5 เดือนหลังจากที่คุณ Adrian Hallmark เข้ามานั่งตำแหน่ง CEO ของ Aston Martin วันนี้เขามีเรื่องอัพเดทมาแจ้งถึงอนาคตของ Aston Martin ว่าจะมีทิศทางไปทางไหน และที่สำคัญเขาเชื่อมั่นว่าแผนดังกล่าวน่าจะทำกำไรให้บริษัทฯขึ้นมาได้บ้างหลังจากที่กระท่อนกระแท่นมาพักใหญ่

สิ่งแรกที่เขาเปิดเผยคือ จะมีการเพิ่มรุ่นย่อยในรถโมเดลปัจจุบันที่ขายอยู่อย่างเช่นการเปิดรุ่น Special Edition ขึ้นมา พร้อมมีออปชั่นให้ลูกค้าจิ้มเลือกได้มากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีรถสปอร์ตรุ่นใหม่ออกมา เพราะตอนนี้ทางบริษัทฯ ได้ดีไซเนอร์มือดีอย่าง Adrian Newey มาอยู่ด้วยแล้ว ซึ่งถ้าถามถึงรถยนต์ EV คันแรกของค่าย ตอบได้ว่ายังไงก็มาแน่ แต่ยังไม่ใช่เร็วๆนี้

โดยคุณ Hallmark กล่าวว่าในอนาคตยังไง Aston Martin ก็ต้องมีรถยนต์ EV พลังงานไฟฟ้าล้วนอย่างแน่นอนแต่เขามองว่า ณ ปัจจุบันมันยังไม่ถึงเวลา แล้วเมื่อไหร่ที่เวลานั้นจะมาถึง? เขาตอบสั้นๆว่า ภายใน 5 ปีนี้แหละ โดยจะเป็นการเปิดตัวออกมารุ่นเดียวก่อน ซึ่งกำหนดการสร้างรถ EV ออกมาขายจริงก็น่าจะต้องปี 2030 ไปแล้ว

โดยสัดส่วนโมเดลรถที่ขายในปี 2030 จะเป็นรถเครื่องยนต์สันดาปกับ Plug-in Hybrid รวมกันอยู่ที่ 85% ที่เหลือก็น่าจะเป็น EV และถ้าการตอบรับรถ EV ของ Aston Martin ดี ก็จะมีรุ่นอื่นๆตามมา ซึ่งจะว่าไปก็ถือว่าใจกล้าพอสมควรกับการที่จะยังยืนหยัดทำรถเครื่องยนต์สันดาปต่อไปจนถึงที่สุด

และพอพูดถึงเครื่องยนต์สันดาป ก็เป็นที่ยืนยันแล้วว่า Aston Martin จะยังใช้เครื่องยนต์จาก Mercedes-Benz ต่อไป แต่สำหรับรุ่นที่ใช้ระบบ Plug-in Hybrid จะต้องมีการปรับขนาดของแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับรถโดยจะเป็นการใช้แบตเตอรี่จากซัพพลายเออร์เจ้าอื่น

ซึ่งระบบ Plug-in Hybrid นี่แหละที่จะมาช่วยให้ Aston Martin ยังคงใช้เครื่องยนต์ V8 และ V12 ไปให้ได้นานที่สุด เพราะต้องให้ผ่านกฏหมายการปล่อยไอเสียของทางยุโรป คุณ Hallmark ยืนยันหนักแน่นว่ายังไง Aston Martin ก็ยังต้องมีเครื่องยนต์ V12 ถึงแม้จะขายได้ไม่มากก็ตาม จนกว่าจะถึงเวลาที่มันไม่สามารถผ่านกฏหมายได้แล้วจริงๆ ก็ค่อยว่ากัน ซึ่งเดาว่าเครื่องยนต์ V12 จะมากับรถรุ่นใหม่ได้ถึงแค่ปี 2030 ส่วน V8 น่าจะดึงต่อไปได้จนถึงปี 2035

เรื่องต่อมาคือ DBX ณ ตอนนี้จะยังคงเป็น SUV คันเดียวเท่านั้นของ Aston Martin โดยในปี 2025 นี้จะมีการปรับโฉมกันสักรอบเพิ่มความสดใหม่ อย่างไรก็ตามด้วยความที่ยอดขาย SUV ค่อนข้างดี ก็เป็นไปได้ที่จะมี SUV เพิ่มขึ้นมาอีกสักรุ่น

ซึ่งใครที่คิดว่า Aston Martin อาจจะมี SUV สายลุยออกมาเป็นคู่แข่งของ Mercedes G-Class เลิกคิดไปได้เลย เพราะทางบริษัทฯยืนยันแล้วว่าไม่ทำ ซึ่งความเป็นไปได้ของ SUV รุ่นใหม่ที่ว่า อาจจะเป็นสไตล์ DBX แต่ลดขนาดตัวรถลงมา และถ้ากำลังจะถามถึงการกลับมาของรถรุ่น Lagonda ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวแว่วๆ ว่าจะกลับมาทำเป็นรุ่นใหม่อีกครั้ง บอกได้ตรงนี้เลยว่าโปรเจ็กต์นั้นถูกพับเก็บเข้าลิ้นชักไปแล้ว

ซึ่งทางผู้บริหารมองว่ามันไม่น่าจะเป็นรถที่ขายดี ด้วยความเป็นรถซีดานหรูที่ทุกวันนี้ความนิยมรถประเภทนี้ก็ลดลงไปเรื่อยๆ และที่สำคัญทาง Aston Martin อยากย้ำว่าพวกเขาคือผู้สร้างรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่างแท้จริง ซึ่งก็จะย้อนกลับมาอย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่า จะมีการเพิ่มรุ่นย่อยในโมเดลรถสปอร์ตของทางค่ายเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ซึ่งเราเดาว่าคุณ Hallmark น่าจะเอาแนวคิดและวิธีการเดียวกับตอนที่เขาเคยอยู่กับ Porsche มาใช้กับแบรนด์รถสปอร์ตอังกฤษอย่าง Aston Martin

โดยทางคุณ Hallmark ย้ำว่า เขาไม่เคยมีความคิดจะทำให้ Vantage เป็นรถที่หรูหราขึ้น มันผิดคอนเซ็ปต์ รวมถึง Vanquish ที่ตอนนี้ใช้เครื่องยนต์ V12 825 แรงม้า เราก็จะยังคงพัฒนาเพิ่มสมรรถนะให้มันต่อไป และที่สำคัญด้วยไอเดียของการสร้างรถขึ้นมาเสมือนรถแข่งที่สามารถตีทะเบียนเอามาขับบนถนนทั่วไปได้ ในรุ่นย่อยของรถเหล่านั้นก็จะมีทางเลือกที่เป็นเกียร์ธรรมดาด้วย! ที่เหลือก็จะเป็นทางเลือกออปชั่นที่มีให้ลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิม เท่าที่รู้ตอนนี้ก็มีล้อคาร์บอนไฟเบอร์ ชุดท่อไอเสียไทเทเนียม ชุดเครื่องเสียงที่มีให้เลือกมากกว่าเดิม
Photo credit: https://luxebook.in/the-new-aston-martin-dbx707-the-supercar-of-suvs/ https://www.vegasautogallery.com/used-vehicle-2024-aston-martin-db12-c-4163/