งานมอเตอร์โชว์ที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และ ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี กำลังจะเป็นเวทีเดือดปะทะกันเต็มที่ระหว่างค่ายรถญี่ปุ่นและค่ายรถจีน เพื่อเรียกคืนกำลังซื้อหลังจากปีที่ผ่านมาต่างได้รับผลกระทบกันสบักสะบอม

Carzanova พาชมรถใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในงานนี้ เริ่มจากยักษ์ใหญ่ฝั่งจีน BYD งานนี้จะมีของใหม่ทั้ง เอสยูวี และปิกอัพ
BYD ATTO 2

เริ่มกันที่เอสยูวีไซซ์กลางทรงสปอร์ต ที่ใช้ e-Platform 3.0 ซึ่งมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากขึ้น มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 176 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 290 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 7.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.วิ่งได้ไกล 312 กม. แบตเตอรี่แบบ Blade ขนาดความจุ 45 kWh รองรับการชาร์จแบบ DC จาก 30 – 80% ใช้เวลา 28 นาที คาดน่าจะเปิดตัวด้วย 2 รุ่นย่อย
BYD SHARK

เตรียมเปิดราคาปิกอัพปลั๊ก-อิน ไฮบริด สไตล์ดับเบิลแค็ป บึกบึนขุมพลังเป็นเบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร มาพร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 436 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 5.7 วินาที เฉพาะโหมด EV สามารถวิ่งได้ถึง 100 กิโลเมตร ชาร์จเร็ว 30-80% ใช้เวลาเพียง 20 นาที ซึ่งก่อนหน้านี้ได้พาสื่อมวลชนไปทดสอบรถแล้วที่สนามพีระฯ จังหวัดชลบุรี
AION UT

EV จากค่าย GAC รถยนต์ไฟฟ้าแฮตช์แบ็กแนวน่ารัก คู่แข่ง BYD Dolphin คาดเปิดราคาเริ่มต้นประมาณ 5 แสนกว่าบาท ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังถึง 134 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม. แบตเตอรี่ 44 kWh วิ่งไกล 400 กม. ชาร์จเร็ว 30-80% ใช้เวลา 24 นาที
TANK 300 DIESEL

ค่ายเกรทวอลล์ วางเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุดในบอดี้ TANK 300 เพื่ออุดช่องว่างระหว่างเรื่องความประหยัด โดยมากับพละกำลัง 181 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0 -100 กม./ชม. เพียง 11 วินาที แถมให้การรับประกันเครื่องยนต์ 1 ล้านกม.
NEW GWM HAVAL H6

เปิดตัววางขายในจีนไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา GWM ก็นำ New Haval H 6 ตัวไมเนอร์เชนจ์ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ มาจำหน่ายที่ไทย โดยยังคงมีให้เลือก 2 รุ่น ทั้งไฮบริด และปลั๊กอิน-ไฮบริด ซึ่งสเปคก็คงเหมือนกับที่ขายในเมืองจีน โดยขุมพลัง Hybrid จะมากับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 177 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังรวมที่ 243 แรงม้า 530 นิวตันเมตร ส่งกำลังทั้งหมดไปยังคู่ล้อหน้าด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch

ส่วนรุ่น PHEV จะเป็นการทำงานประสานกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แบตเตอรี่ความจุ 34 kWh ชาร์จ 0% – 80% ใช้เวลา 35 นาที สนใจอ่านสเปครถแบบเต็มๆ อ่านได้ที่ ALL NEW GWM HAVAL H6 อัปเกรดรอบด้าน วิ่งไฟฟ้าไกลสุดในคลาส เปิดราคา Motor Show 2025 – CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
ORA GOOD CAT

เจ้าแมวเหมียวไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เพียงแค่มีสีใหม่ เป็นสีฟ้า และสีดำ สุดพิเศษ ที่มาเปิดตัวในงานเท่านั้นเอง
MG S5 EV

รถ B-SUV ที่มากับสโลแกน “ขับสนุก วิ่งไกล ชาร์จไว นั่งสบาย มี Life Time Warranty” โดยมากับแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC ที่มีความแข็งแกร่ง ให้พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง โดยมีให้เลือก 2 รุ่น Normal Range และรุ่น Long Range ที่นอกจากจะให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าเป็น 64 kWh และเครมว่าวิ่งได้ไกลสุดในคลาสรถยนต์ไฟฟ้า B-SUV 550 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC แล้ว ยังให้พละกำลังมอเตอร์ที่แรงกว่าเป็น 245 แรงม้า และแรงบิด 350 นิวตัน-เมตร อีกด้วย

MG IM6

เตรียมเปิดราคารถเอสยูวีไฟฟ้าระดับพรีเมียม มีให้เลือก 2 รุ่น ขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมากับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 295 แรงม้า แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 75 kWh ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชั่วโมง 5.9 วินาที Top Speed 200 กม./ชม.ร วิ่งได้ไกล 550 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังแรงถึง 787 แรงม้า แบตเตอรี่ขยับเป็น 100 kWh วื่งได้ไกล 634 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ
DEEPAL S05

มาที่ค่ายฉางอาน กับน้องเล็กเอสยูวี ที่มีให้เลือก 2 ขุมพลัง ทั้งแบบไฟฟ้า 100% โดยมากับมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลังที่ให้กำลังสูงสุด 238 แรงม้า แบตเตอรี่ความจุ 56 kWh ให้อัตราเร่ง 0-100 กม. /ชม. ภายในเวลา 7.3 วินาที ทำ Top Speed 180 กม./ชม. วิ่งไกล 480 กม. ต่อการชาร์จ และสามารถชาร์จ 30-80% ใช้เวลาเพียง 15 นาที
กับรุ่น REEV (Range-Extended Electric Vehicle) เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,497 ซีซี. พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้า ถังน้ำมัน ขนาดความจุ 45 ลิตร ใช้สำหรับปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP) จาก CATL ขนาดความจุ 27 kWh พร้อมระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน ให้พละกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.9 วินาที Top Speed 175 km/h วิ่งไฟฟ้าล้วนระยะทาง 170 km. (มาตรฐาน NEDC) และระยะทางวิ่ง น้ำมัน + ไฟฟ้า รวม 1,180 km. (มาตรฐาน NEDC)
JAECOO 7 SHS

มาที่จากค่ายเชอรี่ กับเอสยูวีสไตล์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ซึ่งรถคันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็น Super HEV + EV หมายความว่ามันจะเหนือกว่ารถไฮบริดทั่วไป โดยเฉพาะการเข้าไปใกล้ EV มากกว่า หรือพูดง่ายๆ คือออกแบบมาให้ใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลักโดยที่เครื่องยนต์จะทำงานน้อยมาก ประกอบไปด้วยจุดเด่นหลักคือ เป็นรถที่มีพละกำลังสูง ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองตามสเปคโรงงานอยู่ที่ประมาณ 21.28 กม./ลิตร สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลต่อน้ำมันหนึ่งถังถึง 1,300 กม. และสามารถวิ่งในโหมด EV หรือไฟฟ้าล้วนในระยะทางที่ไกลถึง 106 กม.ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 347 แรงม้า

สำหรับบทความรีวิวว่ารถรุ่นนี้เป็นอย่างไร?? สามารถอ่านได้ที่ รีวิว!! Jaecoo 7 SHS สัมผัสแรกกับ Super Hybrid System ใน PHEV – CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
ZEEKR 7X

ต่อกันที่ค่าย GEELY กับเอสยูวีไซซ์กลางที่เปิดขายในจีนไปเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา สำหรับการออกแบบใช้แพลตฟอร์ม Sustainable Experience Architecture หรือ SEA จาก Geely มีขนาดตัวรถยาว 4,825 มม. กว้าง 1,930 มม. และมีความสูง 1,666 มม. ส่วนระยะฐานล้อของรถมีความยาว 2,925 มม. พร้อมกันนี้ยังใช้เทคโนโลยี 800 V ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ ความจุ 75 kWh ได้ไว ขณะที่พละกำลังสูงสุดทำได้ถึง 422 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที วิ่งไกล 565 กม.
แง้มรถใหม่ฝั่งจีนกันไปแล้ว ข้ามมาฟากค่ายรถญี่ปุ่นกันบ้าง งานนี้งัดทีเด็ดมาสู้ด้วยตระกูลไฮบริด เริ่มจาก
TOYOTA YARIS Ativ HYBRID

รอกันมานานสำหรับขุมพลังไฮบริดใหม่ ที่จะถูกจับมาใส่ไว้ในเจ้า Yaris Ativ โดยใช้คงใช้เครื่องยนต์พื้นฐานเป็นเบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร 91 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 80 แรงม้า ซึ่งเมื่อทำงานรวมกันจะให้พละกำลังสูงสุด 111 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ที่ล้อหน้า โดยจะมีการปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มใหม่มาใช้ DNGA ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด DN F-Sedan ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Yaris Cross Hybrid และที่ขาดไม่ได้กับระบบ Toyota Safety Sense ที่ใส่มาแบบเต็มพิกัน เพื่อปะทะรถจีนโดยเฉพาะ
SUZUKI FRONX
Suzuki ซึ่งปีที่ผ่านมาไม่ได้เปิดตัวรถยนต์โมเดลใหม่ในประเทศไทยมาระยะหนึ่ง จะมีเปิดตัวรุ่นใหม่ก็จะเป็นการเอารถโมเดลเดิมมาเพิ่มออปชั่น หรือใส่ขุมพลังในรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ทั้ง 2 รุ่นของค่ายอย่าง Ertiga และ XL7 ไปเป็น ไฮบริด MHEV หรือที่เรียกกันว่า Mild Hybrid นั่นเอง

แต่ครั้งนี้ถึงเวลาแล้วที่จะเผยโฉมตัวละครตัวใหม่ออกมาเสียที และที่สำคัญไม่ได้ประกอบในโรงงานประเทศไทยแล้ว เพราะ Suzuki เตรียมปิดโรงงานช่วงปลายปี ซึ่งรถที่จะนำเข้ามาจำหน่ายจะเป็นรถสไตล์ Crossover ที่มากับขุมพลังเบนซินขนาด 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid ที่มีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator (ISG) เป็นลักษณะมอเตอร์ไฟฟ้าไปหมุนสายพานที่เชื่อมต่อกับเครื่องยนต์ และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนขนาด 12V
NEW NISSSAN KICKS

กำลังเป็นที่ถกเถียงว่า New Nissan Kicks 2025 ที่จะมาเปิดตัวในมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ จะเป็นตัว All New หรือจะเป็นแค่ตัวไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งถ้าให้ทางทีมงานเราคาดเดาก็น่าจะเป็นแค่ตัวไมเนอร์เชนจ์ ที่ยังคงมากับขุมพลัง e-POWER ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ที่ได้รับการพัฒนาให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนขนาด 2.06 kWh ประหยัดให้ประสิทธิภาพมากขึ้น
NEW NISSAN SERENA (C28)

แต่สำหรับคันนี้แน่นอน 100% กับ Nissan Serena e-POWER C28 เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ซึ่งติดตั้งขุมพลัง e-POWER 2nd Generation ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.4 ลิตร เป็นตัวปั่นไฟ เพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 163 แรงม้า
MITSUBISHI Xforce

ปิดท้ายฝั่งญี่ปุ่นด้วยค่าย Mitsubishi ที่จะเปิดตัว Xforce รถยนต์ในกลุ่ม B-SUV ที่จะมากับเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 1.6 ลิตร คาดราคาค่าตัวน่าจะเริ่มต้นที่ 7 แสนกว่าบาทขึ้นไป
มาทางฝั่งยุโรปกันบ้าง ไล่เรียงกันไปกับค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่จะเปิดตัวกลุ่มรถ Performance ไล่เรียงไปตั้งแต่
MERCEDES-AMG G 63 (Facelift)

G 63 ตัวโหดปรับโฉมครั้งนี้มีการเปลี่ยนกระจังหน้าเป็นแบบ AMG Specific Front Bumper เพิ่มระบบกุญแจ KEYLESS-GO เปลี่ยนพวงมาลัยเป็น AMG Specific Steering Wheel ดีไซน์ใหม่ อัพเกรดระบบปฏิบัติการ MBUX เป็นเวอร์ชั่น 7 เพิ่มระบบ Online Music Steaming เพิ่มระบบปรับสมดุลอากาศ Air Balance Cabin-air ปรับปรุงเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.0L Bi-Turbo MHEV ใหม่ เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้า ISG (MHEV 48V) กำลังเพิ่มขึ้น 20 แรงม้า แรงบิดเพิ่มขึ้น 200 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 km/h เร็วขึ้น 0.1 วินาที กับราคาเริ่มต้น 18,800,000 บาท
THE ALL-NEW MERCEDES-AMG GT 63

Mercedes-AMG GT Coupé รุ่นใหม่ถ่ายทอดความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นในการขับขี่รถสปอร์ตตั้งแต่พวงมาลัย AMG Performance ไปจนถึงแนวคิดการสั่งงานและการแสดงผลแบบดิจิทัลพร้อมเนื้อหาแบบเฉพาะของ AMG ไปจนถึงที่นั่ง AMG Performance พร้อมเบาะหนัง Nappa ชั้นดี ส่วนขุมพลังมากับเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ระบบขับเคลื่อน 4MATIC+ 585 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.2 วินาที ส่วนค่าตัวเริ่มต้นที่ 15.9 ล้านบาท
MERCEDES-AMG SL 55 4 MATIC+

โรดสเตอร์สมรรถนะสูงของค่ายดาวสามแฉก ที่มากับเครื่องยนต์รหัส M177 เบนซิน V8 สูบ ขนาด 4.0 ลิตร 3,982 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ Bi-Turbocharged กำลังสูงสุด 476 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT MCT 9G ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC+ ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ใน 3.9 วินาที กับค่าตัวเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท
ALL NEW AUDI A5

A5 เปิดตัวมาคราวนี้ทีเดียว 4 รุ่น เริ่มตั้งแต่ Sportback TFSI e quattro Tech Plus ราคา 3,299,000 บาท, Avant TFSI e quattro Tech Plus ราคา 3,499,000 บาท, Sportback TFSI e quattro Tech Pro ราคา 3,899,000 บาท และ Avant TFSI e quattro Tech Pro ราคา 3,999,000 บาท โดยมาพร้อมขุมพลังเบนซิน 4 สูบ Direct Injection เทอร์โบชาร์จพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเป็น Plug-in Hybrid เจเนอเรชั่นล่าสุดวิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุดได้ถึง 86 กิโลเมตร (WLTP) ต่อ 1 การชาร์จ วิ่งได้ไกลสุดในตระกูล PHEV ของอาวดี้ พร้อมพละกำลังสูงถึง 367 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ให้สมรรถนะเทียบเท่ากับรถในตระกูล S-model ท็อปสปีด 250 กม./ชม. พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ทุกรุ่น และช่วงล่างแบบ S Sport

NEW BMW M5 TOURING

ระบบขับเคลื่อน M HYBRID ใน M5 Touring ใหม่ ผสานเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตรเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมด้วยชุดเกียร์ 8 สปีด M Steptronic โดยตัวเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียวให้กำลังสูงสุด 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,400 รอบต่อนาที ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้า เทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ให้กำลังเพิ่มอีก 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร โดยรวมแล้ว ระบบ M HYBRID ในบีเอ็มดับเบิลยู M5 Touring ใหม่ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 535 กิโลวัตต์ / 727 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่น่าทึ่งถึง 1,000 นิวตันเมตร
ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกอัปเกรดประสบการณ์ไปอีกขั้นด้วยระบบเบรกเซรามิก M Carbon ceramic ที่ช่วยลดระยะเบรก ส่วนรายละเอียดรถเพิ่มเติมอ่านได้ที่ New BMW M5 Touring เตรียมประกาศราคาเร็ว ๆ นี้ – CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
THE NEW VOLVO XC90 PHEV
รถพรีเมียม SUV 7 ที่นั่ง ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่บุกเบิกยุคใหม่ของความปลอดภัย วิ่งไกล 745 กม. ระยะเวลาการชาร์จเร็วแบบ DC โดยประมาณ (10-80%) แค่ 30 นาที แบตเตอรี่ 380 กิโลวัตต์ 517 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.9 วินาที

ปิดท้ายด้วยฝั่งเกาหลี ที่มีเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดเช่นเดียวกันอย่าง
ALL-NEW HYUNDAI PALISADE

Palisade เจนฯ 2 ขุมพลังเบนซิน ไฮบริด เทอร์โบ 2.5 ที่เติมน้ำมันถังเดียววิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กม. โดยมีเลือกได้ทั้งรุ่น 7 ที่นั่ง และ 9 ที่นั่ง คาดว่าจะมาโชว์ตัวที่งานมอเตอร์ โชว์ 2025 ที่กำลังจะถึงนี้ แต่จะเปิดจำหน่ายเลยหรือไม่ หรือแค่เอามาโชว์ตัว อันนี้ต้องรอลุ้นกันต่อไป ส่วนรายละเอียดรถแบบเต็มๆ อ่านได้ที่ Hyundai Palisade Hybrid เตรียมโชว์ตัวงานมอเตอร์โชว์ – CARZANOVA เว็บซ่าส์เรื่องยานยนต์
