เอาจริงๆ ผมเป็นคนที่เรียนหลักสูตรขับรถมามากพอสมควร ทั้งหลักสูตรในประเทศและต่างประเทศ แต่ครั้งนี้ได้มีโอกาสมาเข้าเรียนคอร์ส Skill Driving Experience หลักสูตร Advance ที่จัดขึ้นโดยสื่อสากล หรือที่เรารู้จักกันในนามของผู้จัดงาน Motor Expo บอกได้เลยว่าหลักสูตรนี้คือดีมากๆ ซึ่งเค้าได้รวบการเรียนการฝึกทุกอย่างให้อยู่ในวันเดียว ทั้งได้เรียนรู้ทักษะการขับขี่ขั้นสูง ได้ฝึกไหวพริบการสังเกต และจับอาการของรถที่ผิดปกติ รวมถึงได้เพิ่มทักษะการขับรถที่ไม่ใช่การขับรถแบบธรรมดา
เกริ่นหัวเรื่องมาขนาดนี้ชักอยากรู้แล้วใช่มะล่ะครับ ว่าหลักสูตรนี้ มันน่าเรียนขนาดไหน ผมขออนุญาตไม่รอช้าที่จะพาทุกท่านไปรู้จักกับหลักสูตรนี้ ซึ่งผมขอแนะนำเลยครับว่าอยากให้ทุกคนได้มาเรียนกัน เพราะหลักสูตรเค้าทั้งสนุก และที่สำคัญทำให้เราขับรถในชีวิตประจำวันได้ปลอดภัยมากขึ้นด้วยครับ
การเรียนหลักสูตรนี้ คนที่เรียนไม่ต้องนำรถส่วนตัวมา แต่ทางหลักสูตรเค้ามีรถเตรียมไว้ให้ โดยจะเป็นรถรุ่นใหม่ ทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์, บีเอ็มดับเบิลยู, อาวดี้ และซูบารุ หลักสูตรจะเริ่มต้นด้วยการเรียนทฤษฎีต่างๆ ซึ่งทบทวนเบสิคตั้งแต่ท่านั่ง การจับและหมุนพวงมาลัย ไลน์การขับขี่ การควบคุมรถเวลาอันเดอร์สเตียร์ โอเวอร์สเตียร์ ว่าต้องทำอย่างไร เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่แบบฝึกหัดตามสถานีต่างๆ
สถานีเบรกในโค้งความเร็วสูง
สถานีนี้จะใช้รถซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ในการฝึก ซึ่งผู้ฝึกสอนจะให้เราขับรถเข้าโค้งด้วยความเร็ว แล้วมีสถานการณ์ว่าในช่วงที่เข้าโค้งมาแล้ว เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น มีรถจอดเสียอยู่ หรือมีกองวัตถุที่วางขวางอยู่ในทาง แล้วเราต้องเบรกกะทันหันอย่างรุนแรง ซึ่งแบบฝึกนี้จะทำให้เรารู้ว่า ทำอย่างไร เพื่อให้ระยะเบรกสั้นที่สุด และรถไม่เสียการทรงตัว โดยวิธีการก็คือ ให้เราเบรกเต็มแรง แต่ในช่วงแรกที่เราเบรกนั้น จะเป็นช่วงที่รถเข้าโค้งอยู่องศาของล้อจะถูกหักเลี้ยว โดยหากเบรกหนักๆ แล้วล้อยังมีองศาเลี้ยวอยู่รถจะมีอาการอันเดอร์สเตียร์ เพราะยางรถยนต์มันถูกออกแบบมาให้เบรกได้ดีที่สุด ในองศาล้อที่ตรง เพราะฉะนั้นช่วงแรกที่เบรกหนักๆ จะต้องคืนล้อช่วยนิดนึงก่อน ก่อนจะค่อยๆ หักองศาพวงมาลัยเพิ่ม เพียงเท่านี้ ระยะเบรกก็จะสั้นลง และตัวรถไม่เสียการทรงตัว
สถานี Lane Change 2 จังหวะ ที่ความเร็วสูง
สถานีนี้จะใช้รถยนต์อาวดี้ ในการฝึก โดยจะเป็นการฝึกการมองเส้นทางเพื่อจะเอาตัวรอดจากสิ่งกีดขวางที่อาจจะร่วงลงมาจากรถคันหน้า แล้วเราต้องหักหลบกะทันหัน แถมเมื่อหลบจังหวะแรกแล้ว ยังมาเจอรถหรือวัตถุอีกสิ่งที่ขวางอยู่ จึงจำเป็นต้องมองเส้นทางการหลบหลีก รวมถึงฝึกการเบรกแบบ Full Brake เพื่อให้รถลดความเร็วลงอย่างรวดเร็วที่สุด พร้อมทั้งบังคับพวงมาลัย ไปตามเส้นทางที่สายตาเรามอง
สถานี Gymkhana
สถานีนี้จะใช้รถซูบารุ ฟอเรสเตอร์ อีกครั้งในการฝึก ซึ่งการฝึกแบบจิมคาน่านั้น จะเป็นการฝึกหาความเร็วที่เหมาะสมของรถในการเข้าโค้งแบบต่างๆ และเพื่อเป็นการแอดวานซ์ ในสถานนี้รถคันที่นำมาให้ฝึกได้ถูกเปลี่ยนยางเป็นยางที่ลื่นไม่เกาะถนน ทำให้ผู้ฝึกต้องรู้จักสังเกต และปรับตัวเข้ากับรถให้ไวนั่นเอง
สถานีจับเวลาแบบ Time Section
สถานีนี้จะใช้รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการฝึก ซึ่งก็อีกนั่นแหล่ะ ทางผู้ฝึกได้เปลี่ยนมาใข้ยางที่ไม่มีดอกยาก หรือดอกยางหมดสภาพ เพื่อให้ผู้เข้าเรียนได้รู้จักสังเกตรอบๆ ตัวรถก่อนขับ รวมถึงเมื่อขับแล้วจะต้องจับอาการของรถให้ได้ว่ามันไม่ปกติ เพื่อที่จะขับรถอย่างรวดเร็วได้อย่างปลอดภัย
สถานี Oversteer และ Drift
สถานีนี้จะใช้รถบีเอ็มดับเบิลยู ในการฝึก ซึ่งสถานีนี้จะเป็นการฝึกให้รู้จักว่าเมื่อรถ Oversteer หรือท้ายปัด จะต้องแก้อย่างไร แต่เมื่อมาเรียนหลักสูตรแอดวานซ์แล้ว จะมาเรียนแต่แก้อาการ Oversteer แค่นั้นจะไปมันอะไร สถานีนี้เลยเพิ่มทักษะการขับรถดริฟท์เข้าไปให้ได้เรียนกันด้วย
สถานี J-Turn
สถานีนี้จะกลับมาใช้รถบีเอ็มดับเบิลยูอีกครั้งในการฝึก ซึ่งเอาจริงๆ สถานีนี้แทบจะเป็นสถานีที่ไม่ค่อยได้ใช้ได้เจอในชีวิตประจำวันเท่าไหร่ แต่เมื่อเป็นหลักสูตรแอดวานซ์ว่าหากเกิดสถานการณ์ต้องหนีคนร้ายโดยต้องถอยหลังแล้วกลับรถในที่แคบแบบกะทันหันจะต้องทำอย่างไร ซึ่งอันนี้ผมขออุบไว้ไม่บอกทริคในการทำ เพราะอยากให้ทุกคนได้ไปเรียนไปฝึกไปเข้าคอร์สกับ Skill Driving Experience by สื่อสากล
โดยหากใครสนใจสามารถติดต่อสอบถามหรือจองคอร์สการเรียนได้ที่ 0-2055-8444 ต่อ 436 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://skilldriving.imc.co.th/ อย่างที่บอกไปตอนต้นล่ะครับ ว่าคอร์สเรียนเค้าดีจริงๆ สำหรับใครที่อยากได้ความรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการขับรถให้ปลอดภัย ผมบอกเลยว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
