล้ว คุณเตรียมเจ็บถึงขั้นเจ็บกระดองใจเข้าห้องน้ำไปนั่งกอดเข่าเปิดฝักบัวรดตัวให้เปียกๆ ได้เลย เอาแค่ถ้าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพแล้วต้องเปลี่ยน ค่าใช้จ่ายไม่อยากจะพูดถึง ได้ SUV ญี่ปุ่นขนาดกลางป้ายแดงหนึ่งคันสบายๆ ซึ่งถ้าเป็นผม ผมยังไม่คิดไปถึงว่าราคามันจะตกลงเหลือเท่าไหร่ คิดแค่ว่าจะขายได้มั้ย จะมีใครซื้อต่อรึเปล่า
นานาจิตตังครับ ต่างคนต่างเหตุผล แต่ก็อย่างที่บอกครับ สุดท้ายแล้วมันก็เป็นความเห็นส่วนตัวของผม หรือแม้กระทั่งนักวิจารณ์นักรีวิวทั้งหลาย กูรู กูรู้ กูไม่รู้ ก็เป็นความเห็นส่วนตัวของแต่ละคนว่ากันไม่ได้ สุดท้ายและท้ายสุดอยู่ที่คุณชอบหรือไม่ ถ้าคุณชอบแบบไม่อาจเปลี่ยนใจ จะไปเชื่อไปฟังคนอื่นทำไม ไปโชว์รูมแล้วจองคันที่คุณชอบเลยครับ
Photo credit: https://www.eurekar.co.uk/articles/2021-10-24/bmw-420i-m-sport-coupe-2-0i