จากที่เคยคาดการณ์ว่า Subaru ประเทศไทยจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่เป็น Subaru Crosstrek e-Boxer Hybrid ถึงตอนนี้มีข่าวมาว่าน่าจะปิดแผนล้มเลิกไปแล้ว เพราะถ้านำเข้ามาราคาน่าจะสู้กับรถในเซกเมนต์เดียวกันไม่ได้ เพราะต่อจากนี้ Subaru รุ่นใหม่ๆ ที่จะขายในประเทศไทยราคาจะดีดสูงมากกว่าเดิมพอสมควร เนื่องจากจะเป็นรถนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งโดนภาษีอ่วม ดังนั้นการจะทำราคา Subaru Crosstrek e-Boxer Hybrid ให้ใกล้เคียงหรือสูงกว่าเล็กน้อยกับ XV รุ่นที่ผ่านๆ มามันแทบเป็นไปไม่ได้เลย อย่างไรก็ตามแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของค่ายยังคงอยู่ แต่จะขยับขนาดขึ้นไปเป็น SUV ไซส์ใหญ่ขึ้นอย่าง Forester โมเดลใหม่ล่าสุด 2025 ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงมันก็ดูเข้าท่ากว่า Crosstrek เพราะที่แน่ๆ คือคู่แข่งน้อยกว่า โดยเฉพาะถ้าเป็นรถญี่ปุ่นด้วยกันตอนนี้ก็เห็นมีแค่ Honda CR-V เท่านั้นเอง คราวนี้ลองมาดูว่าเจ้า Subaru Forester โมเดลล่าสุดมันมีอะไรน่าสนใจ และพอจะมีโอกาสเข้ามาทำตลาดแบ่งแชร์ในบ้านเราได้มากน้อยขนาดไหน

โดยถ้ายึดตามสเปคของรถที่เปิดตัวแล้ว อย่างแรกเลยคือรูปร่างหน้าตาที่ต่างไปจากรุ่นปัจจุบันที่ขายอยู่ในประเทศไทยแบบคนละเรื่อง ตัวถังภายนอกใหญ่กว่ารุ่นปัจจุบัน และที่สำคัญในมุมมองส่วนตัวของผมมันมีหน้าตากระเดียดไปทางอเมริกันมากขึ้น ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะยอดขายของ Forester ที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกามีค่อนข้างสูง

ดังนั้นการออกแบบภายนอกเอาใจลูกค้ากลุ่มใหญ่ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นเรื่องปกติ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อตัวรถมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็น่าจะส่งผลถึงความกว้างขวางภายในห้องโดยสารที่มากขึ้นตามไปด้วย ด้านขุมพลังจะมีให้เลือกมากกว่าหนึ่งแบบ โดยเริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอน ขยายความจุขึ้นไปเป็น 2.5 ลิตร แต่ไม่มีรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ พละกำลังอยู่ที่ 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 241นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ LinearTronic CVT ที่ปรับปรุ่งใหม่ในเรื่องความเงียบและนุ่มนวล ระบบขับเคลื่อนยังคงเป็น 4 ล้อ Symmetrical AWD พร้อมฟังก์ชั่น X-Mode มาตรฐานของรถแบรนด์นี้

ส่วนอีกหนึ่งทางเลือกของขุมพลังคือ e-Boxer Hybrid ซึ่งถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แน่นอนว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอนขนาด 2.0 ลิตร หรือ 2.5 ลิตร แต่ที่แน่ๆ คือเครื่องยนต์ดังกล่าวจะทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet AC Synchronous ส่งกำลังไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ LinearTronic CVT โดยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD จะเป็นแบบ Active Torque Split system หรือพูดง่ายๆคือ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา

อีกหนึ่งจุดขายสำคัญของ Subaru ก็คือระบบความปลอดภัยโดยเฉพาะระบบช่วยเหลือผู้ขับอย่าง EyeSight โดยได้รับการอัพเดทซอฟท์แวร์ใหม่เพิ่มศักยภาพการทำงานมากกว่าเดิม รวมถึงเพิ่มความสามารถของกล้อง ภายในห้องโดยสารอาจไม่ได้มากับดีไซน์ที่ล้ำยุคอะไรมาก เพราะเดี๋ยวมันจะขัดกับหน้าตาภายนอกเกินไป แต่ก็ได้มีการเพิ่มเทคโนโลยีใหม่เข้าไป ใช้หน้าจอกลางขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มฟังก์ชั่นลูกเล่นต่างๆ รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้มากกว่าเดิม

จากสเปคคร่าวๆ และรูปร่างหน้าตาของรถ Subaru Forester ใหม่ก็นับเป็น SUV ที่น่าขับอีกคันหนึ่ง และอย่างที่หลายๆ คนรู้ รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของ Subaru เองก็จะพูดอยู่เสมอว่า หากใครได้ลองขับ Subaru แล้ว เป็นต้องติดใจทุกราย แต่สำหรับประเทศไทย ด้วยความที่ผมบอกไปตอนต้นว่าต่อจากนี้ไป Subaru รุ่นใหม่จะเป็นรถนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นหากคุณจะคาดหวังว่า Forester ใหม่จะมากับราคาล้านกลางๆ เหมือนรุ่นทีผ่านมา มันเป็นไปไม่ได้แล้วน่ะสิครับ และส่วนตัวผมเดาว่าข้ามสองล้านไปแน่นอน ซึ่งบอกเลยว่าถ้า Forester ใหม่ค่าตัวเกินสองล้านไปแล้ว ดูจะทำตลาดให้บูมในบ้านเรายาก!!



ทำไมผมถึงบอกแบบนั้น? ก่อนอื่นต้องขออภัยแฟน Subaru หากเอาข้อเท็จจริงมาคุยกัน ผมจะพูดเสมอว่า Subaru เป็นรถที่เลือกลูกค้า ผมหมายความว่า Subaru ไม่ใช่แค่เฉพาะ Forester แต่ทุกรุ่น มันจะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และมันก็ไม่ใช่รถยอดนิยมในตลาดชนิดที่ว่า คิดไม่ออกก็ไปเอา Subaru ไม่ใช่แบบนั้นแน่ แต่เขาเป็นแบรนด์ที่เจาะเข้ากลุ่มผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะการขับขี่มาเป็นอันดับต้นๆ พวกของเล่น ฟังก์ชั่น ค่อยตามมาทีหลัง

แต่ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมาในประเทศไทยที่เราได้เห็น Subaru XV , Forester วิ่งกันเกลื่อน ก็เพราะว่าเป็นรถที่ประกอบประเทศมาเลเซีย และประกอบในประเทศไทย จึงทำให้ราคาค่าตัวลงมาค่อนข้างเยอะอยู่ในระดับไม่ถึงล้านหรือล้านกลางๆ กลุ่มลูกค้าที่อยากได้อะไรที่แปลกใหม่ต่างจากเดิมๆ ที่ขับๆ กันอยู่ ก็เลยกล้าที่จะลอง เพราะหากย้อนกลับไปลึกกว่านั้นสมัยที่ Subaru ที่ขายในประเทศไทยยังเป็นรถที่ประกอบประเทศญี่ปุ่น Forester เครื่องยนต์ NA ไม่มีเทอร์โบราคาเริ่มต้นก็จะสองล้านอยู่แล้ว รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบไม่ต้องพูดถึง ปาไปสองล้านกลาง ไม่ต้องนับ Legacy หรือ Outback ที่ไม่มีต่ำกว่าสองล้าน

มาถึงวันนี้ Subaru ประเทศไทยกำลังจะกลับไปสู่สภาพนั้นอีกครั้ง ดังนั้นมันจะเป็นการยากและแทบเป็นไปไม่ได้เลยว่า Subaru Forester ใหม่จะขายดีเหมือน Forester รุ่นปัจจุบัน หรือรุ่นที่ผ่านมา 2 รุ่น ซึ่งผมได้บอกไปตอนแรกว่า คู่แข่งของ Forester ในแบรนด์ญี่ปุ่นที่ชัดเจนที่สุดตอนนี้ก็คือ Honda CR-V ซึ่งตอนนี้ Honda CR-V ตัวท็อปราคา 1,729,000 บาท หากมีคนที่ต้องการอยากลองของใหม่อย่าง Forester นั่นหมายความว่าต้องเพิ่มเงินจาก CR-V ตัวท็อปไปอีกกว่า 3 แสนบาท

และยิ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่เน้นเรื่องจำนวนศูนย์บริการ และราคาขายต่อ ผมว่าถ้าไม่ได้ชอบหรืออยากลองจริงๆ คงไม่เปลี่ยนมาเอา Forester แน่ๆ ครับ ที่สำคัญลักษณะนิสัยการซื้อรถของคนไทยในปัจจุบันคือ เน้นฟังก์ชั่นมากกว่าสมรรถนะ ส่วนใหญ่เน้นความคุ้มค่าและการใช้งานมากกว่า ดังนั้นจะมีสักกี่คนที่จะยอมเพิ่มเงินอีกกว่า 3 แสนกับสิ่งที่พวกเขาไม่ได้เน้น

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าคุณมาเงินสองล้านบาท แล้วกำลังจะซื้อรถในกลุ่ม SUV ในประเทศไทย เดินเข้าว์รูม BMW คุณได้ X1 หรือเดินเข้าโชว์รูม Mercedes-Benz คุณได้ GLA รวมไปถึง Volvo และ Audi ถึงขนาดและความอเนกประสงค์มันไม่ใหญ่กว้างขวางเท่า Forester แต่มันคือรถยุโรปที่ภาพลักษณ์หรูหรากว่า ซึ่งเราก็ต้องยอมรับตรงนี้ว่าคนไทยกับอิมเมจเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นี่ผมยังไม่นับบรรดารถ EV หรือไฮบริดจากจีนที่ในระดับราคาล้านกลางถึงล้านปลายคุณจะได้สิ่งที่คุณอยากได้ทุกอย่างในรถคันนั้น

สำหรับ Subaru Forester รุ่นใหม่ มีแหล่งข่าวแจ้งว่าถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตามแผนจะเปิดตัวราวๆ เดือนตุลาคมปีนี้ ก็ต้องมาดูกันว่าจะไปในทิศทางใด อาจเป็นรถที่แฟน Subaru รออยู่ก็ได้ และแน่นอนว่าทางผู้บริหารคงไม่ได้ตั้งเป้าการขายให้ได้จำนวนเท่ากับ Forester รุ่นปัจจุบัน

แต่ยังไงผมยังเชื่อในคุณภาพและสมรรถนะของ Subaru อยู่เสมอ แต่ก็ติดที่ราคาค่าตัวที่จะต้องดีดขึ้นไปก็น่าจะสร้างความเหนื่อยให้กับที่ปรึกษาการขายพอสมควร ผมในฐานะแฟน Subaru คนหนึ่ง ยังไงก็เอาใจช่วยครับ

Photo credit: https://www.subaru-montreal.com/en/subaru-forester-2025-prix-et-fiche-technique-2/, https://www.capitalone.com/cars/learn/finding-the-right-car/2025-subaru-forester-first-drive-review/3245 , https://blog.qualitysubaru.com/2025-subaru-forester-pictures/ , https://www.car-revs-daily.com/2023/11/17/2025-subaru-forester-channels-old-and-new-into-one-distinct-package-for-families-and-trail-warriors/