ลักชัวรี่ MPV ที่ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด DENZA π – Motion ดีไซน์ด้านหน้ารถแบบ Pi Motion พร้อมด้วยไฟหน้ารูปแบบ Meteor Arrow และไฟท้ายออกแบบด้วยแนวคิด ฝนดาวตกแห่งกาลเวลา มาพร้อมกับสมรรถนะจากมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลังที่ให้กำลังสูงสุดถึง 275 kW และแรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาด 103.36 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ได้ภายใน 6.9 วินาที ระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C เทคโนโลยีช่วงล่างแบบไฟฟ้าเอกสิทธิ์เฉพาะจากบีวายดี รองรับการปรับแต่งความกระด้างและความนุ่มนวลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมรถ ลดปัญหาการยุบตัวของตัวรถ การพลิกคว่ำ การเกิดแรงกระชากเมื่อเบรกหรือเหยียบคันเร่ง
พื้นที่ภายในของ DENZA D9 ให้ความรู้สึกโปร่งสบายด้วย Panoramic Glass Roof ขนาด 1.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า เนรมิตความกว้างขวางสะดวกสบายพร้อมรองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง เพิ่มระดับความหรูหราด้วยเบาะหุ้มหนังแท้ Nappa เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มาพร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง รวมทั้งยังสามารถปรับหมอนรองศรีษะให้เข้ากับสรีระศรีษะได้อีกด้วย
นอกเหนือจากนั้นยังมาพร้อมกับระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ ยกระดับความสะดวกสบายขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะคนขับและผู้โดยสารแถวที่สอง ที่มาพร้อมฟังก์ชัน Welcome Seat และปุ่ม reset ตั้งค่าเบาะ ทำให้สะดวกสบายในการขึ้น-ลงรถ ครบครันด้วยระบบมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิง อาทิ หน้าจอมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 15.6 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลก Dynaudio Hi-Fi Class ลำโพง 14 ตำแหน่ง ที่พักแขนเบาะนั่งโดยสารแถวที่สอง พร้อมหน้าจอ LCD แบบมัลติฟังก์ชัน ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ห้องโดยสารตอนหน้า 1 ตำแหน่ง และห้องโดยสารแถวที่สองอีก 2 ตำแหน่ง ทั้งยังมีระบบตู้เย็นภายในรถยนต์ที่สามารถปรับแต่งองศาตั้งแต่ -6 จนถึง 50 และสัญญาณอินเตอร์เน็ต 4G ในตัว ให้ทุกคนใช้ชีวิตยุคออนไลน์ได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ พร้อมทั้งเติมเต็มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องโดยสารด้วยกระจกกันเสียง 2 ชั้นรอบคัน
DENZA D9 ยังมาพร้อมความโดดเด่นของเทคโนโลยีอีกมากมายเพื่อการขับขี่อัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็น กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา, เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุรอบคัน 8 ตำแหน่ง, ระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) ขนาด 12 นิ้ว รวมถึงเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ที่ครบครันสำหรับทุกเส้นทาง อาทิ
- ระบบช่วยแจ้งเตือนอันตรายจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ (DMS)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันอัจฉริยะ (ICC)
- ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTA)
- ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTB)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ระบบช่วยเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)
- ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
- ระบบช่วยควบคุมและช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI)
- ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
- ระบบช่วยป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS)
- ระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH)
- ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
- ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ระบบช่วยควบคุมและช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI)
DENZA D9 ประกาศราคาขายแนะนำ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ DENZA D9 Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท และDENZA D9 Premium ราคา 1,999,900 บาท โดยเป็นราคาพิเศษเฉพาะผู้ที่จองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เท่านั้น และสำหรับผู้ที่จองรถ DENZA D9 Performance AWD ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 และรับรถภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 จะได้รับโฮมชาร์จเจอร์ ABB พร้อมบริการติดตั้ง เพิ่มอีกด้วย
สำหรับแบรนด์ DENZA ถือกำเนิดขึ้นในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์พลังงานใหม่ โดยพัฒนาและขับเคลื่อนโดยบีวายดีอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 ซึ่งได้ปรับโครงสร้างภายในทำให้แบรนด์อยู่ภายใต้บีวายดี 100% โดยยังคงเน้นความโดดเด่นในการหลอมรวมเทคโนโลยีและความหรูหราเข้าด้วยกันอย่างลงตัวผ่านการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลากหลายประเภทที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นรถครอสโอเวอร์ (Crossover) อย่าง DENZA N7, รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV)อย่าง DENZA N8, รถแฮทช์แบ็กทรงสปอร์ตระดับพรีเมียมอย่าง DENZA Z9 GT และรถตู้อเนกประสงค์ (MPV) DENZA D9 ที่เน้นสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้งยังการันตีด้วยความเป็นที่หนึ่งในตลาดรถตู้อเนกประสงค์ของจีนในปี พ.ศ. 2566 โดยมียอดจองและยอดขายมากกว่า 250,000 คัน
ด้านโชว์รูมและศูนย์บริการแบรนด์ DENZA นำเสนอบริการระดับพรีเมียมโดยบุคลากรทั้งหมดจาก DENZA ไม่ว่าจะเป็นพนักงานฝ่ายขายและทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเพื่อมอบประสบการณ์และความประทับใจให้กับลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรก โดยทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านสำคัญในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใหญ่ในประเทศไทย พร้อมมอบความสะดวกสบายในการเข้าถึงให้กับลูกค้าหลากหลายพื้นที่รวมจำนวนทั้งสิ้น 10 แห่ง ประกอบด้วย
- กรุงเทพมหานคร 3 แห่ง ได้แก่ สาธุประดิษฐ์ เพชรบุรีตัดใหม่ และศรีนครินทร์
- ต่างจังหวัด 7 แห่ง ได้แก่ ระยอง ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต