แบรนด์รถยนต์จีน NETA ที่กำลังเผชิญปัญหารุมเร้ารอบด้าน จะอยู่หรือไป ยังเป็นเรื่องท้าทายฝีมือผู้บริหารระดับสูง และคงต้องรอดูกันอีกยาวนานทีเดียว

ย้อนหลังไปเมื่อช่วงปลายปี 2567 Hozon บริษัทแม่ของแบรนด์รถยนต์ NETA ในจีนประสบปัญหาสภาพคล่อง มีหนี้สิ้นรวมกันมากกว่าแสนล้านหยวน มีข่าวปลดพนักงานออกมาเป็นระยะ รวมถึงข่าวลือยุบศูนย์อาร์แอนด์ดี หัวใจหลักของการผลิตรถยนต์สมัยใหม่

รุกลามมาถึง NETA ไทยแลนด์ที่กำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาหนี้ครัวเรือน ส่งผลให้ยอดขายในไทยลดลงอย่างน่าตกใจ ด้านการผลิตหยุดชะงักจากการขาดซัพพลายชิ้นส่วนจากประเทศจีน ดีลเลอร์หลายรายเริ่มตีจาก เดิมมีประมาณ 60 รายตอนนี้หายไปกว่า 20 ราย

ส่วนลูกค้าเจอสารพันปัญหา ตั้งแต่จดทะเบียนไม่ได้ เซอร์วิสไม่มีอะไหล่ รถเสียซ่อมนานหลายเดือน และที่เลวร้ายที่สุดคือ เนต้าประเทศไทย ดันเหนี่ยวหนี้ ค้างจ่ายเงินดีลเลอร์คนไทยจำนวนมหาศาล

ปัญหาหนี้ที่ก่อเกิดจากเม็ดเงินอุดหนุนของรัฐบาลที่ตั้งใจช่วยคนซื้อรถEV คันละแสนบาท แต่บริษัทแม่ดึงไว้ก่อน ขายรถให้ดีลเลอร์เต็มราคาสัญญาว่าจะคืนให้ภายหลัง แต่ถึงวันนี้ยังอีลุงตุงนัง

นอกจากนี้การเคลมรถจากเงื่อนไขรับประกันของบริษัทแม่ เช่น รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กม. รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กม. รวมทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่เช็กรถช่วงแรก ของแถมอย่าง Wall Box ดีลเลอร์ต่างสำรองจ่ายไปก่อนทั้งนั้น ตอนนี้กลายเป็นดินพอกหางหมูก้อนโต

ยิ่งมาเจอเล่ห์ผู้บริหารชาวจีน สรรหาวิธีจ่ายมาร์จิ้นให้ดีลเลอร์เป็นรถแทนเงินสด สร้างความปั่นป่วน ทำดีลเลอร์ต้องดิ้นดัมพ์ราคากันอุตลุด NETA V-II บางดีลเลอร์ขายแค่ 299,900 บาท จากราคาเต็มเกือบ 5 แสนบาท แต่ภายใต้เงื่อนไขซื้อเงินสด เพราะระยะหลังไฟแนนซ์ไม่ยอมจัด ประกันภัยก็เมินหน้าหนี

นอกจากนี้ยังมีเรื่องวุ่นๆ ภายในบริษัทเช่น กรรมการบริษัทคนจีนถูกส่งไปทำงานที่อื่น เหลือแต่กรรมการคนไทยแบกรับปัญหา รวมถึงมีข่าวพนักงานทยอยลาออกไปจนถึงขั้นกำลังจะยุติดำเนินธุรกิจในไทย

ล่าสุดบริษัทแม่ได้ออกแถลงการหวังกลบกระแสทั้งหมดที่เกิดขึ้น ด้วยเชื่อว่า ถ้าบริษัทแม่ที่ประเทศจีนลืมตาอ้าปากได้ เนต้าไทยแลนด์ น่าจะกลับมาสู้ต่อได้อีกครั้ง

โดย Hozon บริษัทแม่ในจีนได้เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างองค์กร ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาทางด้านหนี้สิน และส่งเสริมพันธมิตรทางธุรกิจให้เข้ามาร่วมลงทุน(มีนายทุนใหม่) อีกทั้งยกระดับการบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายใต้กรอบของกระบวนการทางกฎหมาย

กระบวนการปรับโครงสร้าง นำโดยภาครัฐบาลภายใต้การกำกับดูแลของศาลประชาชนชั้นกลางเมืองเจียซิง ในการปกครองของมณฑลเจ้อเจียง

การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเสถียรของกระบวนการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางธุรกิจทุกฝ่าย โดยจะดำเนินการผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ การยกระดับด้านการบริหารจัดการองค์กร และการเพิ่มเงินทุน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ให้กลับมาแข็งแกร่ง และยั่งยืนอีกครั้ง
มาตรการหลักภายใต้กระบวนการปรับโครงสร้างองค์กร
1.มาตรการคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ที่เกี่ยวข้องทางธุรกิจทุกราย
2.การปรับโครงสร้างการลงทุนและการบริหารเชิงกลยุทธ์ โดยเงินทุนจะถูกนำมาใช้สำหรับการกลับมาเริ่มดำเนินการผลิต การพัฒนาและการวิจัย และการขยายธุรกิจในต่างประเทศ ยังได้แต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจยานยนต์ในหลายประเทศ เพื่อยกระดับความเชี่ยวชาญในการบริหาร และจัดการองค์กร
3.การดำเนินธุรกิจทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ตลาดภายในประเทศ ฐานการผลิตรถยนต์ภายในประเทศ อาทิ โรงงานที่เมืองถงเชียง จะทยอยกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยมุ่งเน้นการผลิตเพื่อรองรับตามคำสั่งซื้อที่ได้รับ อีกทั้งยังได้จัดเตรียมด้านเงินทุนเพื่อสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจของผู้แทนจําหน่ายได้อย่างเสถียรภาพ
ขณะที่ตลาดต่างประเทศ โดยหลังจากการได้รับเงินลงทุน NETA Auto จะเร่งเดินหน้าพัฒนาธุรกิจ ตลาดหลักในต่างประเทศ เช่น ไทย อินโดนีเซีย บราซิล และประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะตลาดในไทย ได้เริ่มดำเนินการจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่ผ่านระบบรูปแบบการบริหารจัดการแบบใหม่แล้ว
4.ความมุ่งมั่นในการให้บริการลูกค้า เพื่อยกระดับศักยภาพด้านการให้บริการหลังการขายอย่างครอบคลุม เช่น การอัพเดตซอฟต์แวร์ OTA ชิ้นส่วน อะไหล่ รวมถึงบริการผ่านแอปพลิเคชั่น จะยังคงดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดชะงัก
นอกจากนี้ในเชิงกลยุทธ์ จะเร่งพัฒนาด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ สร้างความสัมพันธ์และร่วมมือเชิงกลยุทธ์ กับพันธมิตรทางการค้าชั้นนำ อีกทั้งการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหม่ โดย NETA Auto จะดำเนินกลยุทธ์ การใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการแต่ละพื้นที่ (Technology + Localization) เพื่อเจาะตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูง
แต่หลังจากเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนได้เพียงวันเดียว แหล่าบรรดาดีลเลอร์ในไทยกว่า 20 รายก็ยังไม่มั่นใจ รวมตัวกันไปยื่นหนังสือกรมสรรพสามิต ให้ชะลอการจ่ายเงินอุดหนุนกับบริษัทเนต้าไทยแลนด์ไว้ก่อน เพราะเกรงว่าจะเอาเงินไปใช้ผิดประเภท แทนที่จะนำมาชำระหนี้ดีลเลอร์ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 200 ล้านบาท และหากรวมความเสียหายในส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็น่าจะสูงถึง 400 ล้านบาท
ซึ่งกรมสรรพสามิตรับทราบถึงประเด็นปัญหาดังกล่าวและยืนยันว่าในฐานะที่กรมสรรพสามิตดูแลเรื่องมาตรการทางภาษี ที่ผ่านมาได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อให้การใช้เม็ดเงินภาษีเป็นไปอย่างคุ้มค่าและถูกต้องตามมาตรการที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการคนไทยที่อาจจะได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวอย่างเต็มที่ด้วย
ส่วนการผลิตชดเชยไม่เป็นไปตามแผน กรมสรรพสามิตได้ชะลอการจ่ายเงินอุดหนุนไว้แล้วส่วนหนึ่ง และได้ส่งหนังสือแจ้งให้ทางบริษัท เนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด นำหนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) มาวาง เพื่อเป็นการรับประกันความเสี่ยงเพิ่มเติม ซึ่งตรงนี้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด แต่จนถึงขณะนี้ทางบริษัทก็ไม่ได้เข้ามายื่น Bank Guarantee แต่อย่างใด ดังนั้นกรมจึงยังไม่จ่ายเงินอุดหนุนส่วนที่ชะลอไว้ จนกว่าจะดำเนินการตามกฎหมายให้ครบถ้วน
มหากาพย์ NETA วันนี้ คงจะต้องดูกันไปยาวๆ