หลังจากที่ยามาฮ่า ได้ไมเนอร์เชนจ์ครั้งล่าสุดให้กับ MT-09 เจนเนอเรชั่นที่ 3 ไปเมื่อปี 2022 มาครั้งนี้ยามาฮ่า ได้เวลาโมเดลเชนจ์เจ้า MT-09 เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 แล้ว โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ก็คือรุ่น Standard และรุ่นท็อป SP ซึ่งครั้งนี้เราขอโฟกัสรีวิวกันไปที่ตัวท็อป รุ่น SP กันก่อนเลย
สำหรับเจนเนอเรชันที่ 4 ของไฮเปอร์เน็กเก็ต MT-09 สิ่งที่มองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนคือชุดไฟหน้าใหม่ ที่เปลี่ยนมาเป็นโปรเจคเตอร์คู่ จากเดิมที่เป็นแบบดวงเดียว โดยแยกไฟสูง กับไฟต่ำออกจากกัน และด้านล่างลงมาจะมีไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ที่ออกแบบใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยว และที่สำคัญยังดีไซน์ให้สามารถสร้างแรงกดให้กับตัวรถด้านหน้าได้อีกต่างหาก นอกจากนี้ในส่วนของตัวถังน้ำมันที่เป็นแบบอลูมิเนียมก็ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีเหลี่ยมสันมากขึ้น แต่ยังคงขนาด 14 ลิตรไว้เหมือนเดิม โดยมิติถังน้ำมันนั้นจะมีขนาดกว้างขึ้น 60 มม. และดีไซน์กดตัวถังลดลง 30 มม. หากเทียบกับเจนฯ ก่อนหน้านี้
ซึ่งการออกแบบใหม่ทั้งหมดนี้ส่งผลถึงท่านั่ง โดยในเจนฯ นี้ จะถูกปรับ Ridding Position ใหม่ ให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบให้ลำตัวจะโน้มไปข้างหน้ามากขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับมุมเลี้ยวที่ปรับมาใหม่ รวมถึงระยะเทรลของช็อคอัพหน้า และแผงคอที่สั้นลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มองศาการเลี้ยวได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงตัวเบาะยังถูกปรับมาใหม่ให้เป็นแบบ 2 ตอน และออกแบบให้ผู้ขี่สามารถเคลื่อนไหวก้นได้อย่างอิสระ
ในขณะที่ความสูงของตัวรถ แม้จะเป็นบิ๊กไบค์ในคลาส 900 ซีซี แต่ไซส์คนไทยๆ สูงประมาณ 170 ซม. นั่งคร่อมได้สบาย ขาแตะถึงพื้นแน่นอน จากการที่ MT-09 ได้เว้าช่วงเบาะเข้าไปแบบเดียวกับรถสปอร์ต ส่วนความกว้างของระยะแฮนด์ก็อยู่ในระยะที่พอดิบพอดีกับตัวรถ ส่งผลให้นิ้วมือสามารถใช้งานปุ่มสวิตช์คอนโทรลบนแฮนด์ทั้ง 2 ข้างได้อย่างไม่ยากเย็น อีกทั้ง MT-09 ในเจนฯ 4 นี้ยังสามารถปรับก้านคลัตช์ได้ถึง 14 ระดับในระยะ 4.2 มม. ทำให้คนนิ้วมือสั้นสามารถขี่รถคันนี้ได้สบาย ไม่ต้องกางนิ้วให้เมื่อยมือ และในรุ่น SP จะเสริมความพิเศษกว่าตัวสแตนดาร์ด ก็คือ กุญแจที่เป็นแบบสมาร์ทคีย์เพิ่มเข้าไปให้ด้วย
ด้านความสะดวกสบาย MT-09 ใหม่ มีการติดตั้ง USB C มาให้บริเวณใต้เบาะ หน้าจอเป็นแบบสี TFT ที่มีรูปแบบการแสดงผลได้ถึง 4 รูปแบบสสามารถเลือกได้ตามการใช้งาน รวมถึงมีระบบ Y-Connect เชื่อมต่อข้อมูลตัวรถผ่านสมาร์ทโฟน ส่งไปที่หน้าจอ และสามารถรับสายโทรศัพท์ ฟังเพลง ดูสภาพอากาศ SMS และอีเมล์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย
มาที่เรื่องของขุมพลังกันบ้าง ที่ยังคงใช้เครื่องยนต์บล็อกเดิมแบบครอสเพลน CP3 สามสูบเรียง 890 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ เพลาข้อเหวี่ยง 270 องศา ให้แรงม้าสูงสุดที่ 119 แรงม้าที่ 10,000 รอบต่อนาที และแรงบิดที่ 93 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที และที่สำคัญคือได้พัฒนาให้ผ่านมาตรฐาน Euro 5 แล้ว พร้อมกันนี้ยังได้ติดตั้งควิกชิฟเตอร์ 2 ทางเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ให้การชิฟท์เกียร์ขึ้นลงได้สมูทมากขึ้นกว่าเดิม โดยจะทำงานได้ที่ความเร็วตั้งแต่ 15 กม./ชม. ขึ้นไป โดยการชิฟท์อัปนั้นสามารถทำได้ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ 2,000 รอบขึ้นไป และการชิฟท็ดาวน์นั้นทำได้ต่ำสุดถึง 1,600 รอบ รวมไปถึงมีแอสซิสสลิปเปอร์คลัตช์ติดตั้งเข้ามาให้อีกด้วย
ซึ่งฟิลลิ่งของขุมพลังชุดนี้นั้น แม้จะเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดิม แต่ได้เพิ่มเติมในเรื่องฟังก์ชั่นการขับขี่เข้าไป และด้วยแรงบิดที่ให้มาเกือบร้อยนิวตัน ส่งผลให้อัตราเร่งมันสนุกทุกครั้งที่กระแทกคันเร่ง เรียกได้ว่าถ้าจะออกตัวให้ล้อยกนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ก็อย่างที่บอกว่าเจนฯ นี้เค้ามีการปรับยช่วงหน้าให้มีความเบาเพื่อควบคุมง่าย เมื่อเจอทอร์คหนักของเครื่อง CP3 บอกเลยครรับต้องระวังการใช้คันเร่งให้ดี และอีกนิดกับตัว SP ที่น่าจะใส่กันสะบัดมาให้ด้วยเลย เพราะช่วงใช้ความเร็วขี่แล้วรู้สึกได้ถึงหน้ารถที่เริ่มไม่นิ่ง มากับตัวท็อปขนาดนี้ก็น่าติดตั้งมาให้เลย
ความแรงเป็นแค่ส่วนหนึ่งของความสนุกในการขี่เจ้า MT-09 ใหม่เท่านั้น แต่น้ำจิ่มที่เพิ่มความมันส์ให้การขับขี่ มันคือฟังก์ชั่น IMU 6 แกน ที่สามารถเซ็ตค่าต่างๆ ได้ละเอียดถี่ยิบ ทำให้รถกันปรับเข้ากับสไตล์การขี่ของตัวเรามากยิ่งขึ้น โดยระบบต่างๆ ที่สามารถปรับได้จะมีดังนี้
- PWR : Power Mode 4 ระดับ
- TCS : Traction Control 3 ระดับ
- SCS : Slide Control System (Reel Wheel) 3 ระดับ
- LIF : Lift Control (Front wheel lift rate) 3 ระดับ
- BC : Brake Control (ABS link to the IMU) ON/OFF
- QSS : Quick Shift System 2 ระดับ
- BSR : Back Slip Regulator
- EBM : Engine Brake Management (เฉพาะรุ่น MT-09 SP)
- ระบบครูซคอนโทรล สามารถใช้ได้ตั้งแต่เกียร์ 3 เป็นต้นไป ในความเร็วไม่ต่ำกว่า 40 กม./ชม.
มาที่เรื่องของระบบช่วงล่างกันบ้างที่ MT-09 SP ใหม่ นี้ ได้มีการอัปเกรดช่วงล่างให้ดียิ่งขึ้น ด้วยโช้คอัพคหน้าจาก KYB Premium ที่สามารถปรับค่าแดมปิ้งได้ทั้ง พรีโหลด รีบาวด์ และคอมเพรสชัน ส่วนด้านหลังเป็นช็อคอัพตัวเทพ แบบช็อคอัพเดี่ยวจาก Ohlins พร้อมซับแทงค์ ฟูลเซ็ตติ้งเต็มระบบ ฟิลลิ่งช่วงล่างดี แต่เพราะไม่ใช้ Ohlins เต็มระบบ เลยแอบรู้สึกไปนิดว่าด้านหน้าฟิลจะนิ่มไปหน่อย แต่ก็เข้าใจแหล่ะไม่อย่างนั้นค่าตัว MT-09 SP คงทะลุหลักครึ่งล้านไปแน่นอน
ถัดไปมาดูเรื่องของเบรก ที่ MT-09 SP จัดมาให้กับชุดเบรก Brembo Stylema ซึ่งถือเป็นตัวท็อปๆ ของชุดเบรกในยุคนี้ โดยด้านหน้าใช้ดิสก์เบรกคู่ขนาด 298 มม. สวมคาลิเปอร์เบรก Brembo Stylema โมโนบล็อก เรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ โดยปั๊มบนก็ใช้ของ Brembo เช่นเดียวกัน ถัดมาด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 245 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดียว เรียกได้ว่าเรื่องเบรกไว้ใจได้ ไม่ต้องไปตกแต่งเพิ่ม ก็มั่นใจว่าเอาอยู่แน่นอน ในขณะที่ยางใช้ของ Bridgestone Battlax Hypersport S23 ซึ่งเป็นตัวใหม่ล่าสุด ขนาด 120/70-17 และ 180/55-17 ตามลำดับ
สำหรับ All New Yamaha Mt-09 SP ปี 2024 มาพร้อมราคาค่าตัวที่ 489,000 บาท พร้อมรับ Gift Voucher มูลค่า 20,000 บาท ซึ่งหากเทียบกับตัว Standard ก็จ่ายแพงกว่าไม่ถึงครึ่งแสน บอกเลยครับว่าถ้าใครสนใจ MT-09 ผมว่าขยับมาตัว SP ทีเดียวจบๆ ไปเลยครับ