ไม่ต้องอารัมภบทกันมาก เอาเป็นว่าผมเพิ่งไปขับ SUV คันล่าสุดจากค่าย Omoda & Jaecoo มากับเจ้า Jaecoo 7 SHS ซึ่งอักษรย่อ SHS เขาย่อมาจาก Super Hybrid System แน่นอนว่ารถคันนี้ไม่ใช่ EV แต่เป็น PHEV หรือรถยนต์ไฮบริดแบบเสียบปลั๊กนั่นเอง ซึ่งหลังจากที่ขับมาแบบพอหอมปากหอมคอแล้ว มีทั้งสิ่งที่ผมประทับใจแต่ก็ยังขัดใจกับบางอย่าง จะเป็นอย่างไรไปชมเลยครับ

การทดลองขับครั้งนี้ทำในสนามทดสอบแบบปิด และเป็นการทดลองสมรรถนะของรถโดยบางฟังก์ชั่นอาจยังไม่ได้ทดลองใช้ ดังนั้นผมจะมาบอกถึงฟิลลิ่งการขับและรายละเอียดของตัวรถเป็นหลัก และเพื่อให้ได้อรรถรสลองนึกภาพตามไปได้เลยครับ ก่อนอื่นต้องบอกว่าก่อนงานนี้ผมอาจไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากกับรถรุ่นใหม่คันนี้ เพราะโดยพื้นฐานก็เป็นรถ SUV ไฮบริด PHEV อีกคันที่จะออกมาแชร์ตลาดกับรถจากแผ่นดินแม่เดียวกัน ซึ่งในตลาด SUV ที่เป็น PHEV นั้นทางฝั่งญี่ปุ่นเขาไม่มาเล่นด้วยอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สะกิดใจขึ้นมาอย่างหนึ่งคือ อักษรย่อ SHS ที่ทางค่ายบอกว่ามันเป็น Super Hybrid System นี่แหละ มันจะต่างจากรถจีน PHEV คันอื่นได้สักเท่าไหร่

ซึ่งจากการได้รับฟังบรีฟจากผู้บริหารของทางค่ายก่อนลงไปขับ ก็ได้ข้อมูลว่า รถคันนี้หรือระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็น Super HEV + EV หมายความว่ามันจะเหนือกว่ารถไฮบริดทั่วไป โดยเฉพาะการเข้าไปใกล้ EV มากกว่า หรือพูดง่ายๆ คือออกแบบมาให้ใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลักโดยที่เครื่องยนต์จะทำงานน้อยมาก ประกอบไปด้วยจุดเด่นหลักคือ เป็นรถที่มีพละกำลังสูง ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองตามสเปคโรงงานอยู่ที่ประมาณ 21.28 กม./ลิตร สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลต่อน้ำมันหนึ่งถังถึง 1,300 กม. และสามารถวิ่งในโหมด EV หรือไฟฟ้าล้วนในระยะทางที่ไกลถึง 106 กม.


ตรงนี้เป็นสิ่งบอกเล่าจากทาง Jaecoo แต่ในเรื่องของระยะทางการวิ่งต่อน้ำมันหนึ่งถังก็ไม่ได้เกินจริง เพราะเขาไปพิสูจน์กันมาแล้วที่ประเทศจีนโดยผู้สื่อข่าวจากหลายๆประเทศ โดยคันที่ทำระยะทางได้ไกลสุดอยู่ที่ 1,353 กม. แต่รูปแบบการขับเป็นอย่างไรอันนี้ผมไม่รู้นะครับ คราวนี้มาดูสเปคของขุมพลังเจ้า Jaecoo 7 SHS คันนี้กันก่อน ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (ขับเคลื่อน 1 ตัว ส่วนอีกตัวทำหน้าที่เป็นตัวสร้างกระแสไฟฟ้า) จ่ายกำลังไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 18.3 kWh

โดยพละกำลังรวมของเครื่องยนต์เทอร์โบและมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ที่ 347 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 525 นิวตันเมตร ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถ้าถามผม มันก็แรงเอาเรื่องเลยล่ะครับสำหรับ SUV หน้าตาทื่อๆ คันนี้ มอเตอร์ขับเคลื่อนติดตั้งด้านหน้านั่นหมายถึงรถคันนี้ขับเคลื่อนล้อหน้า โหมดการขับมีให้เลือก ECO / Normal / Sport ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแมคเฟอร์สันตรัท ด้านหลังเป็นมัลติลิงค์ ก็สมเหตุสมผลดี และยังไงก็ดีกว่าการใช้ช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมหรือคานแข็งแน่ๆ อยู่แล้ว ล้อให้ขนาด 19 นิ้ว มากับยางขนาด 235/50 R19 ด้วยระบบช่วงล่างกับล้อ-ยางไซส์นี้ จะนุ่มนวล นุ่มหนึบ หรือกระแทกกระทั้น เดี๋ยวรู้

Jaecoo 7 SHS เป็น SUV ขนาดกลางๆ ที่ภายนอกมีรูปร่างหน้าตาธรรมดาๆ ไม่หวือหวาอะไร แต่ก็อาจถูกใจคนที่ไม่ชอบรถรูปทรงล้ำยุคอะไรมากนัก มองไปแล้วจะว่าคล้ายรถจีนอีกค่ายก็ใช่ แต่จะว่าก็คล้ายรถยุโรปอยุ่ยี่ห้อหนึ่งเหมือนกัน นานาจิตตัง เปิดเข้ามาภายในห้องโดยสารก็เป็นไปอย่างที่คาด คือความกว้างขวาง ปุ่มสวิตช์ไม่ต้องมีอะไรมาก เน้นการควบคุมผ่านหน้าจอกลางขนาดใหญ่ตามมาตรฐานรถสมัยนี้ แต่การปรับบางอย่างกว่าจะหาเจอก็กดมั่วๆ อยู่พักใหญ่ เช่นการปรับกระจกมองข้างที่ซ่อนอยู่ในหน้าจอกลางนั่นแหละครับ ที่เหลือก็นับว่าเป็นรถที่ภายในห้องโดยสารเป็นลักษณะ User Friendly ใช้งานง่ายแบบไม่ต้องเปิดคู่มือ แต่ถ้าซื้อคันนี้ไปแล้ว นั่งเล่นจอเล่นระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอกลางให้คล่องสักหน่อยก่อนออกไปขับก็จะดีครับ

สไตล์การทดลองขับของผมทุกครั้งและทุกคันจะเริ่มจากโหมดใช้งานทั่วไปก่อน อย่างโหมดการขับก็เข้า Normal คือเอาให้เหมือนการใช้งานจริงทั่วไปเพื่อดูการตอบสนองและการทำงานของรถในลักษณะการขับใช้งานบนถนน สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ หลังจากเข้ามานั่งในรถแล้วปิดประตู การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารทำได้ดีเลยทีเดียว ปริมาณไฟฟ้าในแบตฯ ก่อนทดลองขับอยู่ที่ประมาณ 86% เข้าเกียร์ D ออกตัวตามปกติ ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ รถเคลื่อนตัวออกไปอย่างสมูธ ใช้คันเร่งประมาณ 30% จึงใช้การออกตัวด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วไปเรื่อยๆ ก็ได้แรงดึงอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ยังรู้สึกว่าน่าจะยังเป็นการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวอยู่ แต่พอเหลือบไปดูที่หน้าจอกลางซึ่งผมตั้งไว้ให้แสดงการทำงานของระบบไฮบริด

อ้าว! เครื่องยนต์เข้ามาร่วมด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ คือมันเรียบเนียนมาก ไม่รู้สึกเลยว่าเครื่องยนต์ติดขึ้นมาเพื่อช่วยเพิ่มกำลังแล้ว อันนี้เป็นเรื่องที่ประหลาดใจและประทับใจไปพร้อมๆ กัน ซึ่งมันก็ตรงกับหนึ่งในสิ่งที่ผมรับบรีฟมาในแง่จุดเด่นของ Super Hybrid System ของเขานี่แหละครับ แต่นอกจากการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ที่เรียบเนียนแล้ว ผมว่าระบบส่งกำลังก็มีส่วนช่วยด้วย เพราะต่อกำลังได้ราบรื่นดีจริงๆ

พูดง่ายๆ ว่าถ้าตอนนี้คุณเป็นคนที่ใช้รถยนต์ไฮบริดที่รู้สึกได้ทุกครั้งเมื่อเครื่องยนต์เริ่มทำงาน รวมถึงเสียงเร่งของเครื่องยนต์ที่อาจดังเข้ามาให้ห้องโดยสารบ้างเวลาเรียกอัตราเร่งสูงๆ แต่สำหรับ Jaecoo 7 คันนี้ผมสัมผัสได้แต่อัตราเร่งที่ต่อเนื่องโดยไม่มีเสียงอะไร หรือแม้แต่อาการกระตุกกระชากก็ไม่มี มันคืออารมณ์เดียวกับรถไฟฟ้า EV เลยครับ และถ้าถามผมสำหรับการขับใช้งานทั่วไป หรือแม้กระทั่งการขับทางไกลที่มีการใช้อัตราเร่งเพื่อเร่งแซงบ่อยๆ ในโหมด Normal ถือว่าเพียงพอ และในกรณีที่ไม่ได้ใช้อัตราเร่งเยอะ และใช้ความเร็วระดับปานกลางก็กดปุ่ม EV เพื่อให้วิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวก็ทำได้สบาย ช่วยประหยัดน้ำมันไปได้อีกเยอะเลย

เรื่องการออกตัว และอัตราเร่ง บอกได้สั้นๆว่าประทับใจ ซึ่งการทดลองสมรรถนะการออกตัว และการเร่ง ก็ได้ลองในโหมด Sport ด้วยเช่นกัน ความแตกต่างของการออกตัวระหว่างโหมด Normal กับ Sport ผมว่ามันไม่ต่างกันมาก จะไปต่างกันก็คือ การขับอยู่ในความเร็วปานกลางประมาณ 60 กม./ชม. แล้วคิกดาวน์เพื่อทำการเร่งขึ้นไปถึงประมาณ 120 กม./ชม. ในโหมด Sport จะได้รับการตอบสนองที่เร็วกว่า แต่ก็ต่างกันไม่มาก ไม่ถึงขนาดว่าดึงหลังติดเบาะหน้าเหวอ คันนี้ไม่มีฟิลลิ่งนั้นครับ

แต่จะมีฟังก์ชั่นที่ปรับผ่านหน้าจอกลางได้ที่ผมชอบคือ อันแรกเป็น Steering force mode associated with driving mode (ผมว่าเขาเขียนยาวไปหน่อยสำหรับการอยู่ในหน้าจอเช่นนี้) หรือแปลง่ายๆ ว่า การปรับน้ำหนักพวงมาลัยตามโหมดการขับ กับอีกอันคือ Braking feel linked to driving mode (ยาวอีกเหมือนกัน) คือการปรับน้ำหนักเบรกให้แมทช์กับโหมดการขับที่เลือก ซึ่งมันก็เห็นผลชัดดีครับ คือ พอเข้าโหมด Sport พวงมาลัยจะตึงขึ้น ส่วนเบรกก็กระชับขึ้น ทำให้การขับ SUV คันนี้แบบผิดธรรมชาติในสนามทดสอบสนุกขึ้น โดยตัวรถก็ตอบสนองได้ดี มาถึงการทำงานและตอบสนองของระบบช่วงล่าง

การขับแบบทั่วไปผมว่าคันนี้เซ็ตระบบช่วงล่างมาดี แต่คำว่าดีของผมคือ มันจะหนึบๆ โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งสัมผัสในตำแหน่งคนขับคือรถไม่โยนตัวมากทำให้ควบคุมง่าย แต่ผมมั่นใจว่าสำหรับบางคนอาจจะรู้สึกว่ามันน่าจะกระด้าง อันนี้ต้องลองเอง ทั้งหมดนี้ก็คือ First impression ของผมในการขับ Jaecoo 7 ในรูปแบบการขับในสนามทดสอบแบบนี้ แต่อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า มันมีทั้งสิ่งที่ประทับใจและขัดใจปนๆ กันอยู่

ก่อนอื่นมาดูว่าผมประทับใจอะไรในรถคันนี้บ้าง เริ่มแรกเลยคือ ขนาดของตัวรถที่ผมว่าเป็นไซส์กำลังดีกับการใช้งานทั่วไป ทั้งในเมืองและออกต่างจังหวัด Jaecoo 7 เป็น SUV ที่ไม่ใหญ่จนเทอะทะขับยากหาที่จอดยาก แต่ก็ไม่เล็กจนผู้โดยสารอึดอัด เอาเป็นว่าถ้ากำลังหารถครอบครัวสักคัน คันนี้ก็ตอบโจทย์เรื่องขนาดเลยครับ ภายในห้องโดยสารนอกจากความกว้างขวางนั่งสบาย การเก็บเสียงผมให้คะแนนค่อนข้างสูงเลย

ลืมบอกไปว่าระบบเครื่องเสียงใช้ลำโพง Sony แต่เสียงเป็นอย่างไรวันนี้ยังไม่ได้ลองต้องขออภัย จอกลางระบบสัมผัสใช้ควบคุมและปรับระบบและฟังก์ชั่นต่างๆ ของรถคันนี้ก็ใช้แพทเทิร์นเดียวกับรถจีนคันอื่น มีต่างกันบ้างแต่ก็ไม่มาก ถือว่าใช้งานไม่ยากแม้บางอย่างจะซ่อนลึกไปหน่อยก็ตาม การทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าสัมพันธ์กันแบบไร้ที่ติและไร้เสียง

แม้กระทั่งอยู่ในโหมด Sport มันก็ยังเงียบกริบ และที่สำคัญเป็น SUV แบบ PHEV ที่แม้ว่าน้ำหนักตัวอยู่ที่ประมาณเกือบๆ 1.9 ตัน แต่ก็ยังควบคุมง่ายแม้ในโค้งแคบ แต่คุณก็ต้องไม่ห้าวเกินไปนะครับ อัตราเร่งถือว่าดีเลย ไม่ปรู๊ดปร๊าดจนน่าตกใจ แต่ตราบใดที่เท้าขวาคุณยังแช่อยู่ที่คันเร่ง ก็จะได้อัตราเร่งหนักๆ อย่างต่อเนื่อง ขับทางไกลสบาย เร่งแซงทันใจ และถ้าเท้าไม่หนักจนเกินไป ขึ้นเชียงใหม่หรือลงภูเก็ต น้ำมันถังเดียวสบายๆ แบบมีเหลือขับเที่ยวต่อได้อีก และที่สำคัญไม่ต้องกังวลเรื่องหาสถานีชาร์จไฟฟ้า ถ้าหาที่เสียบชาร์จไม่ได้จริงๆ ก็ไม่ต้องเสียบครับ เติมน้ำมันเอาอย่างเดียวรถมันก็วิ่งได้ มีระบบ Generator ที่ออกแบบมาให้มีการชาร์จไฟด้วยตัวเองกลับไปเก็บที่แบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องยนต์ที่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวปั่นกระแสไฟฟ้า หรือทุกครั้งที่ทำการเบรกก็จะช่วยชาร์จไฟฟ้าได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจุดนี้แหละที่ส่วนตัวผมชอบรถ PHEV มากกว่า EV

แล้วสิ่งที่ขัดใจผมล่ะ? ก่อนอื่นเลยคือรูปร่างหน้าตาภายนอกของรถที่มันออกจะดูจืดดูธรรมดาไปหน่อย อาจจะถูกรสนิยมใครบางคน แต่ผมว่าสำหรับคนรุ่นใหม่มันดูเชยเกินไปยิ่งถ้าเทียบกับรถคู่แข่งในประเทศแม่เดียวกันที่บางคันออกทะลุอวกาศได้ใจคนไทยไปหลายคันแล้ว

ดีไซน์ภายในห้องโดยสารผมชอบความเรียบง่าย แต่ขอติเรื่องวัสดุที่ถ้าเทียบกับคู่แข่งที่ใกล้เคียงกัน คันนี้เสียเปรียบโดยเฉพาะพวกทริมตกแต่งส่วนที่เป็นพลาสติก ซึ่งจุดนี้การเลือกใช้วัสดุที่ดูดีกว่านี้มันทำให้รถดูแพงขึ้นมาได้ทันที เบาะนั่งแถวหน้าขนาดใหญ่นั่งสบาย ปีกข้างไม่สูงมากเหมาะสำหรับคนชอบความสบาย แต่ก็เช่นกัน ดีไซน์และวัสดุหุ้มเบาะยังสู้คู่แข่งไม่ได้ เบาะหลังกว้างขวางนั่งสบายก็จริง แต่ตำแหน่งของเบาะผมรู้สึกว่ามันต่ำไปหน่อย นั่งแล้วจม แน่นอนว่าการวางตำแหน่งเบาะนั่งต่ำแบบนี้มันช่วยเพิ่มพื้นที่บริเวณเหนือศีรษะ แต่ในขณะเดียวกันผู้โดยสารด้านหลังอาจรู้สึกเวียนหัวได้ง่ายกว่าในกรณีเดินทางไกลโดยเฉพาะผู้ที่เมารถง่าย


ระบบช่วงล่างหนึบแน่นตัวรถไม่โคลงมากเวลาเข้าโค้ง แต่พอขับลงไปในเส้นทางขรุขระ คุณเอ๊ย…สัมผัสและรู้สึกทุกอย่างจากพื้นผิวถนนเลยครับ มันกระเทือนสะท้านขึ้นมาชัดมาก เสียงยาง เสียงช่วงล่างกระด้างกระเทือนขึ้นมาแม้อยู่ในความเร็วต่ำ ระบบช่วงล่างและยางซับแรงสะเทือนได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นที่ชนิดของยางที่ใช้ด้วยหรือไม่ เพราะจากที่เคยขับรถรุ่นอื่นมาที่ใช้ล้อขนาด 19 นิ้วกับยางซีรีส์ 50 มันก็ไม่กระเทือนสะท้านเท่าคันนี้ ถ้าหากคุณขับใช้งานรถคันนี้บนถนนที่มีพื้นผิวเรียบหรือบนทางด่วนเป็นหลัก ก็อาจไม่เจอปัญหานี้เท่าไหร่ แต่หากถนนแถวบ้านคุณเป็นหลุมเป็นบ่อและเต็มไปด้วยฝาท่อ น่าจะหงุดหงิดพอสมควรครับ


หลังทดลองขับเจ้า Jaecoo 7 SHS ทาง Omoda & Jaecoo มีแบบสอบถามมาให้ทำ หนึ่งในคำถามคือ เมื่อถึงวันเปิดตัว Jaecoo 7 SHS อย่างเป็นทางการในประเทศไทย (เร็วๆ นี้) คาดว่าจะอยู่ในระดับราคาเท่าไหร่? ในตัวเลือกมีให้เลือกทั้งตั้งแต่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท ไปจนถึงหนึ่งล้านปลาย ผมเลือกข้อที่เป็นตัวเลข 1.1 -1.2 ล้านบาท แล้วถ้าเป็นคุณล่ะครับ คิดว่ารถคันนี้น่าจะราคาเท่าไหร่ดี




