Gymkhana (จิมคาน่า) การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ที่ใช้ความเร็วไม่สูงมาก แต่จะเน้นทักษะ และเทคนิคการขับ และควบคุมรถในแต่ละจุดทดสอบ โดยกรรมการจะจัดวางกรวยยางเป็นแทร็ค เพื่อกำหนดเส้นทางการวิ่ง มีทั้งสลาลอม โค้งเลข 8 หรือโดนัทหมุนรอบกรวยยาง เพื่อดูความสามารถของนักแข่งในการควบคุมรถ

สำหรับการตัดสินง่ายๆ ก็คือ รถคันไหนทำเวลาได้เร็วที่สุด บนกติกาว่าจะต้องไม่ผิดเส้นทาง ไม่ชนกรวยยาง และสามารถหยุดรถภายในจุดที่กำหนด ก็จะเป็นผู้ชนะ โดยก่อนการแข่งผู้จัดจะเรียกประชุมนักแข่งทำความเข้าใจระหว่างกัน พาเดินเท้าสำรวจเส้นทางวิ่ง (นักแข่งต้องจำเส้นทางให้ได้) หลังจากนั้นจะให้เวลาในการซ้อมก่อนเริ่มแข่งขันจริง ซึ่งก็จะแบ่งรุ่นรถเพื่อกำหนดรุ่นแข่งขัน

บ้านเราการแข่งขัน Gymkhana ที่โดดเด่นและมีผู้ติดตามมากสุดตอนนี้ได้แก่ GC Grid ผู้คว่ำหวอดในวงการรถยนต์มายาวนาน ปีนี้เลือกปทุมธานี สปีดเวย์ เป็นสนามแข่งขัน ใช้ชื่อรายการ Gymkhana GC Grid Competition Series 2025 By Harson Tires มีทั้งหมด 8 สนาม เก็บคะแนนตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี

ที่น่าสนใจคือ ปีนี้มีรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV เข้าร่วมแข่งขันหลายรุ่น แต่ดูแล้วที่เป็นตัวตึงหัวแถว น่าจะเป็นการแข่งขันระหว่างรถยนต์ไฟฟ้าตัว Performance 2 ค่าย นั่นคือ NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER และ MINI John Cooper Works EV

ซึ่งทางฝั่ง MG XPOWER มี อ.หน่อง-เอมอมร นักแข่งจากทีมเอ็มจีเข้าร่วมแข่งขัน โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรยางจาก Yokohama และล้อแม็ก Maxion Wheels ซึ่งเป็นพาร์ตเนอร์สำคัญในการลงแข่งขันครั้งนี้ สำหรับ MG XPOWER ขุมพลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุด 435 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.8 วินาที

หากดูจากสเปคแล้วจะเห็นได้เลยว่า MG XPOWER ได้เรื่องความเร็วของมอเตอร์คู่ รวมถึงความได้เปรียบช่วงออกตัวเพราะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อีกทั้งยังมีจุดการกระจายน้ำหนักตัวรถอย่างสมดุล ทำให้สามารถควบคุมรถได้แม่นยำ และรวดเร็วในรูปแบบการขับขี่แบบ Gymkhana รวมไปถึงระบบเบรกที่ได้รับการเซ็ตมาจาก Continental ที่หลายคนอาจจะรู้จักในชื่อบริษัทยาง แต่จริงๆ แล้ว Continental ที่เยอรมันเป็นบริษัทที่ทำอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องกับรถหลายอย่าง และมีชื่อเสียงที่เยอรมัน

โดยรถที่ใช้ในการแข่งขันในปีนี้ไม่ได้มีการปรับจูนใหม่แต่อย่างใด เพียงแต่ปรับใช้ยางจาก Yokohama และ Maxion Wheels ซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน สำหรับ MG4 XPOWER ขอบอกว่าตอนนี้เป็น แรร์ ไอเทน ไปแล้ว เพราะ MG ได้เลิกสั่งเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว หากใครมีไว้ในครอบครองบอกเลยว่า น่าอิจฉาสุดๆ และที่สำคัญต้องเก็บรักษาให้ดีทีเดียวเชียว

ในขณะที่ MINI John Cooper Works EV ซึ่งถือว่าเป็นตัวท็อปสุดของมินิ อีวี และเป็นตัว Performance ซึ่งชื่อของ John Cooper Works หรือ JCW ก็คงการันตีได้ โดย MINI John Cooper Works EV จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งให้พละกำลังสูงสุด 258 แรงม้า และแรงบิด 350 นิวตันเมตร ยังเติมความแรงได้อีกสเต็ปขณะออกตัวด้วยฟังก์ชัน Electric Boost ซึ่งเพิ่มได้อีกประมาณ 27 แรงม้า

ซึ่งจากรูปทรงของตัวรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ การบาลานซ์น้ำหนักที่ดี บวกกับช่วงตัวที่สั้นกว่า และเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า จะได้เปรียบเรื่องการเลี้ยวที่ดี ที่คล่องตัวกว่า อีกทั้งยังสามารถเซ็ตหลังให้ช่วยเลี้ยวได้ง่ายกว่าตัว MG4 XPOWER ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะฉะนั้น หากเป็นแทร็กที่มีมีช่วงทางตรงยาวๆ เลี้ยวองศาไม่แคบนัก ดูแล้ว MG4 XPOWER ดูจะได้เปรียบนิดๆ จากแรงตะกุย 4 ล้อ รวมถึงมอเตอร์ 2 ตัว ที่ให้แรงม้าและแรงบิดที่มากกว่า หากแต่เป็นแทร็กที่ต้องเลี้ยวเยอะๆ มีเลี้ยวแคบๆ มีเลี้ยวโดนัทหลายจุด MINI John Cooper Works EV ดูจะโอกาสที่ดีกว่า

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคนขับด้วย ซึ่งทาง MG XPOWER ดึงตัว อ.หน่อง-เอมอร ซึ่งเป็น Training ของทางเอ็มจี มาเป็นนักแข่ง โดยถือว่ามีความเชี่ยวชาญและคุ้นเคยกับตัวรถเป็นอย่างดี รวมถึงยังมีพันธมิตรสนับสนุนเป็นยางจาก Yokohama และล้อแม็กจาก Maxion Wheels เป็นพาร์ตเนอร์สำคัญที่ช่วยเพื่อการยึดเกาะถนนให้กับตัวรถ

ส่วนทาง MINI John Cooper Works EV ได้ทางทีม Instructor ของ BMW อย่าง xPan ซึ่งมีนักแข่งที่มีชื่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เบิร์ด-อลงกรณ์, เฟิร์ส-พงศ์พล และนันซ่า-ณัฐนันท์ ซึ่งทีมนี้ได้สปอนเซอร์เป็นยาง Michelin บอกเลยทั้ง 2 ทีม มีลุ้นกันสนุกตั้งแต่สนามแรก

เชื่อสนามที่เหลือ สำหรับแฟนๆ FC ของการแข่งขัน และของรถทั้ง 2 แบรนด์ ไม่อยากให้กระพริบตา สำหรับ MG XPOWER ELECTRIC และ Mini JCW EV กับการแข่งขัน Gymkhana GC Grid Competition Series 2025 By Harson Tires ที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์ ทีมงาน CARZANOVA รับประกันความมันส์ ในรุ่นรถยนต์ EV แน่นอน
