GWM (Thailand) พร้อมยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงาน มุ่งหน้าสร้างเครือข่ายพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จัดงาน GWM Partner Meeting 2025 โดยมีเครือข่ายพาร์ทเนอร์กว่า 67 แห่ง เข้าร่วมงานอย่างคับคั่งจากทั่วประเทศ พร้อมประกาศแผนกลยุทธ์เพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินธุรกิจร่วมกันกับ 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างการรับรู้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ ความร่วมมือระหว่าง GWM x Partner และการสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า หรือ CEM (Customer Experience Management) นอกจากนี้ ยังประกาศแต่งตั้ง GWM Partner Council ชุดใหม่ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศและขยายโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

ในงาน GWM Partner Meeting 2025 ในครั้งนี้ มุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจของ GWM ในประเทศไทยอย่างแข็งแกร่ง ผ่านการให้ความสำคัญกับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จของแบรนด์ในตลาดรถยนต์ไทย ล่าสุด GWM ได้ประกาศ 4 กลยุทธ์หลักที่ควบคู่ไปกับแนวคิด GWM Go With More และ “การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ” (Great Teamwork with a Service Mind) จะช่วยยกระดับการทำงานร่วมกันระหว่าง GWM และ พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทุกแห่ง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกว่า เหนือกว่า และประทับใจยิ่งกว่าให้กับลูกค้าในทุกมิติ ตั้งแต่กระบวนการขายไปจนถึงการบริการหลังการขาย โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าที่มากกว่า เพื่อเคียงข้างลูกค้าตลอดการใช้งานนวัตกรรมทุกรุ่นของ GWM นอกจากนี้ พาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วมงานยังได้รับโอกาสพิเศษในการสัมผัสและทำความรู้จักกับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เตรียมเปิดตัวภายในครึ่งปีแรกก่อนใคร พร้อมทั้งร่วมทดสอบสมรรถนะของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้เข้าร่วมงาน ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นและดีไซน์อันแข็งแกร่ง ทำให้พาร์ทเนอร์เห็นถึงศักยภาพและโอกาสทางการขายที่สามารถขยายตลาดได้อย่างครอบคลุม รองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มที่หลากหลาย และช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในตลาดเมืองไทยมากยิ่งขึ้น

4 กลยุทธ์หลัก กุญแจสำคัญที่นำพา GWM สู่ความสำเร็จ
ในปี 2025 นี้ GWM ได้กำหนด 4 กลยุทธ์สำคัญ ที่จะเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจไปข้างหน้า ไม่เพียงแต่เสริมสร้างศักยภาพของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับพาร์ทเนอร์และลูกค้า เพื่อรองรับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อเป้าหมายเดียวคือ ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ล้ำหน้ากว่า ดีกว่า มากกว่า ในทุกมิติ

กลยุทธ์ที่ 1 “พัฒนาผลิตภัณฑ์”: เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ยานยนต์ที่มีความเปลี่ยนแปลงสูง GWM ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยจากการรับฟังเสียงของผู้บริโภคและพาร์ทเนอร์ ในปีนี้ GWM จะมีการนำผลิตภัณฑ์ใหม่มากมายเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยในหลากหลายเครื่องยนต์ หลากหลายประเภท และหลากหลายเซกเมนต์ เพื่อขยายตลาดและเพิ่มโอกาสทางการขายให้กับพาร์ทเนอร์ และยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ล่าสุด GWM เตรียมปล่อย NEW GWM TANK 300 DIESEL รถเอสยูวีออฟโรดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนใหม่ ที่จะฉีกกฎเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิม ๆ พร้อมมอบความมั่นใจในคุณภาพด้วยการรับประกันเครื่องยนต์ดีเซลถึง 1,000,000 กิโลเมตร (8 ปี) ในขณะที่ ALL NEW GWM HAVAL H6 รถเอสยูวีของครอบครัวรุ่นใหม่ มีการพัฒนาครั้งใหญ่ในรอบ 4 ปี จากการรับฟังเสียงของผู้บริโภค ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ภายใน หน้าจอ infotainment ที่ใหญ่ขึ้น UX & UI ใหม่ทั้งหมด ใช้ Coffee OS 3.0 ระบบแผนที่ของ Huawei กล้อง 540 องศา พวงมาลัยและคันเกียร์ การเซ็ตระบบช่วงล่างใหม่ (รุ่น HEV) และระบบเสียง ล้วนได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับประสบการณ์ให้ดีขึ้น

กลยุทธ์ที่ 2 “การสร้างการรับรู้แบรนด์”: GWM จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการทำกิจกรรมทางการตลาดและสร้างการรับรู้แบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ โดยเสริมสร้างกลยุทธ์การสื่อสารที่ตอบโจทย์ Customer Journey ทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ โดยทั้งหมดนี้จะอยู่ภายใต้ “ONE GWM” และ Go With More กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของ GWM ในระดับโลก ที่มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าและเหนือกว่าในทุก ๆ ด้านอย่างครอบคลุม รวมถึงการร่วมมือกันการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของ GWM ในประเทศไทย

กลยุทธ์ที่ 3 “ความร่วมมือระหว่าง GWM x Partner”: GWM มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทุกรายอย่างใกล้ชิด เพื่อขยายเครือข่ายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเน้นกลยุทธ์การทำตลาดที่เข้มข้นและเจาะลึก นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้ง GWM Partner Council ซึ่งเป็นการสร้างพื้นที่ให้พาร์ทเนอร์ทุกรายทั่วประเทศได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางธุรกิจร่วมกัน โดยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากพาร์ทเนอร์ ช่วยให้การตัดสินใจด้านกลยุทธ์และแผนงานต่าง ๆ เป็นไปอย่างรอบคอบและมีความหลากหลาย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยในการเติบโตของ GWM แต่ยังช่วยส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์มีการพัฒนาร่วมกันในทุก ๆ ด้าน ทั้งการขาย การบริการลูกค้า และการทำงานภายในองค์กร เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคง แข็งแกร่ง และยั่งยืน

กลยุทธ์ที่ 4 “การสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า หรือ CEM (Customer Experience Management)”: GWM ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า โดยการมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าและเหนือกว่าในทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ไม่เพียงแต่ตรงตามความต้องการ แต่ยังเกินความคาดหวังในทุกขั้นตอนของการมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านบริการหลังการขายที่มีคุณภาพสูงและการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว เน้นการดูแลลูกค้าหลังจากที่ซื้อผลิตภัณฑ์แล้ว โดยการให้บริการที่มีคุณภาพและครบวงจร ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้กับลูกค้าหลังจากการซื้อ เพื่อสร้างฐานลูกค้าประจำที่ไม่เพียงแต่ซื้อรถยนต์จาก GWM แต่ยังกลับมาใช้บริการในอนาคต ทั้งด้านการให้บริการที่มีคุณภาพ การพัฒนาทักษะช่างเทคนิค การบริหารจัดการอะไหล่ โดย GWM จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าทุกราย เพื่อสร้างความยั่งยืนในธุรกิจและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง





