เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดจากเยอรมัน Audi Q5 55 TFSI e QUATTRO S LINE BLACK EDITION ที่นำเข้าโดย Audi Thailand มาพร้อมขุมพลังไฮบริดลูกผสมระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ กับมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 105 แรงม้า พ่วงแบตเตอรี่ขนาด 17.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่เชื่อมต่อกับมอเตอร์โดยเมื่อควบรวมกำลังของทั้ง 2 ระบบแล้วจะได้พละกำลังรวม 367 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าแรงเอาเรื่อง เอาเป็นว่าพอจะฟัดกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz GLC300e, BMW X3 xDrive 30e, Volvo XC60 T8 R Design หรือ Lexus NX450h+ ได้แบบสบายๆ โดยระยะทางวิ่งไฟฟ้าล้วนของ Q5 55TFSI e ทำได้ไกล 54 กิโลเมตร
สำหรับ Audi Q5 55TFSI e QUATTRO S LINE BLACK EDITION ที่มาพร้อมชุดแต่ง ตอนนี้มีโปรโมชั่นช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งได้ปรับราคาจำหน่ายลงมาที่ 3,250,000 บาท หรือจะเลือกผ่อน 0% 7 ปี ไปเลยก็ได้ โดยในช่วงเปิดตัวเจ้า Q5 คันนี้ ทางอาวดี้เขาวางราคาไว้ที่ 3,950,000 บาท ซึ่งใครสนใจตอนนี้รีบเลยเพราะราคาถือว่าน่าสนใจมากๆ
ก่อนที่เราจะไปลองขับเพื่อดูสมรรถนะ เรามาดูสิ่งที่น่าสนใจของเจ้า Audi Q5 55TFSI e QUATTRO S LINE BLACK EDITION คันนี้กันซะหน่อย เริ่มจากแพลตฟอร์มที่เป็นตัว MLB2 ซึ่งจะใช้ร่วมกับรถยนต์หลากหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น A4, A8 หรือ Q7 รวมไปถึงแบรนด์ในเครืออย่าง Volkswagen Touareg MKII ภายนอกมาพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ของ S line และเมื่อมองทะลุเข้าไปภายในจะเห็นคาลิปเปอร์เบรกสีแดงสดใส ไฟหน้าเป็นแบบ Matrix LED พร้อมระบบอัตโนมัติ กระจังหน้าทรงรังผึ้งกรอบแปดเหลี่ยม ภายในประทับใจกับชุดเครื่องเสียงของ Bang & Olufsen ที่ให้คุณภาพเสียงอยู่ในเกณฑ์ดี
Audi Q5 55TFSi e ถ้าเทียบไซส์แล้ว จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่าง BMW X3 โดยมีมิติตัวถัง ยาว 4,663 มิลลิเมตร กว้าง 1,893 มิลลิเมตร แต่ถ้ารวมกระจกมองข้าง 2,140 มิลลิเมตร ความสูงอยู่ที่ 1,659 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,819 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,616 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,609 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า 899 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หลัง 945 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักตัวรถ 2,040 กิโลกรัม ในขณะที่ยางใช้ตัว Pirelli Scorpion Verde 255/40R20
ขยับเข้ามาที่ภายในห้องโดยสารกันบ้าง สำหรับ Q5 ถือเป็น SUV ขนาดกลาง ห้องโดยสารจัดว่าเงียบเพราะมีวัสดุป้องกันเสียงจากบรรยากาศรอบข้าง แต่ที่ผมชอบเจ้ารถคันนี้เป็นพิเศษเพราะผมเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ก็เห็นจะเป็นเรื่องของการดีไซน์บานประตูให้เข้าและออกจากห้องโดยสารได้ง่าย ขณะที่เรื่องการออกแบบห้องโดยสารถือว่าเรียบง่ายไม่มีอะไรหวือหวา แต่ก็ลงตัวด้วยแดชบอร์ดที่เน้นเหลี่ยมคคม มีมาตรวัด Virtual Cockpit ที่ปรับรูปแบบได้ โดยถ้าใครเป็นสไตล์ Old School ก็สามารถแสดงผลด้วยวัดรอบ และความเร็วทรงกลมแบบคลาสสิกได้
เบาะนั่งหุ้มหนัง Fine Nappa พร้อมสัญลักษณ์ S Line เป็นแบบปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ แผงข้างประตูและพนักเท้าแขนในทุกตำแหน่งหุ้มด้วยหนังอย่างดี พื้นที่เบาะหลังออกแบบให้นั่งโดยสารทางไกลได้สบายตัว แต่พื้นที่วางขาอาจจะไม่กว้างมากนัก เพราะเป็นเพียงแค่ SUV ไซส์กลาง ส่วนเบาะหลัพับได้ด้วยรูปแบบการพับที่หลากหลาย 40/20/40 ระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ใช้งานง่าย แสดงในหน้าจอแดชบอร์ดขนาด 10.1 นิ้ว เชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และ Android Auto จอภาพมาตรวัดใน Audi Virtual Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว
ได้เวลามาถึงเรื่องสมรรถนะกันแล้ว สำหรับ Audi Q5 55 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ความจุ 2.0 ลิตร กำลัง 262 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้าในเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด กำลัง 141 แรงม้า แรงบิดของมอเตอร์ขับเคลื่อนอยู่ที่ 350 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Ultra Quattro ที่คอยเฉลี่ยแรงบิดให้สมดุลในทุกย่านความเร็ว แบตเตอรี่เป็นแบบ lithium-ion ขนาด 17.9 kWh onboard charge จำนวน 8 โมดูล เปลี่ยนแยกแต่ละโมดูลได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งลูก พร้อมรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร.โดยเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อทำงานร่วมกันจะมีกำลังรวม 367 แรงม้า แรงบิดของรวม 500 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งตามสเปคจาก 0-100 กิโลเมตร ใน 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่งต้องบอกว่าเรื่องความแรงนั้นหายห่วง ตามโลโก้เค้าเลย เพราะพละกำลัง 367 แรงม้า กับแรงบิด 500 นิวตัน-เมตร บอกได้เลยว่ากระชากบอดี้ขนาด 2.4 ตัน ได้แบบสบายๆ และที่สำคัญเรื่องความประหยัดก็หายห่วงอีกเช่นเดียวกัน ยิ่งถ้าชาร์จไฟมาเต็มๆ ด้วยแล้ว ไม่ต้องห่วงว่าขับรถไซส์ขนาดนี้ จะเปลืองน้ำมัน โดยตัวเลขความประหยัดถ้าจะให้บอกกันตรงๆ ก็คงไม่ได้ เพราะพอเป็นรถ PHEV การวัดความประหยัดมันค่อนข้างยาก เพราะมีปัจจัยที่เข้ามาประกอบหลายอย่าง แต่เอาเป็นว่ารวมๆ เรื่องการกินน้ำมัน ไม่น่าเป็นห่วงอะไร
มาที่ระบบกันสะเทือนกันบ้างต้องบอกว่ารองรับแรงกระแทกได้ดี แม้ว่าจะไม่มีระบบกันสะเทือนแบบปรับได้อัตโนมัติก็ตาม ขับทางตรงช่วงความเร็วสูงรู้สึกมั่นคง ไม่ว่าสภาพถนนจะเป็นอย่างไร แต่ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าฟิลลิ่งของช่วงล่างจะเอียงไปทางสปอร์ตซัก 70% ส่วนฟิลพวงมาลัยไฟฟ้าอัตราทดแปรผันนั้นเน้นความแม่นยำและให้น้ำหนักที่กำลังพอดีมือ แต่ถ้าอยากให้มั่นใจมากยิ่งขึ้นก็สามารถปรับไปที่โหมดไดนามิกได้ พวงมาลัยจะปรับหน่วงให้มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
โดยรวมแล้ว Audi Q5 55TFSI e QUATTRO S LINE BLACK EDITION ถือว่าตัวรถทั้งภายนอกภายในมีความเนี๊ยบ การขับขี่ถือได้ว่าโอเค โดยเฉพาะเรื่องความแรงนั้น ประทับใจมากกับตัวรถที่น้ำหนักมากขนาดนี้ แต่ยังออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจ ส่วนเรื่องโหมดการวิ่งแบบไฟฟ้าล้วนนั้น กับตัวเลขระยะทาง 54 กิโลเมตร ก็ดูจะน้อยไปหน่อย แต่เมื่อเทียบกับราคาที่มาพร้อมโปรโมชั่นเดือนนี้เข้าให้แล้ว บอกตามตรง แค่ยืมมาลองขับ ยังอยากได้มาขับไว้ใช้งานจริงๆ ซักคันเลย