มากันเป็นระลอกยิ่งกว่าพายุฝนถล่มประเทศไทยตลอดเดือนที่ผ่านมาสำหรับรถยนต์ EV จากจีน ส่งผลให้ภาพรวมตลาดในไทยร้อนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน คาดว่ารถยนต์ EV ในปี 2568 ของบ้านเราตัวเลขคงเข้าใกล้หลัก 100,000 คัน เลยทีเดียว

ถ้านับไม่ผิด ตั้งแต่ต้นปีจนมาถึงวันนี้น่าจะมีแบรนด์จีนเปิดตัวในไทยทะลุ 10 รุ่น ลองไล่เรียงดูนะครับ เริ่มจากแบรนด์ เอ็มจี ต้นตำหรับรถยต์ EV ในไทย อวดโฉม MG IM6 และ NEW MG S5 EV ชูจุดเด่น “ขับสนุก วิ่งไกล ชาร์จไว มีไลฟ์ไทม์วารันตี”

ต่อด้วย CHANGAN ที่ยอดจองเปรี้ยงปร้างกับการเผยโฉม DEEPAL S05 ชูความโดดเด่นของการออกแบบ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี และใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ส่วน GAC ก็ไม่ธรรมดาส่ง AION UT ไซซ์อีโคาร์มาระเบิดตลาดด้วยระดับราคาเพียง 5 แสนนิดๆ

ในขณะที่ Leapmotor รถจีนที่มีกลุ่มสเตลแลนติสสนับสนุนเรื่องเทคโนโลยี มีเครือ PNA เป็นมือทำตลาดในบ้านเรา เริ่มจากทำคลอดน้องใหม่ C10 Style ด้วยราคาที่จับต้องได้ต่ำกว่าล้านบาทจากเดิม C10 ดีไซน์ราคาทะลุล้านสอง และเร็วๆ นี้กำลังจะอวดโฉม B10 เอสยูวีไซซ์เล็กอีกรุ่นคาดว่าจะมีราคาประมาณช่วง 6 แสนบาท

ด้านแบรนด์ ZEEKR ในเครือ Geely ไม่พลาดกับการเปิดตัว ZEEKR 009 รุ่น 7 ที่นั่ง ตามมาด้วย ZEEKR 07 และล่าสุดทำราคา ZEEKR 009 รุ่นเริ่มต้นเพียง 2.39 ล้านบาท


ทางแบรนด์ JAECOO ในเครือ Chery ก็สร้างยอดขายทะลุปรอทด้วย JAECOO 5 EV Dynamic 629,000 และ JAECOO 5 EV Max 679,000 ช่วงแนะนำยังมีราคา Early Bird ที่ลดลงไปเกือบแสน และมีรถส่งมอบลอตแรกแล้ว 1,200 คัน

แบรนด์ XPENG เปิดเพิ่มอีก 2 รุ่น XPENG G6 ไมเนอร์เชนจ์ และรถตู้ไฟฟ้า XPENG X9 รุ่น Luxury ปี 2024 ราคายอมเยาว์ลงมาอีกนิด แถมมีเบาะแถวสองแบบ Walk-Thrugh


ส่วนแบรนด์ Chery เองก็เปิดตัว Chery V23 รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยราคาเข้าถึงง่ายเมื่อเทียบกับสมรรถนะและออปชัน มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ V23 PLAY 2WD ราคา 689,900 บาท, V23 PLUS 2WD ราคา 749,900 บาท และรุ่นท็อป V23 PEAK 4WD ราคา 879,900 บาท ราคาพิเศษช่วงแนะนำลดอีก 10,000 บาท จนถึง 31 ตุลาคม 2568

ยังไม่รวมค่ายยุโรป ซึ่งมีรถยนต์ EV ใหม่เปิดตัวกันอุตลุด ไม่ว่าจะเป็น Audi S6, Volvo EX30 Cross Country รวมถึง EX 90 และล่าสุดกำลังจะเปิด ES90 ซีดานไฟฟ้า ขณะที่ทั้ง Benz และ BMW ก็มีกลุ่มรถ EQ และตระกูล i ครบทุกรุ่น รวมถึง MINI John Cooper Works Electric กับการก้าวสู่โลกของยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว


ด้านฮุนได จากค่ายรถฝั่งเกาหลีเองก็เปิดตัว IONIQ 5 N Line รุ่นปี 2025 เสริมไลน์อัป IONIQ 5


ในขณะที่ผู้นำแบรนด์ญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า แม้จะสาละวนอยู่กับกลุ่มรถไฮบริด แต่ก็ยังปลีกเวลามาเรียกยอดรถEV โดยเฉพาะ bZ4X ซึ่งต้องยอมรับว่าค่ายโตโยต้าเขาทำรถได้ถูกจริตคนไทยเอามากๆ ดูยอกจองเต็มสิทธิ์ 2 พันคันไปเรียบร้อย ในเวลาที่รวดเร็ว

ข้อสังเกตุแม้โตโยต้าจะมีระดับราคาจะสูงกว่าแบรนด์จีน แต่ด้วยความไว้วางใจทางด้านคุณภาพและการให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเชื่อมั่นที่มีให้กับบริการหลังการขาย ความพร้อมของระบบการจัดการชิ้นส่วนอะไหล่ และเครือข่ายเซอร์วิสที่ครอบคลุมกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกแบรนด์ญี่ปุ่นมากกว่าจีน ทำให้โตโยต้ามั่นใจว่าเป้า 6,000 คันในช่วงปีแรกไม่น่าพลาด

เห็นการหลั่งไหลของรถยนต์ EV ถาโถมใส่ตลาดบ้านเรา ต้องยอมรับว่าทำให้ตลาด EV เติบโตได้เร็วเกินคาด แม้ EV Eco System บ้านเราจะยังรองรับไม่เต็มที่ก็ตาม

หันมาดูปัจจัยสำคัญที่กำหนดรูปเกมตลาดรถยนต์ EV สภาพคล่องของผู้บริโภคและเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อยังเป็นปัจจัยหลัก แต่ที่ผ่านมาแม้หนี้ครัวเรือนยังสูง ดอกเบี้ยยังแพงหูฉี่ แต่ยอดขายรถยนต์ EV ยังเดินได้ต่อเนื่อง นั่นเป็นเพราะตลาดมีโปรดักต์ให้เลือกมากมาย แต่ในมุมผู้บริโภค กำลังการผลิตของค่ายรถและยอดส่งมอบจริงยังเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ถึงแม้ยอดจองบางค่ายจะสูง แต่หากส่งมอบช้า ก็มีความเสี่ยงที่ลูกค้าจะยกเลิกในที่สุด รวมถึงการปล่อยข่าวรถใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว ก็ทำให้ผู้บริโภคเกิดการชะลอการซื้อ เพราะอยากได้โปรดักต์รุ่นใหม่กว่า อีกทั้งปัจจัยเรื่องการลดราคา ก็ทำให้ผู้บริโภคเกิดภาวะชะงัก ไม่กล้าซื้อ กลัวติดดอย

แต่ด้วยตลาดที่ร้อนแรงแบบนี้ ผู้เล่นหลายค่ายยังมองว่างาน Motor Expo 2025 ที่จะถึงนี้จะเป็นอีกสนามประลองที่ดุเดือดของรถยนต์ EV เพราะนอกจากจะมีแบรนด์ใหม่เข้าตลาดแล้ว ยังมีหลายแบรนด์จะรุกหนักด้วยโปรโมชั่นที่ร้อนแรง เช่นใส่ Package ดูแลรถ รวมถึงโปรโมชั่นด้านการเงินทั้งดอกเบี้ยต่ำเช่น 0% หรือฟรีของแถมและบริการอื่นๆ มากมาย

ดังนั้นเป้าหมาย 50–55% ของยอดจองในงานที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยทำได้กว่า 40% ของยอดจองทั้งหมดในงาน 5 หมื่นกว่าคัน ก็มีความเป็นไปได้สูงทีเดียว … ว่ามะ??
