ค่ายMG ยังคงแข็งแกร่งจากยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่พุ่งเป็นอันดับ 1 เติบโตกว่า 70% ตอกย้ำความเชื่อมั่นอยู่คู่ตลาดไทยมากว่า 12 ปี โดยก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ประจำเดือนสิงหาคม 2568 ด้วยตัวเลขสูงถึง 2,230 คัน

ขณะที่ยอดรวมรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง สิงหาคม มีอัตราการเติบโตมากกว่าปี 2567 กว่า 70% ตอกย้ำความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยต่อแบรนด์ ที่ยืนหยัดและเติบโตเคียงคู่ตลาดไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 12 ปี

MG ได้สร้างความเชื่อมั่นและวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความคุ้มค่าที่มอบให้ลูกค้า ทำให้ยอดจดทะเบียนในช่วง เดือนสิงหาคม รวมทุกรุ่นอยู่ที่ 2,615 คัน มีรุ่นยอดนิยมอย่าง NEW MG4 ELECTRIC ซึ่งได้อันดับ 1 ในยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และยังมีรุ่นที่เปิดตัวใหม่อย่าง NEW MG S5 EV และ NEW MG IM6 ที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของอีวีคุณภาพที่เข้าถึงได้ง่าย และมียอดรวมตั้งแต่เดือน มกราคม ถึง สิงหาคม ปี 2568 รวมแล้วกว่า 15,783 คัน

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านรถจีน ระบุว่า ตลาดรถจีนในไทยตอนนี้แข่งขันกันสูงมาก ดังนั้นแบรนด์ใดที่สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าได้มากกว่าจะได้เปรียบ ซึ่ง MG ถือเป็นแบรนด์เดียวที่กล้ามอบความมั่นใจให้ลูกค้าก้าวเข้าสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างไร้กังวลด้วยการรับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุม ตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY)

อีกทั้งยังมีคลังอะไหล่ที่พร้อมส่งเร็วสุดภายใน 24 ชั่วโมง โชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 125 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมแผนการขยายเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เอ็มจี จึงไม่เพียงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่ยังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการสร้าง MG EV ECOSYSTEM ที่แข็งแกร่งและครอบคลุมในทุกมิติ

เช่นเดียวกับนาย ซู๋ว์หยิ่น ผู้บริหาร เอ็มจี เซลส์ ระบุว่ายอดที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและการทุ่มเทของ MG ตลอดจนความไว้วางใจที่ลูกค้ามอบให้เสมอมา MG มุ่งมั่นที่จะยืนหยัดเคียงข้างลูกค้าในประเทศไทยอย่างยั่งยืน พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในราคาคุ้มค่า

ควบคู่ไปกับบริการหลังการขายที่ครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ไม่ใช่แค่ฟังก์ชันหลากหลาย แต่ยังมอบความอุ่นใจตลอดระยะเวลาการเป็นเจ้าของ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เอ็มจี สามารถเติบโตเหนือกว่าแบรนด์ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด คือความพร้อมที่จะปรับตัวให้สอดรับกับจังหวะและความเปลี่ยนแปลงของตลาดในทุกสถานการณ์ เพื่อให้แบรนด์ก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคงตลอดเวลา
ทีมงาน CARZANOVA ตรวจสอบข้อมูล ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ในประเทศไทย เดือนสิงหาคม 2568 สูงถึง 9,825 คัน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 25% ของยอดจดทะเบียนรถใหม่ทั้งหมดในเดือนนั้น (ยอดรวมรถจดทะเบียนทั้งหมด: 39,325 คัน)

ในส่วนของ รุ่นรถที่มียอดจดทะเบียนสูงสุด ได้แก่ MG4 Electric ที่มียอดถึง 1,337 คัน ครองอันดับหนึ่งในเดือนนั้น ส่วนอันดับสอง ได้แก่ BYD Dolphin ตามมาที่ 1,036 คัน และอันดับสามคือ BYD Atto 3 ที่ 558 คัน ชี้ให้เห็นว่า MG4 Electric ครองอันดับ 1 ในยอดจดทะเบียนที่แบ่งเป็นรายรุ่นแซงหน้า BYD

ทั้งนี้ผลงานที่เกิดขึ้นน่าจะมาจาก MG มีเครือข่ายในไทยมานาน มีดีลเลอร์ทั่วประเทศ และมีรถที่ผลิตในไทย ใช้แบตเตอรี่บางส่วนในประเทศ ช่วยลดต้นทุนและอะไหล่ มีอัตราค่าเบี้ยประกัน และค่าบำรุงรักษาระยะ 100,000 กม. ถูกกว่าคู่แข่งอื่นๆ มากถึงครึ่งหนึ่ง
ประกอบกับนโยบายรับประกันแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งานในไทย ได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ ขณะที่บางยี่ห้อ ยังมีประเด็นเรื่องการให้ส่วนลด ที่ทำลูกค้าบางรายที่ซื้อไปก่อนหน้ารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม













