Yamaha MT-09 Y-AMT เป็นตัวที่ยกระดับความไฮเทคของ MT-09 รุ่นปี 2024 ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Y-AMT ซึ่งใช้งานเป็นครั้งแรกในรถบิ๊กไบค์ของยามาฮ่า โดยเปิดราคาแนะนำที่ 519,000 บาท ซึ่งผลิตและนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน
สำหรับ Yamaha MT-09 Y-AMT ไฮเปอร์เน็กเก็ตที่ต่อยอดมาจาก MT-09 รุ่นมาตรฐาน เครื่องยนต์ Crossplane 3 สูบเรียง 890cc ที่มีการติดตั้งระบบเกียร์ใหม่ Y-AMT เป็นครั้งแรกในรถบิ๊กไบค์ของยามาฮ่า ทำให้รถรุ่นนี้สามารถเปลี่ยนเกียร์เองโดยอัตโนมัติ หรือจะเปลี่ยนเกียร์เองแบบแมนนวลก็ได้ แต่การเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองนั้น จะใช้ปุ่มปรับเกียร์ที่ติดตั้งอยู่ที่ประกับแฮนด์ฝั่งซ้าย ซึ่งถ้าเปรียบเหมือนรถยนต์ก็คล้ายๆ กับแป้น Paddle Shift นั่นแหล่ะครับ อ่อเกือบลืมบอกไปว่าพอเป็นระบบเกียร์ใหม่ Y-AMT แล้ว ก็จะไม่มีก้านคลัตช์ และด้ามเกียร์ที่เท้าให้แล้วนะครับ
ก่อนที่เราจะไปลองขับ เรามาทำความเข้าใจเจ้าระบบเกียร์ Yamaha Y-AMT กันซักนิดดีกว่า สำหรับ Yamaha Y-AMT มันก็คือ Yamaha Automated Manual Transmission ระบบเกียร์ธรรมดาที่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ได้โดยอัตโนมัติตั้งแต่ออกตัว โดยไม่ต้องใช้ก้านคลัตช์ และคันเกียร์ แต่จะใช้อุปกรณ์ที่มีชื่อว่า Actuators ทำงานแทน โดยในขณะที่กำลังเปลี่ยนเกียร์ กล่อง ECU และ MCU ยัจะสั่งให้ Actuators ทำการเปลี่ยนเกียร์และคลัตช์อย่างเหมาะสม นอกจากจะช่วยทำให้ระยะเวลาการเปลี่ยนเกียร์สั้นลงกว่าเดิม ลดแรงสั่นสะเทือนจากการเปลี่ยนเกียร์แล้ว ยังช่วยทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น โดยชุดอุปกรณ์ของระบบเกียร์ Y-AMT นี้ มีน้ำหนักเบาเพียง 2.8 กิโลกรัมเท่านั้นเอง
พร้อมกันนี้ตัวเกียร์ Yamaha Y-AMT จะมีโหมดมาให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ โหมด AT ซึ่งระบบเกียร์จะควบคุมจังหวะการเปลี่ยนเกียร์แบบอัตโนมัติตามรูปแบบการขับขี่ และอีกโหมดคือ MT ซึ่งผู้ขับขี่สามารถควบคุมจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ได้เองโดยปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่ประกับแฮนด์ด้านซ้าย
เอาล่ะ!! ได้เวลาทดลองขี่ Yamaha MT-09 Y-AMT กันแล้ว ช่วงแรกได้ลองขี่โหมด AT กันก่อนเลย โดยในโหมดนี้ ก็ยังได้แยกโหมดย่อยออกอีก 2 โหมด ได้แก่ โหมด D และโหมด D+ โดยโหมด D จะมีการเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็วในรอบต่ำ เพื่อเน้นความประหยัดน้ำมัน ส่วนโหมด D+ จะเน้นสมรรถนะที่มีการลากรอบให้สูงขึ้น
คราวนี้มาลองขี่ในโหมด MT กันบ้าง ซึ่งก็จะแยกย่อยออกอีก 5 โหมดย่อย ได้แก่ Rain, Street, Sport, Custom 1 และ Custom 2 โดยทุกโหมด คนขี่จะต้องเปลี่ยนเกียร์เองแบบเกียร์แมนนวลทั้งหมดผ่านปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่แฮนด์ด้านซ้าย ซึ่งเชื่อว่าหลายคนอาจจะสงสัยถึงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์มันสมูทไหลลื่นไหม?? ตอบได้เลยว่าสมูทดีถ้าเราขี่ที่ช่วงรอบเครื่องสูง เพราะมันมีควิกชิพเตอร์เข้ามาทำงานเมื่อรอบเครื่องยนต์สูงถึง 6,000 รอบ/นาที แต่ถ้ารอบเครื่องต่ำกว่านั้น ก็จะไม่สมูทเท่า และรู้สึกถึงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่มีการดีเลย์อยู่เล็กน้อย เหมือนกล่อง ECU และ MCU กำลังประมวลผลว่าจะเปลี่ยนเกียร์ช่วงไหนดี ให้คนขี่รู้สึกสมูทที่สุด
ด้านพละกำลัง ไม่ต้องห่วง เพราะด้วยพื้นฐานของเครื่องที่ถือว่าจัดจ้านอยู่แล้ว ใน Yamaha MT-09 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ Crossplane 3 สูบเรียง ขนาด 890 ซีซี DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้พละกำลังสูงสุด 119 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที แถมยังได้ระบบเกียร์ Y-AMT ที่สับเกียร์ได้ไวขึ้นไปอีก ยิ่งทำให้อัตราเร่งแรงต่อเนื่องกว่าเดิม ลดความผิดพลาดของผู้ขี่เวลาเข้าเกียร์
ส่วนเฟรมของตัวรถถูกออกแบบใหม่ โดยคาดว่าน่าจะนำไปใช้ในรถรุ่นใหม่อย่าง Yamaha YZF-R9 ช่วงล่างใช้ช็อคอัพหัวกลับ ระบบเบรกใช้ดิสก์เบรกคู่ ขนาด 298 มม. พร้อมปั้มเบรก 4 พอต ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว กับยางขนาด 120/70 ZR17 ด้านเบาะนั่งเป็นแบบ 2 ตอน ความสูง 825 มม. แยกผู้ขับขี่กับผู้โดยสารออกจากกัน
สรุปปิดท้าย สำหรับ Yamaha MT-09 Y-AMT ถือว่าเป็นการปฎิวัติเน็กเก็ตบิ๊กไบค์ที่น่าสนใจ กับหลายคนที่อยากขี่รถสไตล์นี้แต่ขี่รถแบบมีคลัชต์ไม่เป็น รวมถึงสายเก๊าที่ขี่มานาน อยากมีรถที่ขี่สบายบ้าง คันนี้คือคำตอบ ส่วนราคาก็จะแพงกว่า MT-09 ตัว SP อยู่นิดหน่อย แต่ถ้าเลือกความสบาย บอกได้เลยว่าคุ้มครับ แต่ถ้าอยากได้ความดิบ ตัว SP ก็ยังน่าสนใจอยู่เช่นเดิม