• Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result
  • Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result

C-SUV แข่งเดือด!! Honda CR-V ยังรั้งหัวแถว

Admin by Admin
October 22, 2024
in Review
13
SHARES
120
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

เมื่อพูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ในกลุ่ม C-SUV ฮอนด้า เอชอาร์-วี (Honda CR-V) ถือเป็นเอสยูวีขวัญใจคนไทย โดยเปิดตัวรุ่นแรกเมื่อปี 1996 และปัจจุบันทำตลาดมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 6 ซึ่งก่อนหน้านี้ CR-V เรื่องยอดขายถือว่ามาแบบแบเบอร์ ลอยลำ ขายแบบชิวๆ ยังไงก็กวาดแชมป์ในเซกเมนต์นี้ได้อย่างสบายๆ ไม่เคยมีคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นรถสัญชาติเดียวกันอย่าง นิสสัน ที่ก็ไม่ทำตลาดตัว X-Trail ไปแล้ว หรือมาสด้า ที่ตัว CX-5 ก็ยังขายรูปโฉมเดิมๆ เครื่องยนต์เดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่ให้น่าสนใจ

Honda CR-V

ซึ่งในปัจจุบันตำแหน่งแชมป์ของเซกเมนต์นี้ ต้องบอกว่ามันเริ่มจะไม่ชิวซะแล้ว เมื่อแบรนด์จีนเข้ามาบุกตลาดเมืองไทย ขนทัพ C-SUV เข้ามาทำตลาดกันเพียบ หลากหลายแบรนด์ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มาพร้อมกันดีไซน์ที่โดดเด่น และเทคโนโลยีที่จับยัดมาแบบไม่ยั้ง เล่นเอา C-SUV สัญชาติญี่ปุ่นที่ไม่มีอะไรใหม่เป๋ไปเหมือนกัน แต่สำหรับ Honda CR-V นั้นยังมีดีพอที่จะต่อกรสู้กับทัพรถจีน แม้จะมีสลับตำแหน่งแชมป์กันบ้างในบางเดือน แต่เดือนไหนพลาดพลั้ง อีกเดือนก็กลับมายึดตำแหน่งแชมป์คืน ซึ่งถ้าให้มองถึงเหตุผลหลักๆ แล้ว ก็คงเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นในตัวรถ รวมถึงชื่อชั้นแบรนด์ฮอนด้าที่ยังเชื่อถือได้ นอกจากนี้แล้วนั้น ยังรวมไปถึงฟิลลิ่งการขับ มาตรฐานการผลิตที่ไว้ใจได้ และทางเลือกที่หลากหลาย ทั้งเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง

อย่าง Honda CR-V เจนฯ นี้ ก็มีทั้งเครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV เบนซิน 2.0 ลิตร Hybrid i-MMD และเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร VTEC เทอร์โบ อีกทั้งยังถูกอัพเกรดให้แจ่มขึ้นในหลายๆ ด้าน เพื่อต่อสู้กับ C-SUV ฝั่งจีนที่กำลังมาแรง โดย Honda CR-V ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 6 มีรุ่นย่อยให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ดังนี้

  • 1.5 Turbo E 5 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
  • 1.5 Turbo ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท
  • 1.5 Turbo EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท
  • e:HEV ES 5 ที่นั่ง ราคา  1,589,000 บาท
  • e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,729,000 บาท
ล้อแมกซ์อัลลอยลาย 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว

สำหรับ Honda CR-V ใหม่ เจนฯ 6 ถูกอัพไซส์ให้ใหญ่กว่าเดิม โดยมีมิติตัวถังยาว 4,691 มิลลิเมตร กว้าง 1,866 มิลลิเมตร สูง 1,681-1,691 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร Ground Clearance 198-208 มิลลิเมตร ในขณะที่น้ำหนักตัวอยู่ที่ 1,606- 1,815 กิโลกรัม ดีไซน์ภายนอกถ้าเทียบกับตัวก่อน ต้องถือว่าสวยงามดูดุดันกว่าเดิมเยอะ ทั้งรูปทรงของชุดไฟหน้า พร้อมไฟเลี้ยว Sequential และที่เด่นสุดเห็นจะเป็นกระจังหน้าสีดำเงา รวมไปถึงกรอบกระจกหน้าต่างด้านข้าง ชุดไฟท้าย หรือแม้กระทั่งปลายท่อไอเสียแบบคู่ ในขณะที่ล้อแมกซ์อัลลอยเป็นลาย 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว ซึ่งอาจจะเล็กกว่าค่ายจีน ที่ส่วนใหญ่จะไปใช้ขอบ 19 นิ้วกันหมดแล้ว แต่ข้อดีคือเวลาเปลี่ยนยางทีก็ไม่ถึงกับกระเป๋าแฟบกันเลยทีเดียว

ไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential

มาที่ภายในห้องโดยสารกับระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ มีให้ไม่ว่าจะเป็นระบบกุญแจรีโมท Honda Smart Key System ที่เมื่อถือกุญแจเดินเข้าใกล้ รถจะเปิดล็อคประตูให้เลยทันที แต่หากต้องการล็อกประตู ทำได้หลายวิธี ทั้งใช้การสัมผัสที่มือจับประตู หรือจะเดินออกห่างจากตัวรถระบบก็ล็อคประตูให้ ซึ่งเค้าเรียกระบบนี้ว่า Walk Away Auto Lock และที่น่าสนใจอย่างมากก็คือ Remote Engine Start ที่สามารถสตาร์ทรถได้จากรีโมทรถ เพื่อสั่งสตาร์ทและเปิดเครื่องปรับอากาศ เหมาะจริงๆ กับสภาพอากาศเมืองไทย

นอกจากนี้ ในทุกรุ่นยกเว้น 1.5 Turbo E ยังมาพร้อมระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT สามารถตรวจสอบสถานะตัวรถ ติดตามตัวรถ และสั่งล็อก – ปลกล็อก และสตาร์ทเครื่องยนต์ผ่านแอปพลิเคชั่นได้จากทั่วทุกมุมโลกที่มีอินเตอร์เน็ต ด้านเบาะนั่งดีไซน์ก็เป็นแบบนั่งสบายไม่ได้มาสไตล์สปงสปอร์ตอะไร ฝั่งคนขับ เป็นแบบปรับด้วยไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มี Lumbar Support พร้อม Memory 2 ตำแหน่ง ส่วนเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า ก็เป็นปรับไฟฟ้าได้แต่ทำได้แค่ 4 ทิศทางเท่านั้น

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามารถปรับระยะได้ 4 ทิศทาง มี Adaptive Cruise Control พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ Low Speed Following โดยในรุ่น 1.5 Turbo จะมีแป้น Paddle Shifter มาเพิ่มให้อีกต่างหาก รวมไปถึงหน้าจอมาตรวัดจะเป็นอนาล็อกผสมดิจิตอล ตรงกลางเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว ส่วนด้านขวาเป็นมาตรวัดความเร็วแบบเข็ม ส่วนรุ่นอื่นๆ จะเป็นหน้าจอชุดมาตรวัดแบบสี TFT ขนาด 10 นิ้ว และพิเศษสำหรับรุ่น e:HEV RS จะมีจอแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า Head-up Display มาให้อีกด้วย

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์

ซึ่งนอกจากการแสดงผลความบันเทิงแล้ว หน้าจอนี้ยังแสดงกล้องมองภาพรองทิศทาง ซึ่งติดตั้งมาให้ตั้งแต่รุ่น 1.5 Turbo ES ด้านความบันเทิงทุกรุ่นจะติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth และรองรับการเชื่อมต่อ Android Auto / Apple CarPlay แบบไร้สาย ลำโพงให้มาทั้งหมด 8 ตำแหน่ง ในส่วนของระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ มีกรองฝุ่น PM2.5 ระบบฟอกอากาศ Plasma cluster ที่สามารถปล่อยอนุภาคไฟฟ้าที่จะทำลายผนังเซลล์ของเชื้อรา เชื้อไวรัส และแบคทีเรียในอากาศ ทําให้อากาศในห้องโดยสารสะอาดมากยิ่งขึ้น

หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว

ขยับลงมาที่คอนโซลกลางบ้าง สะดุดตากับคันเกียร์ที่ดูโบราณไปซักนิดนึงกับด้านเกียร์ค่อนข้างสูง ทำให้รู้สึกเกะกะสายตาไปซักหน่อย แต่ก็ช่วยให้เข้าเกียร์ได้ง่าย เพราะไม่ต้องเอื้อมมือไปไกล แต่ถ้าถามเรื่องดีไซน์อาจไม่ค่อยถูกใจผม ส่วนปุ่มควบคุมอื่นๆ ก็มีมาให้ทั้ง สวิตช์ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Decent Control) เบรกมือไฟฟ้า Auto Brake Hold พ่วงด้วยฟังก์ชั่นปลดเบรกมืออัตโนมัติ Auto Release ซึ่งมีเงื่อนไขการทำงานคือผู้ขับขี่จะต้องต้องคาดเข็มขัดนิรภัย

ปิดท้ายเรื่องห้องโดยสารกันที่ที่นั่งตอนหลัง เริ่มกันตั้งแต่บานประตูคู่หลัง CR-V ใหม่ สามารถเปิดได้กว้างเกือบ 90 องศาเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ อันนี้เลิศ เพราะทำให้ขึ้นลงรถได้ง่าย แถมพนักพิงยังปรับระดับการเอนได้อีก ส่วนระยะวางขาก็มีพื้นที่ ทำให้นั่งนานๆ แล้วไม่เมื่อย ขณะที่รุ่น 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถว 3 ก็ยังเหมาะกับเด็กหรือคนตัวเล็ก แต่ดีที่มีช่องแอร์แถว 3 มาให้ และเมื่อพับเรียบแล้ว ก็สามารถช่วยให้เก็บสัมภาระด้านหลังได้มากขึ้น โดยฝาท้ายของ CR-V เป็นแบบช็อคอัพไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเปิดปิด

มาที่เรื่องสมรรถนะกันบ้าง สำหรับขุมพลังของ Honda CR-V เจเนอเรชั่นที่ 6 อย่างที่บอกมีให้เลือก 2 รูปแบบ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Turbo และเบนซิน 2.0 ลิตร Hybrid โดยก่อนหน้านี้เราเทสรุ่นไฮบริดไปแล้ว คราวนี้ขอมาโฟกัสที่รุ่นเบนซิน 1.5 ลิตร Turbo ที่มากับรหัส L15C2 ความจุ 1,498 ซีซี Direct-injection หัวฉีดมัลติพอยท์ PGM-FI พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VTEC พ่วง Turbocharger แบบ Single-Scroll ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผัน CVT มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ Real Time AWD โดยเครื่องยนต์ตัวนี้รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดถึงระดับ Gasohol E85

โดยฟิลลิ่งการขับต้องบอกว่าไม่อืดอาดอะไร แถมยังดูตอบสนองไวกว่าเดิม โดยมีโหมดให้เลือกขับทั้งแบบ ECON และแบบ Normal เกียร์โนมัติ CVT ได้รับการปรับปรุงให้การตอบสนองที่นุ่มนวล และที่สำคัญมีที่เสียงเบาลง ด้านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในรุ่น 4WD มีการการกระจายกำลังไปยังล้อคู่หลังมากขึ้น ในยามวิ่งทางตรงหรือถนนแห้งจะเป็นแบบ 60 : 40 แต่เมื่อเข้าโค้งหรือมีอาการลื่นจะปรับการกระจายกำลังเป็น 50 : 50 อัตโนมัติ

ด้านระบบกันสะเทือนเหมือนเดิม ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบอิสระ Multi-link พร้อมเหล็กกันโคลง แต่มีการปรับปรุงซับเฟรมที่มีโครงเป็นแบบ Diecast Aluminum ทำให้เบาลง อีกทั้งยังใช้บูชยางที่มีความแข็งขึ้น ซึ่งองค์ประกอบโดยรวมทำให้ช่วงล่างของ CR-V ดูกระชับ สปอร์ตขึ้นกว่าตัวเดิม แต่ยังไงก็ยังเอียงไปทางนุ่มอยู่ แต่มันเป็นความนุ่มที่หนึบมากยิ่งขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ตัวปีกนกหลังยังเป็นวัสดุอะลูมินัมอัลลอยที่มีน้ำหนักเบา ส่วนระบบเบรก เป็นดิสก์เบรก 4 ล้อ โดยจานหน้ามีคลีบระบายความร้อน

ส่วนฟีเจอร์ความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือ ติดตั้งมาให้ครบกับ Honda Sensing ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงรู้กันแล้วว่ามีอะไรบ้าง ขอข้ามไปพูดถึงเรื่องที่หลายคนเรียกร้องอยากให้มีซะทีกับ Blind Spot แต่ฮอนด้าก็ยืนยันว่ามี Honda Lane

ซึ่งนี่เป็นการที่ได้รีวิวทดลองขับ ส่วนสาเหตุที่มองว่าทำไม Honda CR-V ถึงยังรั้งหัวแถวยอดขายได้ตลอดทั้งๆ ที่มีผู้เล่นหน้าใหม่ จากจีนถาโถมเข้ามามากมายขนาดนี้ จากเหตุผลที่ได้กล่าวไปเบื้องต้นแล้วว่า ความเชื่อมั่นในตัวรถ ชื่อชั้นของแบรนด์ฮอนด้า มาตรฐานการผลิต และทางเลือกที่หลากหลาย ทั้งเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง เรียกว่าใครชอบแบบไหนก็เลือกซื้อเลือกช็อปเอาได้เลย และนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ Honda CR-V ไม่เคยหลุดขบวนหัวแถวยอดขายของรถ C-SUV ในแต่ละเดือน … ว่ามะครับ??

Related Posts

ตลาดปิกอัพไทย ปีละกว่า 2  แสนคัน บิ๊กญี่ปุ่น ไม่ปล่อยช่องว่างให้ใคร
Review

ตลาดปิกอัพไทย ปีละกว่า 2  แสนคัน บิ๊กญี่ปุ่น ไม่ปล่อยช่องว่างให้ใคร

September 10, 2025
MG4 แรงปาดหน้า BYD ยอดจดทะเบียนเดือนก.ค. 68 ขึ้นเบอร์หนึ่ง
Review

MG4 แรงปาดหน้า BYD ยอดจดทะเบียนเดือนก.ค. 68 ขึ้นเบอร์หนึ่ง

September 10, 2025
Jaecoo 5 EV ออปชั่นท่วมแต่ราคา Eco Car
Review

Jaecoo 5 EV ออปชั่นท่วมแต่ราคา Eco Car

September 8, 2025
“มังกรจีน – ผู้ท้าชิง” เปิดเกมรุก “แชมป์เก่า – ซามูไรญี่ปุ่น”
Review

“มังกรจีน – ผู้ท้าชิง” เปิดเกมรุก “แชมป์เก่า – ซามูไรญี่ปุ่น”

September 4, 2025

Category

  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle

Tags

70mai AAS AAS Motorsport Akrapovic Aston Martin Bentley BRIDGESTONE BYD Changan CHERY V23 Continental Deepal EV Fast Auto Show Thailand 2025 Ferrari Ford Fregata GWM GWM TANK 300 Honda Hyundai JAECOO 6 EV Lamborghini Leapmotor Lexus MASERATI Mercedes-Benz MGC-ASIA Millennium Auto Mitsubishi MMS Motorrad NEXZTER Nissan OMODA PTG Royal Enfield Suzuki SUZUKI JIMNY Tesla Toyota Volvo XPENG Zeekr มาสเตอร์เซอร์ทิฟายด์ยูสคาร์

About

มิติใหม่แห่งข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในแวดวงยานยนต์ และไลฟ์สไตล์ บนโลกออนไลน์ ในรูปแบบวาไรตี้ ที่ไม่ควรพลาด

Categories

  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle

Browse by Tag

70mai (1) AAS (2) AAS Motorsport (1) Akrapovic (1) Aston Martin (1) Bentley (6) BRIDGESTONE (1) BYD (4) Changan (1) CHERY V23 (1) Continental (1) Deepal (2) EV (1) Fast Auto Show Thailand 2025 (1) Ferrari (1) Ford (4) Fregata (1) GWM (10) GWM TANK 300 (1) Honda (6) Hyundai (3) JAECOO 6 EV (1) Lamborghini (4) Leapmotor (1) Lexus (1) MASERATI (1) Mercedes-Benz (2) MGC-ASIA (2) Millennium Auto (2) Mitsubishi (5) MMS (1) Motorrad (2) NEXZTER (1) Nissan (4) OMODA (1) PTG (1) Royal Enfield (2) Suzuki (2) SUZUKI JIMNY (1) Tesla (1) Toyota (20) Volvo (2) XPENG (3) Zeekr (3) มาสเตอร์เซอร์ทิฟายด์ยูสคาร์ (1)

Recent Posts

  • Porsche 911 Turbo S สปอร์ตไฮบริดเทอร์โบคู่รุ่นท็อป ที่เหนือกว่าในทุกด้าน
  • กรังด์ปรีซ์ฯ จับมือ เอ็ม ไอ และบุญศักดิ์ พลสนะ ร่วมกับสมาคมแบดมินตันไทย จัดศึกแบดมินตันระดับโลก “Amazing Thailand Pattaya BWF World Senior Championships 2025”

© 2024 CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์

No Result
View All Result
  • Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle

© 2024 CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์