Mitsubishi Triton Athlete กระบะตัวท็อปที่แต่งหล่อมาจากโรงงาน โดยมาพร้อมจุดเด่นกับการอัปเกรดสมรรถนะเครื่องยนต์ ตกแต่งเพิ่มเติมทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงใส่ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าเข้าไปให้แล้ว โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย Athlete 2WD AT ราคา 1,125,000 บาท และ Athlete 4WD AT ราคา 1,298,000 บาท


ดีไซน์ภายนอก
Mitsubishi Triton Athlete รายละเอียดภายนอกมีหลายจุดที่น่าสนใจ แต่ขอไม่พูดถึงเรื่องดีไซน์ เพราะมันเป็นเรื่องความชอบของแต่ละบุคคล อย่างฝากระโปรงหน้าก็ใช้เป็นอลูมิเนียมอย่างกับรถยุโรปหรู ชุดตกแต่งกันชนหน้าเป็นไทเทเนียมรมดำ ไฟหน้าเป็น Multi Projector LED + DRL สไตล์ลิ่งบาร์เป็นสีไทเทเนียมรมดำ รวมถึงการเลือกใช้ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ที่อาจไม่ใหญ่โตเหมือนเจ้าอื่น แต่ก็มีจุดดีที่ทดแทนได้อยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลุยที่ทรหดมากกว่า ราคายางที่ต่ำกว่า รวมถึงความนุ่มนวลก็มีมากกว่าด้วยนั่นเอง กุญแจเป็นแบบอัจฉริยะ KOS ในขณะที่พื้นปูกระบะ ก็เป็นแบบไม่มีขอบกระบะให้ดูเกะกะน่ารำคาญ


ดีไซน์ภายใน
มาที่ห้องโดยสาร ขาดไม่ได้กับเบาะปรับไฟฟ้าสไตล์สปอร์ตสีดำ-ส้ม พร้อมระบบดันหลังไฟฟ้า พวงมาลัยอย่างที่เกริ่นจั่วหัวไปกับพวงมาลัยไฟฟ้า EPS หุ้มหนัง ด้ายสีส้ม จอแสดงข้อมูลการขับขี่ LCD 7นิ้ว จอกลางแบบสัมผัส Full HD ขนาด 9 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง Navi รองรับ Apple Carplay ไร้สาย ลำโพง 6ตำแหน่ง กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ปรับแยกอุณภูมิ ซ้าย-ขวา ระบบหมุนเวียนอากาศ ผู้โดยสารตอนหลัง และที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เป็นต้น



สมรรถนะ ขุมพลังใหม่ 204 แรงม้า
Triton Athlete ใช้เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 4N16 Hyper Power แบบ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 2.4 ลิตร 2,442 ซีซี. เทอร์โบแปรผัน VG Bi-Turbo เทอร์โบคู่ ที่อัปเกรดให้แรงขึ้นเป็น 204 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,750 รอบ/นาที โดยมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select Full-time 4WD II ระบบปั๊มฉีดน้ำมันดีเซล Commonrail Generation 4.5 แบบใหม่ เพิ่มระบบวาล์วระบายแรงดันน้ำมันเครื่อง เสื้อสูบ ฝาสูบ ใช้วัสดุอลูมินั่มอัลลอย และระบบโซ่ไทม์มิ่ง โดยมีโหมดการขับขี่หลากหลายถึง 7 โหมด
• Normal (All)
• Eco (2H)
• Gravel (4H) โหมดช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน เมื่อต้องวิ่งผ่านถนนแห้งลื่น
• Snow (4H)
• Mud (4HLC) สำหรับขับผ่านทางที่เป็นโคลน
• Sand (4HLC)
• Rock (4LLC)

ในขณะที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time AWD (Super Select 4WD II) ปรับได้ 4 รูปแบบ
• ขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H)
• ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ระบบจะถ่ายกำลังไปล้อหน้า 40% หลัง 60%
• ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4HLC) ระบบจะถ่ายกำลังไปล้อหน้า 50% หลัง 50% (ไม่ควรใช้บนทางแห้ง)
• ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4LLC) ขับขี่เส้นทางที่เป็นโคลน เนินสลับ ลาดชันมาก (ไม่ควรใช้ความเร็วเกิน 70 กม./ชม.)

พร้อมกันนี้ยังมาพร้อมระบบ Active Limited Slip แบบควบคุมด้วยระบบเบรก เฟืองท้าย ระบบล็อคเพลาหลัง Diff-Lock


ผลการทดลองขับ
ต้องยอมรับว่า Triton Athlete มีจุดที่น่าสนใจหลายจุ ทั้งในเรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ที่มีการอัปเกรดใหม่ทำให้แรงขึ้นกว่าเดิม อัตราเร่งดูดีกว่าเดิม แม้จะไม่มาก แต่ช่วงออกตัวรู้สึกได้ชัดเจน ส่วนในจังหวะเร่งแซงช่วงความเร็วสูงยังมีแรงบิดเหลือมาให้ใช้งานแบบที่ไม่ต้องเค้นรอบอะไรมากมาย รวมไปถึงช่วงขับขึ้นเนิน เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อม Sport Mode ดูฉลาดดี คิกดาวน์กันขยันขันแข็ง แต่อาจไม่ถูกใจสายละมุนเน้นฟิลซอร์ฟ เพราะฟิลลิ่งเกียร์จะค่อนข้างกระโชกโฮกฮากหน่อย ได้อารมณ์แบบพร้อมดันทุกสถาบัน


ระบบช่วงล่างของรุ่นนี้ฟิลลิ่งไปในทางนุ่ม ซับแรงสะเทือนได้ดี ส่วนตอนใช้ความเร็วกลางๆ ก็ไม่ได้โยน โคลงเคลงอะไรให้เสียอาการ ถือว่าให้การยึดเกาะถนนที่ดี แต่หากใช้ความเร็วสูงขึ้นไปอีกนิด จนเกินกฎหมายกำหนด จะเริ่มรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ ตามสไตล์ของช่วงล่างรถกระบะ แต่ยังดีที่มีระบบ AYC (Active Yaw Control) มาช่วยให้เข้าโค้งได้ปลอดภัยขึ้น โดยระบบนี้จะทำงานร่วมกับ G Sensor หากตรวจจับได้ว่ารถมีแรงเหวี่ยงที่มากเกินไป ระบบ AYC จะเริ่มทำงานลดความเร็วของล้อด้านในลง

นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่าใน Triton Athlete จะใช้เป็นพวงมาลัยแบบไฟฟ้าแล้วนะครับ เมื่อวิ่งที่ความเร็วต่ำ พวงมาลัยจะเบาหมุนได้สบายมือขึ้นมาหน่อย ส่วนเมื่อเพิ่มความเร็ว พวงมาลัยก็จะเริ่มหนักขึ้น แต่ตรงจุดนี้ผมยังรู้สึกว่าทางมิตซูบิชิ เซ็ตพวงมาลัยมาให้น้ำหนักค่อนข้างยังหนักไปหน่อย น่าจะเซ็ตมาให้เบากว่านี้ เพราะช่วงขับในเมือง ยังรู้สึกว่าพวงมาลัยยังแอบหนักอยู่เหมือนกัน เรียกว่าเสียดาย ไหนๆ ใส่พวงมาลัยแบบไฟฟ้ามาให้แล้ว

ปิดท้ายที่ระบบความปลอดภัยที่ให้ก็ถือว่าให้มาครอบคลุมการใช้งาน อาทิ ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว FCM ,ระบบ Active LSD ,Airbag 7ตำแหน่ง ,กล้องมองภาพรอบคัน ,Sensorกะระยะ หน้า4-หลัง4 ,ระบบควบคุมไฟ สูงอัตโนมัติ AHB ,ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่จุดอับสายตา BSW ,ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด RCTA ,ระบบ ABS ,EBD ,BA ,TCL ,ASC ,HSA ,ESS

สรุปโดยรวม ต้องถือว่า Mitsubishi Triton Athlete ใส่ฟีเจอร์เพื่อเข้ามาสู้ในตลาดอย่างเต็มตัว แต่อาจจะยังมาไม่เต็ม เพราะคู่แข่งเค้าจับยัดอะไรใส่กันเข้าไปมากกว่านี้แล้ว และยิ่งเป็นตลาดปิกอัพตัวท็อปด้วยแล้ว เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหาของคนซื้อ เพราะเค้าซื้อกันที่ออปชั่น ฟีเจอร์ หรือสมรรถนะที่เหนือกว่า ถึงตรงนี้ก็ต้องถือว่า Triton Athlete ยังต้องพิสูจน์ตัวเองอยู่อีกพอสมควร








