Tag: Toyota

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม 2568 มียอดขาย 47,622 คัน เพิ่มขึ้น 5.4%  แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง   18,168 คัน ลดลง 0.7%  รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขาย 29,454 คัน เพิ่มขึ้น 12.3% และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 14,599 คัน ลดลง 2.5% รถยนต์ในกลุ่ม HEV มียอดขาย 11,230 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 26% และมียอดขายสะสม 8 เดือนแรกถึง 89,598 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 50.6% ของตลาด xEV ทั้งหมด สำหรับโตโยต้า ยังคงครองอันดับหนึ่งตลาดรถยนต์ ด้วยยอดขายสะสม 8 เดือนแรกถึง 149,328 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 37.3% นำโดย Yaris ATIV 35,017 คัน และ Hilux REVO 25,182 คัน สำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ที่ได้มีการแนะนำ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดย New Yaris ATIV HEV น้องใหม่ล่าสุดสายไฮบริด ทำยอดจองสะสมหลังจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม จนถึงวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา มากกว่า 3,700 คัน ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ รุ่น NEW bZ4X ที่เปิดรับจองสิทธิ์ผ่านช่องทางออนไลน์ มีผู้สนใจลงทะเบียนที่ 1,890 คัน (ข้อมูล ณ วันที่ 26 กันยายน 2568) ส่วนตลาดรถยนต์เดือนกันยายนมีแนวโน้มทรงตัวเนื่องจากผู้บริโภครอความชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่อาจส่งผลให้ชะลอการซื้อขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่ผันผวนและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินยังคงอยู่ในระดับสูงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย

วันก่อนนิกเคอิเอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่าโตโยต้ามอเตอร์มีแผนปรับปรุงด้านการผลิตรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพโดยจะครอบคลุมโรงงาน 18 แห่งเป้าหมายเพื่อเพิ่มผลผลิตโดยใช้หลักไคเซ็น (Kaizen) ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรักษาความสามารถในการแข่งขันภายใต้โปรเจ็ก TOYOTA Area 35 โตโยต้าจัดเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของโลกผลิตและจำหน่ายรถยนต์ประมาณ 10 ล้านคันต่อปีมีโรงงานประกอบรถยนต์ 54 แห่งทั่วโลกและมีตัวแทนจำหน่ายประมาณ 4,300 แห่งทั่วญี่ปุ่นมีห่วงโซ่อุปทานที่กว้างขวางครอบคลุมกว่า 60,000 แห่งในญี่ปุ่นเพียงประเทศเดียว รถยนต์หนึ่งคันมีชิ้นส่วนประมาณ 30,000 ชิ้นดังนั้นการบริหารจัดการด้านพื้นที่และปริมาณสต็อกชิ้นส่วนรถยนต์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน โปรเจ็ก Area 35 เริ่มมาตั้งแต่ปี 2023 โดยวางเป้าหมายเพื่อลดการใช้พื้นที่ในโรงงานลง 35% และลดจำนวนสต็อกชิ้นส่วนอะไหล่ที่ไม่จำเป็นราว 20%  คำถามของ Area 35  จะมุ่งไปที่การจะใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตรถยนต์ 10 ล้านคันอย่างไรให้มีประสิทธิภาพยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆคือ โรงงานผลิตรถยนต์มีพาร์ตนัมเบอร์มากมายเช่นชุดสายไฟสำหรับแผงหน้าปัดมีมากกว่า 100 เบอร์แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยถูกนำใช้งานเลย AREA 35  จึงออกแบบมาเพื่อปรับโครงสร้างการพัฒนาการผลิตและการขายให้สามารถลดความซับซ้อนและเพิ่มมูลค่าเพื่อให้โรงงานเดิมสามารถรองรับการผลิตรถยนต์ยุคใหม่โดยเฉพาะตอบสนองรถEV ได้มากขึ้นโดยไม่ต้องสร้างโรงงานใหม่ จุดประสงค์หลักของการลดความซับซ้อนนี้ยังสามารถเชื่อมโยงข้อมูลการพัฒนาการผลิตการขายและช่วยทำซัพพลายเชนให้ทำงานได้ไวขึ้นมีความยืดหยุ่นในการผลิต  ตอบรับความต้องการลูกค้าที่หลากหลายลดขั้นตอนและทำให้ต้นทุนต่ำลงสอดรับกับนโยบายมัลติพาร์เวย์ (Multi Pathway)  ที่โตโยต้าเชื่อว่าไม่มีเส้นทางเดียวที่จะสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนจึงพัฒนายานยนต์ที่ใช้พลังงานหลากหลายรูปแบบทั้งเครื่องยนต์สันดาปประสิทธิภาพสูง,  ไฮบริด, ปลั๊ก-อินไฮบริด,  BEV , และยานยนต์พลังงานทางเลือกอื่นๆดังนั้นการมีรถยนต์รุ่นต่างๆที่มีแหล่งพลังงานแตกต่างกันนั้นจำเป็นต้องใช้ส่วนประกอบที่แตกต่างกันซึ่งการจัดการชิ้นส่วนอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโตโยต้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นจุดแข็ง ส่วนนโยบายนี้จะส่งผลต่อโรงงานในประเทศไทยด้วยหรือไม่  ในระยะยาวมีความเป็นไปได้สูงที่จะขยายการปรับสายการผลิตไปทั่วโลกเพื่อรองรับรถยนต์ที่มีความหลากหลายด้านพลังงานให้มีประสิทธิภาพทั้งการผลิตการขายร่วมถึงบริการหลังการขายด้วย 

จบไปอีก 2 สนาม (3 และ 4) สำหรับการแข่งขัน Toyota Gazoo Racing Thailand 2025  ที่จัดขึ้นในวันที่ 13-14 กันยายนที่ผ่านมาสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตจ.บุรีรัมย์  “โตโยต้าได้จัดกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตที่สนามช้างฯแห่งนี้ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปัจจุบันมาเป็นระยะเวลากว่า 11 ปีโดยปีนี้สนามบุรีรัมย์เป็นสนามที่ 3 และสนามที่ 4  ของการแข่งขันที่ท้าให้ร่วมพิสูจน์สมรรถนะความทนทานและสนุกสนานไปกับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ “One Make Race” หลากหลายรุ่นอาทิ “ยาริส” / “ยาริสเอทีฟ” / “โคโรลล่าอัลติสจีอาร์สปอร์ต” และ “ไฮลักซ์รีโว่” โดยมีรถเข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 58 คันที่พร้อมจะมาท้าทายขีดจำกัด รวมถึงความมุ่งมั่นสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนกับ Yaris Carbon Neutral Fuel ที่ร่วมแข่งขันในสนามนี้  นอกเหนือจากความตื่นเต้นบนสนามแข่งโตโยต้ายังมีอีกหนึ่งกิจกรรมพิเศษคือกิจกรรม Racing ...

คุณเคยสงสัยเหมือนผมมั้ยว่า รถใหม่ป้ายแดงบางรุ่นในประเทศไทย ทำไมขายกันน้านนาน โมเดลเดียวลากยาวกันกว่า 10 ปี ถึงจะมีการปรับปรุง แต่งหน้า ทาปาก หรือบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ก็ตาม แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในโมเดลเดิมอยู่ดี ที่สำคัญตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ว่า มันก็ขายดีขายได้เรื่อยๆ อีกต่างหาก ...

วันก่อนเห็นข่าวผู้บริหาร BYD ประกาศถอนตัวจากแผนทำตลาดรถปิกอัพ รุ่น Shark 6 ในไทย โดยอ้างเหตุผลว่า ไม่สามารถแข่งขันด้านราคา ทำยอดจองหลังเปิดตัวตั้งแต่ต้นปี 2568 ไม่เป็นไปตามเป้า และยังมีข้อจำกัดด้านการผลิตชิ้นส่วนในประเทศ   จริงๆ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะต้องยอมรับว่า "ตลาดรถปิกอัพเมืองไทยบ้านเราไม่หมู"  มีผู้ประกอบการหลายรายที่เห็นวอลลุ่มต่อปีมากกว่า 2 แสนคัน ตารุกวาวตัดสินใจกระโดดเข้ามาเสนอตัวเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ หวังได้แชร์สัก 1-2% ก็เพียงพอแล้ว แต่เอาเข้าจริงทำตลาดไปสักพักก็ต้องล่าถอยไปในที่สุด สาเหตุหลักที่ไม่มีใครกล้าปฎิเสธ คือ ทนแรงเสียดทานจากเจ้าตลาดอย่างโตโยต้า และอีซูซุไม่ไหว ตัวอย่างมีให้เห็นทั้งแบรนด์จีน อินเดีย ยุโรป และอเมริกัน โดยเฉพาะแบรนด์จีนหน้าใหม่ที่พยายามนำเสนอจุดขายใหม่เรื่องพลังงานทางเลือก โดยเอามอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวชูโรง ด้วยหวังว่า เทรนด์ EV ที่กำลังเป็นจุดเปลี่ยนรักษ์โลกจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้อย่างเพียงพอไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เกรทวอลล์มอเตอร์ ที่พยายามผลักดันรถกระบะไฮบริดรุ่นแรกในตลาดประเทศไทยในรุ่น Poer ใช้เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว  VGT Turbocharged ให้พละกำลัง 244 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้า 106 แรงม้า แรงบิด 268 นิวตันเมตร  โดยอาศัยความเชี่ยวชาญ มีประวัติอันยาวนาน กับการครองตำแหน่งผู้นำตลาดในประเทศจีนมากถึง 26 ปี  มีส่วนแบ่งตลาดในปัจจุบันเกือบ 50 % และมียอดขายสะสมมากถึง 2.54 ล้านคันทั่วโลก โดยยืนยันว่ารถกระบะ Poer จะไม่ใช่พาหนะสำหรับการใช้งานเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นรถเพื่อการพักผ่อน และท่องเที่ยวในคันเดียวกัน สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี  แต่ก็ดูจะกระท่อนกระแท่นกับยอดขายพอสมควร หรือจะเป็น Geely Riddara ประเทศไทย ที่ส่งกระบะไฟฟ้า ริดดารา ทำตลาดและกำลังจะส่งรถปิกอัพปลั๊ก-อิน ไฮบริด  RIDDARA EM-P (PHEV) มาเสริมทัพอีกรุ่น แม้จะต้องปรับเป้ายอดขายจากเดิม 10,000 คันต่อปีลงเหลือแค่  5,000 คัน ก็ตาม รวมไปถึง ...

TOYOTA GAZOO Racing Thailand ทีมแข่งรถที่ยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จอย่างสูงของวงการมอเตอร์สปอร์ต ภายใต้การสนับสนุนของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ลุยต่อศึกมาราธอนทางเรียบพิสูจน์ความแข็งแกร่งจ้าวแห่งมาราธอนทางเรียบครองโพเดียมทุกรุ่น ในรายการ RAAT Thailand Endurance Championship ...

ถือเป็นการเปิดเกมชิงความเป็นที่หนึ่งระหว่างค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ จาก 2 ประเทศ ค่ายหนึ่งเป็นผู้ท้าชิงจากแดนมังกร BYD และอีกค่ายหนึ่งเป็นแชมป์เก่าจากแดนอาทิตย์อุทัย TOYOTA  โดยเกมชิงความเป็นที่หนึ่งนี้ เริ่มเห็นตั้งแต่งานมอเตอร์โชว์ 2025 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่ง BYD ประกาศความเป็นแชมป์ด้วยยอดจองในงานสูงสุด 10,353 คัน เฉือนโตโยต้า แชมป์ตลอดกาล ...

NEW INNOVA ZENIX มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร ซึ่งทำงานคู่กับระบบส่งกำลังอัตโนมัติ E-CVT ให้กำลังแรงสูงสุด 186 แรงม้า มอบอัตราการใช้เชื้อเพลิงที่ 20.8 กม./ลิตร* (*อ้างอิงจาก ECO ...

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รุกต่อกระแสความแรงกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านมอเตอร์สปอร์ตจัดแสดงรถแข่ง Hilux REVO GR Sport 4x4 ตัวจริงจากสนาม Asia Cross Country Rally 2025 ที่เพิ่งคว้าโพเดียมเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ในงาน Bangkok Auto Salon ...

แม้ตลาดรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากปัญหา หนี้ครัวเรือนสูง ความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ และภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ประเทศไทยมียอดขายรถเพียงแค่  3 แสนกว่าคันคัน ลดลงเกือบ 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มตลาดรถยนต์นั่งลดลงนิดหน่อยแต่ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันลดลงมากถึง 12.7%  แต่โตโยต้า เบอร์หนึ่งของตลาดยังคงมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศก้าวไปข้างหน้าและเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงโตโยต้าเองจะยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดสูงสุดและครองอันดับหนึ่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ยอมรับว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ด้วยไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของโตโยต้า ทำให้เรายังคงรักษาผู้นำและมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดทั้ง 7 เซ็กเมนต์ โดยเฉพาะแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่โตโยต้ายังคงเชื่อมั่นในกลยุทธ์ Multi-Pathway" (มัลติ-พาทเวย์)  ภายใต้แนวคิดที่โตโยต้าใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์แห่งอนาคต โดยเน้นการใช้พลังงานและเทคโนโลยีที่หลากหลาย ไม่จำกัดอยู่เพียงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ไฟฟ้า (BEV) เพียงอย่างเดียว แต่จะครอบคลุมเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละตลาดและลูกค้าทั่วโลก เราได้เห็นการเติบโตของตลาด xEV และ SUV  ได้ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ BEV ในกลุ่มตลาด xEV เติบโตขึ้นด้วย หากแต่เมื่อพิจารณาด้านการใช้งานจริงแล้ว เรายังเชื่อมั่นว่ารถยนต์ HEV ยังคงมีบทบาทสำคัญ สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันกับตลาดโลก สำหรับกลุ่มตลาด SUV มีกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ หรือ D-SUV ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และรถ BEV ทำให้ยอดขายรถ SUV ในปัจจุบันมีสัดส่วนสูงสุดในประเทศไทย ดังนั้นวันนี้โตโยต้าจึงได้แนะนำรถยนต์ 2 รุ่น ที่จะมาช่วยเสริมไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของโตโยต้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ได้แก่ bZ4X ใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ D-Segment เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่กำลังมองหารถ SUV ขนาดใหญ่ ก่อนหน้านี้ในปี 2565 โตโยต้าได้แนะนำรถ BEV รุ่นแรกคือ bZ4X สู่ประเทศไทย ภายใต้มาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า EV3.0 ของรัฐบาลไทย แต่เนื่องจากขีดจำกัดด้านการจัดสรรจำนวนรถในเวลานั้น ทำให้เราขายเพียงแค่ 132 คัน  แต่สำหรับ bZ4X ใหม่จะนำเข้าจากญี่ปุ่นในรูปแบบ CBU และเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 ด้วยเป้าหมายยอดขายที่มากกว่าเดิม ถึง 6,000 คันในช่วงปีแรก  bZ4X ใหม่ถือเป็นการยกระดับผลิตภัณฑ์อีกขั้น ด้วยดีไซน์การออกแบบที่สะดุดตาและน่าดึงดูด ใช้เวลาในการชาร์จเร็วขึ้น และที่สำคัญ ในรุ่นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ยังสามารถทำระยะการขับขี่ได้ถึง 600 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ภายใต้มาตรฐาน NEDC ซึ่งไกลกว่ารถหลายรุ่นด้วยกัน พละกำลังสูงสุดได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และติดตั้งระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบมาตรฐานโตโยต้าในทุกรุ่นย่อย     อีกรุ่น คือ NEW YARIS ATIV ...