เล่นเอาตื่นเต้นไปตามๆ กันสำหรับงานประกาศแผนดำเนินธุรกิจของ Suzuki Motor (ประเทศไทย) วันนี้ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมาก เพียงแต่ที่ตื่นเต้นกันไปล่วงหน้าก็เพราะว่าเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งแถลงข่าวว่าจะปิดโรงงานประกอบในประเทศไทย แต่การปิดโรงงานก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเลิกกิจการ แต่มีการเปลี่ยนเวย์การทำธุรกิจ ไม่ผลิตรถในประเทศไทยแล้วเนื่องจาก ไม่คุ้มการลงทุน จึงหันไปใช้การนำเข้ามาจำหน่ายทั้งหมด และนอกจากนี้ยังได้ออกนโยบายส่งเสริมบริการหลังการขาย และอะไหล่ที่จะมีอะไหล่บริการ 10 ปี นับจากรถหยุดผลิต ในขณะที่สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของงานวันนี้ คือ Suzuki ออกมายืนยันแล้วว่าจะทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในประเทศไทยถึง 4 รุ่นในปี 2025 และที่สำคัญคือ รถรุ่นใหม่ที่จะมาจะเป็นรถยนต์ระบบไฮบริด และรถไฟฟ้า 100% โดยตามสไตล์ของ Carzanova มาลองเดาดูว่ารถ 4 รุ่นที่จะมาขายในประเทศไทยปีหน้าจะมีรุ่นไหนบ้าง ลองมาดูกันไหมครับว่าเราคิดหรือเดาเหมือนกันหรือไม่
ก่อนอื่น ในวันนี้เช่นเดียวกันที่ประเทศอินโดนีเซียมีงาน GAIKINDO Indonesia International Auto Show 2024 ซึ่งที่บูธ Suzuki ก็ได้เปิดตัวรถต้นแบบคันล่าสุด Suzuki eVX ซึ่งเป็น EV ของทางค่าย มีกำหนดออกขายในปีหน้า ซึ่งผมเดาว่าเป็นไปได้เหมือนกันนะที่เราจะได้เห็นเข้ามาเปิดตัวและขายในประเทศไทย ข้อมูลของตัวรถยังไม่มีอะไรมากมายนักเพราะยังมาในรูปของรถต้นแบบ แต่ก็แง้มๆ ออกมาแล้วว่ามีขนาดความยาวตัวรถ 4,300 มม. กว้าง 1,800 มม. สูง 1,600 มม. มีระยะฐานล้อ 2,700 มม. ดีไซน์ภายนอกเป็นทรงกล่องเหลี่ยมๆ แต่ดูล้ำยุค โดยเจ้า eVX ใช้แบตเตอรี่ขนาด 60 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จเต็มถึง 550 กม. และที่สำคัญจะมีรุ่นย่อยที่ใช้มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วย ภายในล้ำยุคล้ำสมัยตามสไตล์รถต้นแบบ แต่คันจริงที่จะออกขายจะเป็นอย่างไรนั้น รออีกไม่นานน่าจะได้เห็น ส่วนจะได้เห็นในประเทศไทยหรือไม่ หรือเมื่อไหร่ มาลุ้นกันครับ
ถึงเวลาของการเดากันดีกว่าครับว่ารุ่นไหนที่เราจะได้เห็นในประเทศไทยปีหน้าบ้าง คันแรกผมเดาเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนเลย ไหนๆ ก็จะไม่ใช่รถที่ประกอบในประเทศไทยแล้ว เอารุ่นที่หลายคนชอบและอยากได้กันเลย แต่ขอเพิ่มประตูมาอีกคู่จะได้ไปกันได้หลายคนหน่อย มันคือ Suzuki Jimny รุ่น 5 ประตู แน่นอนว่าที่ผ่านมาที่ Suzuki ประเทศไทยได้นำเข้า Jimny รุ่น 3 ประตู มีลูกค้าคนไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และแม้ว่าราคาค่าตัวจะแพงหูดับตับไหม้สำหรับรถไซส์นี้ แต่เอาเข้ามาเท่าไหร่ก็หมด เปิดจองแป๊บเดียวเกลี้ยง แต่ครั้งนี้หากเป็น Jimny 5 ประตูที่นำเข้ามาจากประเทศใกล้บ้านเราที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น เงื่อนไขการนำเข้าและภาษีแน่นอนว่าต้องถูกกว่า จึงเป็นไปได้ที่ค่าตัวของรุ่น 5 ประตูจะลดลงจาก 3 ประตูพอสมควร คราวนี้ล่ะครับ Jimny มันจะไม่ใช่แค่ของเล่นคนรวยอีกต่อไป แต่หากเป็นยานพาหนะสุดเก๋ไก๋ที่ผมเชื่อว่าครองใจคนทุกเพศทุกวัยได้แน่นอนรวมถึงผมเองด้วย รูปร่างหน้าตาคงไม่ต้องมาสาธยายอะไรกันมากเพราะคุ้นเคยดีอยู่แล้ว เพียงแต่ภายในห้องโดยสารมีเนื้อที่มากขึ้น เครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน เบนซิน 1.5 ลิตรปรับจูนเพิ่มแรงบิดเพื่อให้กระฉับกระเฉง มีพละกำลัง 102 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 134 นิวตันเมตร มีทั้งเกียร์แมนวล 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด ซึ่งผมเดาว่าถ้า Suzuki ประเทศไทย นำเข้ามาน่าจะมีแต่รุ่นเกียร์อัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อนแน่นอนว่า 4 ล้อ แบบ Part Time เลือกได้ทั้ง 2H , 4H และ 4L
คันต่อไปผมเดาว่า Suzuki จะยังคงทำตลาดรถแฮทช์แบคที่รถของค่ายเองก็ทำยอดขายได้ดีมาตลอดอย่าง All New Suzuki Swift โดยรุ่นล่าสุดถือเป็นเจเอเรชั่นที่ 4 แล้ว มีรูปร่างหน้าตาที่ยังคงน่ารัก สปอร์ต แต่เพิ่มเติมความทันสมัย โดยเครื่องยนต์มีให้ถึง 2 ทางเลือกคือ เบนซิน 1.2 ลิตร และเบนซิน 1.2 ลิตร Mild-Hybrid ซึ่งผมเดาว่าทาง Suzuki ประเทศไทยพูดถึงไฮบริดบ่อยขนาดนี้ ถ้า Swift ใหม่มาจริง เรามีสิทธิ์ได้เห็นเวอร์ชั่นไฮบริด ส่วนออปชั่นจะเป็นอย่างไรเมื่อเป็นรถนำเข้า อันนี้ต้องติดตามชมครับ
คันนี้เหมือนผมย้อนรำลึกกลับไปวัยเด็กกับ Suzuki Vitara เพราะครั้งแรกที่ Suzuki ประเทศไทยเอา Vitara เข้ามาขาย บ้านผมก็ซื้อไว้ แล้วก็เป็นรถที่ผมใช้หัดขับ จนถึงวันนี้ก็ยังคิดถึงมันอยู่บ่อยๆ เพราะมันเป็นรถที่ดีมาก แต่สำหรับ Vitara โมเดลล่าสุด มันพลิกบุคลิกไปจากรุ่นเก่าพอสมควรเลยครับ แม้จะยังคงเป็นรถ 5 ประตูยกสูง แต่ผมก็ไม่ถึงขนาดกล้าเรียกมันว่า SUV มันไปในลักษณะของ Crossover เสียมากกว่า ซึ่งรถไซส์นี้แหละที่กำลังเป็นที่นิยิมของลูกค้าคนไทย ซึ่งขุมพลังของ Vitara รุ่นล่าสุดนี้ในตลาดโลกมีให้เลือกหลายแบบ เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.4 ลิตร BOOSTERJET เทอร์โบ ตามมาด้วยขุมพลังเบนซิน 1.4 ลิตร Mild-Hybrid ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 48V มาช่วยเพิ่มอัตราเร่งเวลาออกตัวหรือเร่งแซง นอกจากนี้ยังมีที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรธรรมดาด้วย แต่ที่น่าสนใจสำหรับผมก็คือ Vitara รุ่นล่าสุดนี้มีขุมพลังที่เป็นไฮบริดจริงๆ ที่สามารถวิ่งได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวในโหมด EV ได้ โดยขุมพลังตัวนี้เป็นการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DUALJET กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้อัตราเร่งที่รวดเร็วและยังประหยัดด้วย โดยทุกขุมพลังจะมาพร้อมโหมดการขับขี่ ALLGRIP Select มีทั้ง Auto mode , Sport mode , Snow mode และ Lock mode ซึ่งถ้า Vitara ใหม่จะมาประเทศไทยทั้งที ก็เป็นตัว 1.5 ลิตรไฮบริดไปเลยครับ
คันสุดท้ายที่ผมเดาเพราะรถทรงนี้ไซส์นี้น่าจะขายดีในประเทศไทย มันคือ Suzuki S-Cross เป็นอีกหนึ่งคันที่มาในลักษณะของ SUV กึ่ง Crossover ที่มีขนาดกำลังดีไม่ใหญ่โตเทอะทะจนเกินไป และดูเรียบร้อยหรูหรากว่า Vitara ขึ้นมาอีกขั้น แล้วก็เป็นรุ่นที่มีขุมพลังทั้งเบนซิน 1.4 ลิตร BOOSTERJET Mild Hybrid และ เบนซิน 1.5 ลิตร DUALJET Hybrid พูดง่ายๆ ก็คือใช้ขุมพลังเดียวกันกับ Vitara นั่นแหละครับ ซึ่งก็มี โหมดการขับขี่ ALLGRIP Select มาให้ด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 4 รุ่นของ Suzuki ที่ผมเดาว่าน่าจะเป็นรุ่นที่ผู้บริหาร Suzuki ประเทศไทยได้เกริ่นๆ ไว้ รวมถึงรถ EV อย่าง Suzuki eVX ที่ใครจะรู้ว่าอาจจะเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาเป็นคู่แข่งสำคัญของรถ EV จากประเทศจีนเลยก็ได้ ส่วนเรื่องสเป็ค อ๊อพชั่น และราคา เราคงต้องรอดูกันในอีกไม่นานนี้ แต่ผมเชื่อว่าแม้ Suzuki ที่จะมาขายในประเทศไทยต่อไปนี้จะเป็นรถนำเข้า 100% แล้ว แต่อ๊อพชั่น ทางเลือก และราคา จะยังคงถูกใจลูกค้าคนไทยไม่แพ้ที่ผ่านๆ มาแน่นอน
Photo credit: https://worldautoforum.com/global-premiere-of-concept-electric-suv-evx/