• Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result
  • Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result
CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
No Result
View All Result

รีวิว HONDA CR-V e:HEV ES ตัวรองท็อป ขับ 2 เพียงพอแล้ว

Admin by Admin
June 4, 2024
in Review
200
SHARES
1.8k
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

ยุคนี้ถ้าพูดถึงรถยนต์อย่างน้อยต้องเครื่องยนต์ไฮบริดกันแล้ว จะมาสันดาปล้วนดูจะเชยไปซักหน่อย และเมื่อผมเอาตัว HONDA CR-V MY2024เจเนอเรชั่นล่าสุด มาขับ แม้จะมีขุมพลัง 2 แบบ เบนซินเทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร  VTEC TURBO กับขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พูดเกริ่นมาขนาดนี้ แน่นอนครับ ผมต้องเอาตัวขุมพลังฟูลไฮบริดมาทดลองขับอย่างแน่นอน

HONDA CR-V e:HEV ES

แต่เดี๋ยวก่อน ในส่วนของขุมพลังฟูลไฮบริดนั้น ก็มีตัวเลือกให้ 2 รุ่น รุ่นท็อป RS ขับเคลื่อน 4 ล้อ กับรุ่น ES รองท็อป ที่ต้องบอกว่าถ้าใครไม่ได้สนใจเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่ดูสปอร์ตล้ำมากนัก บวกกับไม่ได้เดินทางสมบุกสมบันต้องใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD เอาจริงตัว ES รุ่นรองท็อปขับเคลื่อน 2 ล้อก็เพียงพอแล้ง และสำคัญประหยัดเงินกว่ารุ่น RS ไปถึง 140,000 บาท โดยสนนราคาค่าตัวรุ่น ES อยู่ที่ 1,589,000 บาท

ดีไซน์ภายนอก

เรื่องของรูปร่างหน้าตา โดยรวมถือว่าใหม่หมดทั้งคัน แต่มองยังไงก็ยังมีเค้าโครงของความเป็น CR-V อยู่ แม้จะเน้นความดุดันมากขึ้นจากกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black ขนาดใหญ่ พร้อมโลโก้ตัว H ขอบสีฟ้าเพื่อบ่งบอกความเป็นรถไฮบริด ด้านชุดไฟมาเต็มกับระบบ LED ทั้งไฟฟน้า ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟตัดหมอกคู่หน้า และชุดไฟท้ายก็เป็นแบบ LED

ขยับมาที่หลังคาขาดไม่ได้กับ Panoramic Sunroof แบบไฟฟ้าขนาดใหญ่ ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close) และติดตั้งล้ออัลลอยสีดำเงาดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/60R18

ดีไซน์ภายใน

ภายในห้องโดยสารยังคงความกว้างขวาง โปร่งสบาย พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายครบครัน การตกแต่งดูยังขัดๆ เขิลๆ หน่อย กับการคุมโทนให้ดูสปอร์ต แต่กลับมีลายไม้สีเข้มเข้ามาตกแต่ง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายถือว่าอยู่ในระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่, ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ได้รับการติดตั้งในหลายตำแหน่ง อาทิ ถาดคอนโซลกลาง แผงประตูหน้าและหลัง และที่วางแก้ว, ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto, มาตรวัดความเร็วพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT, อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สายซึ่งเอาจริงๆ ก็ยังหาค่ายรถที่ทำ Wireless Charger ที่สามารถใช้งานจริงๆ ได้น้อยมาก, ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง, เบาะนั่งด้านหลังเลื่อนและแยกพับแบบ 60:40 และสามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ

ขุมพลัง

HONDA CR-V e:HEV ES พื้นฐานเป็นขุมพลังฟูลไฮบริด จะผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์เบนซินใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว 148 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อาที่ แรงบิด 183 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองทันใจด้วยมอเตอร์ 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 2,000 รอบต่อนาที ซึ่งเมื่อทำงานรวมกันจะให้แรงม้าสูงสุดถึง 207 แรงม้า โดยเคลมอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร (แต่เมื่อลองใช้งานจริง จะได้เท่าไหร่ เดี๋ยวไปลองกัน) และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร โดยรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง

ด้านระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์การขับขี่ โดยมีให้เลือก 3 โหมด โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พร้อมสวิตซ์โหมดการขับขี่ ที่มีให้ทั้ง Sport Mode, Normal Mode และ Econ Mode

ระบบควบคุม

ด้านระบบการควบคุมของ HONDA CR-V e:HEV ES ใช้ระบบพวงมาลัยแบบดูอัลพิเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (DP-EPS) โดยมีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.5 เมตร ขณะที่ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง

ระบบความปลอดภัย

ปิดท้ายที่ระบบความปลอดภัย HONDA CR-V เจเนอเรชั่นล่าสุด มากับระบบเบรกแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ โดยด้านหน้ามีช่องระบายความร้อน และยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS), ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB), ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN)

นอกจากนี้ยังมีระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (MVCS) พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC), ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (ACL), ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ และระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย

บทสรุปหลังทดลองขับ

ก่อนอื่นขออธิบายหลักการทำงานเบื้องต้นของระบบฟูลไฮบริดใน HONDA CR-V e:HEV ES กันซักหน่อย เริ่มต้นกันที่เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ หากแบตเตอรี่มีปริมาณมากพอ เครื่องยนต์จะยังไม่ทำงาน โดยจะปล่อยหน้าที่ให้แบตเตอรี่ไฟฟ้ารับหน้าที่ทำงานก่อน รวมถึงระบบแอร์ก็จะทำงานโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เหมือนกัน แต่หากไฟในแบตเตอรี่ไม่พอ คราวนี้ล่ะเครื่องยนต์จะรับบทบาททำงานขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

การขับขี่ หากเป็นการออกตัวแบบช้าๆ มอเตอร์ไฟฟ้าจะเป็นตัวขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ยังไม่ทำงาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณไฟฟ้าในแบตเตอรี่ด้วยนะครับ ซึ่งเมื่อเริ่มใช้ความเร็ว เครื่องยนต์จะเข้ามาทำงาน และมีการชาร์จไฟกลับในขณะถอนคันเร่ง และเหยียบเบรค และในช่วงเร่งแซงเครื่องยนต์จะทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเค้นสมรรถนะออกมาเต็มกำลัง

มาถึงเรื่องฟิลลิ่งการขับขี่กันบ้าง โดยรวมชอบเรื่องของขุมพลัง ที่ให้การตัดต่อกำลังระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ได้แบบเนียนมากๆ ซึ่งถ้าไม่ดูที่หน้าจอ และไม่ได้ฟังเสียงเครื่องยนต์ บอกได้เลยว่าไม่รู้ว่านี่เป็นการทำงานของอะไร ส่วนเรื่องของความแรงอาจจะไม่ได้เป็นสไตล์แรงปรู๊ดปร๊าดอะไรมากนัก ตัวเลข 207 แรงม้า เป็นอัตราเร่งที่มาในแบบนุ่มนวล ค่อยๆ ขึ้นแบบละมุนๆ การควบคุมด้วยพวงมาลัยที่เป็นแบบดูอัลพิเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า ต้องบอกว่าให้ความแม่นยำดี แต่ในส่วนของระบบช่วงล่างโดยส่วนตัวยังไม่ค่อยประทับใจซักเท่าไหร่ แม้การเกาะถนนจะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่การซับแรงสั่นสะเทือนยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ขึ้นเนิน ตกหลุม นั่งแล้วยังไม่ค่อยนุ่มนวล มีอารมณ์ตึงตังไปหน่อย

ปิดท้ายที่เรื่องอัตราการประหยัดน้ำมัน เท่าที่ได้ลองวิ่งทั้งในเมืองและนอกเมือง ทำได้อยู่ที่ประมาณ 15 – 16 กม./ลิตร ซึ่งก็ต่างจากตัวเลขที่ทางโรงงานเคลมไว้อยู่ไม่มาก ถ้าจะถามว่าประหยัดน้ำมันมากไหม ผมจะตอบว่าไม่มาก เพราะเดี๋ยวนี้รถไฮบริด วิ่งกันทะลุ 20 กม./ลิตร กันไปแล้ว แต่นั่นเป็นพวกครอสโอเวอร์ ไซส์ไม่ใหญ่เท่านี้ แต่หากเป็นเอสยูวีไซส์นี้ ก็ต้องถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ซึ่งใครที่เคยแหยงกับอัตราการบริโภคน้ำมันของ CR-V ในเจนฯ แรก บอกได้เลยว่า มาถึงตัวนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว 

ส่วนราคาค่าตัว  HONDA CR-V เจเนอเรชั่นที่ 6 ที่เป็นขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV มีให้เลือก 2 รุ่น e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,729,000 บาท กับ e:HEV ES 5 ที่นั่ง ราคา 1,589,000 บาท ก็อย่างที่บอกหากไม่เน้นเรื่องรูปร่างหน้าตากับสไตล์ RS หรือระบบขับเคลื่อนที่เป็นแบบ AWD ไว้ตะลุยเส้นทาง ผมว่า HONDA CR-V e:HEV ES ก็เพียงพอแล้ว ประหยัดเงินในกระเป๋าไปตั้ง 1.4 แสนบาท ไว้เติมน้ำมันสบายๆ

Related Posts

CEO โตโยต้าเอเชีย ปั้นไทยฐานผลิตใหญ่ Land Cruiser FJ
Review

CEO โตโยต้าเอเชีย ปั้นไทยฐานผลิตใหญ่ Land Cruiser FJ

October 30, 2025
Lexus เป็นมากกว่ารถยนต์สี่ล้อ ไม่ต่างจากบ้านหลังที่สอง 
Review

Lexus เป็นมากกว่ารถยนต์สี่ล้อ ไม่ต่างจากบ้านหลังที่สอง 

October 30, 2025
โตโยต้า อวดโฉม 4 แบรนด์ในเครือ กระหึ่มเวที Japan Mobility Show 2025
Review

โตโยต้า อวดโฉม 4 แบรนด์ในเครือ กระหึ่มเวที Japan Mobility Show 2025

October 30, 2025
ส่องภาษีสรรพสามิตใหม่ปี 69 รุ่นไหนแพงขึ้น หรือถูกลง
Review

ส่องภาษีสรรพสามิตใหม่ปี 69 รุ่นไหนแพงขึ้น หรือถูกลง

October 30, 2025

Category

  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle

Tags

70mai AAS AAS Motorsport Akrapovic Aston Martin BMW BRIDGESTONE BYD Changan Chery CHERY V23 COCKPIT Continental Deepal EV Ferrari Fregata GAC GWM TANK 300 Honda Hyundai JAECOO 6 EV Lamborghini Leapmotor MASERATI MGC-ASIA Millennium Auto Mitsubishi MMS MotoGP 2026 Motorrad NEXZTER Nissan OMODA PTG Rolls-Royce Royal Enfield Suzuki SUZUKI JIMNY Tesla Toyota Volvo XPENG Zeekr มาสเตอร์เซอร์ทิฟายด์ยูสคาร์

About

มิติใหม่แห่งข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในแวดวงยานยนต์ และไลฟ์สไตล์ บนโลกออนไลน์ ในรูปแบบวาไรตี้ ที่ไม่ควรพลาด

Categories

  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle

Browse by Tag

70mai (2) AAS (2) AAS Motorsport (1) Akrapovic (1) Aston Martin (1) BMW (3) BRIDGESTONE (2) BYD (4) Changan (2) Chery (1) CHERY V23 (1) COCKPIT (1) Continental (1) Deepal (3) EV (1) Ferrari (1) Fregata (1) GAC (1) GWM TANK 300 (1) Honda (8) Hyundai (3) JAECOO 6 EV (1) Lamborghini (4) Leapmotor (3) MASERATI (1) MGC-ASIA (3) Millennium Auto (2) Mitsubishi (6) MMS (1) MotoGP 2026 (1) Motorrad (2) NEXZTER (1) Nissan (7) OMODA (1) PTG (1) Rolls-Royce (1) Royal Enfield (3) Suzuki (5) SUZUKI JIMNY (1) Tesla (3) Toyota (28) Volvo (2) XPENG (4) Zeekr (5) มาสเตอร์เซอร์ทิฟายด์ยูสคาร์ (1)

Recent Posts

  • Suzuki ปูพรม “MOBILITY TEC” สร้างสีสรรในงาน JAPAN MOBILITY SHOW 2025
  • Nissan Japan Mobility Show 2025 เปิดตัว นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

© 2024 CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์

No Result
View All Result
  • Home
  • Review
  • Car
  • Bike
  • Other
  • Motorsport
  • Lifestyle

© 2024 CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์