MG S5 EV จัดเป็นรถในกลุ่ม EV B-SUV ซึ่งทาง MG หมายหมั่นปั่นมือว่าจะกลับมากลบจุดอ่อนของ MG ZS EV ทั้งสเปกการขับเคลื่อน สมรรถนะการขับขี่ ขนาดแบตเตอรี่ ระยะเวลาการชาร์จ ระยะทางวิ่ง และที่สำคัญคือการรับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งาน

สำหรับ S5 EV หลายคนคงทราบกันแล้วว่าเป็นรถยนต์ EV ที่ประกอบในประเทศไทย ใช้แพลตฟอร์มเดียวเป็นกับ MG4 มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง โดยนำตัวรถมายกสูงขึ้น เพิ่มความหรูหราขึ้น เซ็ตช่วงล่างซึ่งก็ยกชุดช่วงล่างของ MG4 เช่นกันที่เป็นช่วงล่างหลังอิสระแบบ 5-link แต่ปรับให้นุ่มนวลขึ้น โดยใช้ Nebula platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับรถไฟฟ้าของค่าย MG โดยเฉพาะ


เรามาดูสเปกกันซะหน่อยดีกว่า สำหรับ S5 EV ซึ่งเราจะมาหาคำตอบกันว่าถ้าจะซื้อแค่รุ่น X ที่มากับค่าตัว 779,900 บาท เพียงพอไหม?? เริ่มกันที่แบตเตอรี่เป็นแบบ LFP ขนาด 50 kWh วางเซลล์แนวนอน รองรับการชาร์จเร็วสุด 88 kW พละกำลังขับเคลื่อน 170 แรงม้า แรงบิด 250 Nm เคลมระยะวิ่งได้ 416 km ตามมาตรฐาน NEDC


ในขณะที่รุ่น V ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ค่าตัว 899,900 บาท ใช้แบตเตอรี่ NMC ขนาด 64 kWh วางเซลล์แนวนอนเหมือนกัน รองรับการชาร์จเร็วสุดได้ถึง 140 kW พละกำลังขับเคลื่อน 245 แรงม้า แรงบิด 350 Nm ซึ่งเห็นตัวเลขความแรงสูงกว่าแบบนี้ ไม่ได้เป็นมอเตอร์คู่แต่อย่างใดนะครับ เป็นมอเตอร์เดี่ยว แต่อัพเวลให้แรงขึ้นเท่านั้นเอง โดยเคลมระยะวิ่งได้ 550 km ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งขนาด และความสามารถการชาร์จเร็ว รวมถึงระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จ ถือว่าแจ๊วสุดในกลุ่ม SUV ค่าตัวไม่ถึงล้าน


ด้านการตกแต่ง ภายนอกไม่มีอะไรแตกต่าง ล้อแม็ก ยาง ก็ขนาดเท่ากัน ส่วนภายในเห็นชัดๆ ก็จะเป็นเบาะนั่งที่เป็นหนังสังเคราะห์ธรรมดาในรุ่น X ส่วนรุ่น V ตัวท็อป จะเป็นหนังสังเคราะห์เจาะรูระบายเท่านั้นเอง ขณะที่ระบบความบันเทิง และระบบความปลอดภัยก็ให้มาเหมือนกัน


ดังนั้น ถ้าจะถามว่า MG S5 EV ถ้าจะซื้อแค่รุ่น X หรือตัวรองท็อป เพียงพอไหม?? ไม่ต้องดูเรื่องการตกแต่ง และระบบต่างๆ ของรถ เพราะมันเกือบจะเหมือนกัน ต่างกันแค่เฉพาะเบาะนั่งที่มีการเจาะรูระบาย แต่ผมว่าที่สำคัญให้ดูที่การใช้งานรถในชีวิตประจำวันของคุณเป็นอย่างไรมากกว่า เช่น ถ้าไม่ต้องใช้รถวิ่งระยะทางไกลมากต่อวัน ไป-กลับ ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร หรือไม่มีความจำเป็นต้องไปชาร์จเครื่อง DC แล้วกลัวจะเสียเวลาชาร์จที่นาน และที่สำคัญเป็นคนไม่สนใจเรื่องพละกำลังความแรงของรถ เพราะตัวท็อป รุ่น V ได้แรงม้าที่มากกว่าถึง 75 แรงม้า และแรงบิดที่มากว่า 100 Nm


ซึ่งถ้าทั้งหมดทั้งมวลที่ผมบอกไปแล้ว ไม่จำเป็นสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณ ผมว่ารุ่น X ก็เพียงพอครับ เพราะคุณจะประหยัดเงินไปได้ถึง 120,000 บาท แต่ถ้าคุณยังแคร์กับเรื่องระยะทาง ความเร็วการชาร์จ และพละกำลังของมอเตอร์ ก็คงต้องเลือกรุ่นท็อปล่ะครับ ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าจ่ายงวดเพิ่มอีกงวดละประมาณ 3 พันกว่าบาท ก็อยากแนะนำรุ่นท็อปครับ เพราะตามสไตล์คนไทย เหลือไว้ย่อมดีกว่าขาด แต่ถ้าเน้นใช้งานที่ไม่เน้นอะไรมาก ผ่อนสบายๆ ก็รุ่น X ได้ครับ ไม่ติดอะไร!! คราวนี้ก็ลองไปตัดสินใจกันดูนะครับ ว่าจะเผื่อเหลือ หรือเผื่อขาดอย่างไร ตัดสินใจกันดู … ส่วนถ้าใครต้องการดูคลิปรีวิว สามารถเข้าไปดูได้ที่ พรีวิว MG S5 EV เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่จาก MG ที่ขับดี วิ่งไกล ชาร์จไว นั่งสบาย แถมมี Lifetime Warranty




