แม้ตลาดรถยนต์ปีที่ผ่านมา 2567 จะหดตัวอย่างน่าตกใจ แต่สำหรับตลาดรถหรู ซึ่งกลุ่มลูกค้ายังเป็นชนชั้นกลางค่อนไปทางสูง และมีความพร้อมในการเข้าถึงสินเชื่อมากกว่าลูกค้ากลุ่มสตาร์ทอัพ ทำให้ยังพอประคับประคองตัวเองผ่านพ้นช่วงวิกฤตในภาวะที่ทุกอย่างไม่เป็นใจ

แบรนด์ Volvo (วอลโว่) พรีเมียมคาร์ ลำดับที่ 3 รองจากบีเอ็มดับเบิลยู และเมอร์เซเดส-เบนซ์ แถลงผลประกอบการประจำปี 2567 ว่า ยอดขายรวมของวอลโว่ปี 2567 ยังโตขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 80% ของยอดขายรวม โตกว่า 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ผู้บริหารวอลโว่ย้ำว่า ภาพรวมของรถยนต์ปี 2568 ยังไม่มีปัจจัยที่ส่งผลดีขึ้นต่อตลาดเมื่อเทียบกับปี 2567 แต่วอลโว่ ตั้งเป้ายอดขายในปี 2568 จะโต 5% เมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งจำเป็นต้องปรับแผนหลายอย่างทั้งเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้ง EV และในกลุ่ม PHEV นอกจากนี้หลังจากที่มีดีลเลอร์เดิมปิดตัวลง จำเป็นต้องเฟ้นหาตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพเพิ่ม รวมถึงศูนย์ซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานครบวงจร และ Volvo Mobile Service ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับความพึงพอใจลูกค้า

ซึ่งในงานมอเตอร์โชว์ 2025 วอลโว่ได้เปิดตัวเอสยูวี XC90 ปลั๊ก-อินไฮบริด 7 ที่นั่ง และรถยนต์ไฟฟ้า EX90 เอสยูวี 6 ที่นั่ง รวมถึงกระซิบเพิ่มเติมว่ามีแผนคลอดวอลโว่ EX 30 ครอสคันทรีและ ES 90 ภายในปีนี้ และประเทศไทยกำลังจะจัดตั้งศูนย์ซ่อมและรีไซเคิลแบตเตอรี่ พร้อมเปิดบริการใหม่ SMART Repair Service ซ่อมอุปรณ์อีเล็กทรอนิกส์แทนการเปลี่ยนอุปกรณ์ยกชิ้น

ยอมรับว่าตลาดรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายด้านในปีที่ผ่านมาทำให้ดีลเลอร์หลายรายแบกภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหวหันไปขายแบรนด์อื่นที่มีแนวโน้มดีกว่า อาทิ กลุ่มเวิร์นส์ ออโมทีฟ ซึ่งยุติบทบาทการเป็นดีลเลอร์ วอลโว่ สาขาหัวหมากไปเมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมาและเร็วๆ นี้เอ็มดับบลิว มอเตอร์วัน (MWONE) ก็พร้อมโบกมือลาไปอีกราย เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่กลุ่มพระนครสวีดิช ลดจำนวนโชว์รูมวอลโว่จาก 3 แห่งเหลือเพียง 2 แห่ง

แต่ในจังหวะที่มีกระแสข่าวดีลเลอร์หลายรายเลิกยังมีตัวตายตัวแทน โดยเฉพาะกลุ่ม จีที ออโต้ ที่เพิ่มโชว์รูมอีก 2 แห่ง ย่านพัฒนาการและพัทยา จ.ชลบุรี นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม ไซม์ดาร์บี้ ทุนใหญ่ค้าปลีกรถยนต์จากมาเลย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ปิดกิจการไปหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์ฟอร์ดและแบรนด์มาสด้าหลายโชว์รูม เตรียมผันตัวเองมาเป็นดีลเลอร์วอลโว่ด้วยเห็นแนวโน้มการเติบโตของแบรนด์วอลโว่ที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยี

ปัจจุบันวอลโว่มีโชว์รูมและศูนย์บริการ ในกรุงเทพ-ปริมณฑล ประมาณ 15 แห่ง ภาคตะวันออก 1 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 แห่ง ภาคกลาง 1 แห่ง ภาคเหนือ 1 แห่ง และภาคใต้ 2 แห่งภูเก็ตและหาดใหญ่
นอกจากนี้วอลโว่กำลังเล็งเลิกผลิตรถยนต์ในกลุ่ม Estate หรือ Station Wagon ซึ่งตอนนี้มีผลิตอยู่แค่รุ่น V60 ปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นเดียว ซึ่งหลายคนยืนยันว่าเป็นรถที่มีเสน่ห์ แต่ยอดขายกลับไม่จูงใจ ในสต็อกเหลือกันไม่ถึง 100 คัน ใครที่มีอยู่เก็บไว้ให้ดี หรือถ้ากำลังอยากเป็นเจ้าของต้องรีบตัดสินใจ เพราะกำลังจะเป็นของหายาก หรือ Rare Item
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจเป็นเพียงแค่แผนที่กระตุ้นยอดขายตัวแวกอน V60 ซึ่งอาจจะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ เหมือนอย่างที่เคยประกาศว่าในปี 2030 วอลโว่จะมีแต่รถไฟฟ้าล้วน แต่สุดท้ายก็มีการกลับลำว่ายังคงผลิตรถ PHEV หรือนี่อาจจะเป็นแค่เพียงแผนโล๊ะสต๊อค V60 รุ่นปัจจุบัน ที่อาจจะมีรุ่นใหม่เปิดตัวใน 2-3 ปีข้างหน้า หรือไม่ V60 ก็อาจจะเป็น Rare Item ของหายาก ที่หากไม่ซื้อตอนนี้ที่มีแคมเปญกระหน่ำราคากันสุดโหด ก็อาจจะเสียโอกาสครั้งใหญ่ไปก็เป็นได้