เป็นการไมเนอร์เชนจ์แบบเล็กๆ สำหรับพีพีวีสายพันธุ์สปอร์ต อย่าง New Toyota Fortuner GR-Sport ที่ครั้งนี้ได้ปรับจูนใหม่ทั้งช่วงล่าง และขุมกำลัง รวมไปถึงมีการเพิ่มความสะดวกสบาย และระบบความปลอดภัย ภายใต้ค่าตัว 1,939,000 บาท
New Fortuner GR-Sport รูปร่างหน้าตาแทบไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ยังคงดีไซน์สปอร์ต ด้วยชุดแต่ง GR-Sport เต็มคัน ไล่เรียงไปตั้งแต่ภายนอก กับชุดสเกิร์ต GR-Sport รอบคัน ดูโดดเด่นด้วยตัวถังแบบทูโทน โดยตั้งแต่กระจกมองข้าง ขึ้นไปถึงหลังคาจะเป็นสีดำ ด้านข้างเน้นความเข้มด้วยบันไดข้างสีดำ บวกกับล้อแม็กซ์สีดำเข้ม ขนาด 20 นิ้ว กับยางไซส์ 265/50 R20 ซึ่งหากมองทะลุไปข้างในจะเห็นคาลิปเปอร์สีแดงของ GR-Sport ที่มีการปรับจูนเบรกให้หนึบมากขึ้น ส่วนด้านหลังใต้กันชนจะมาพร้อมปลายท่อไอเสียทรงสปอร์ตที่กดปลายลงพื้น ประทับโลโก้ Fortuner สวยเด่นเป็นสง่า และที่ลืมไมได้กับโลโก้ GR-Sport ที่ติดมาให้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ขยับมาที่ภายในมากับการตกแต่งโทนสีดำขลิบด้ายแดง โดยวัสดุที่ใช้ในห้องโดยสารจะเป็นการผสมกันระหว่างหนัง 2 ชนิด ให้ดูมีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น คันเร่ง และเบรก เป็นแป้นแบบอะลูมิเนียมทรงสปอร์ตสปอร์ต โดยในส่วนของเบาะนั่งด้านหน้า พวงมาลัย ปุ่ม Push Start พรมปูพื้น และหน้าจอเรือนไมล์ จะมีโลโก้ GR-Sport ประทับไว้ ให้รู้ว่าข้านี่คือสายพันธุ์ GR-Sport
พร้อมกันนี้ใน New Fortuner GR-Sport เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย อีกทั้งยังมีระบบช่วยเตือนลมยาง TPMS ซึ่งระบบนี้ขออนุญาตอธิบายซักนิดนึง เพราะมันไม่แสดงค่าลมยางตลอดเวลา แต่มันจะเตือนเมื่อลมยางล้อไหนอ่อน ก็จะเตือนขึ้นมาที่หน้าจอให้รับรู้เท่านั้นเอง
มาถึงเรื่องสมรรถนะที่ถือเป็นจุดเด่นของรถคันนี้ทั้งช่วงล่าง และขุมพลัง เอาเป็นว่าขอกล่าวถึงขุมพลังก่อนก็แล้วกัน เพราะมันขับแล้วประทับใจมากๆ กับเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ปรับจูนใหม่ ให้มีกำลังสูงถึง 224 แรงม้า เพิ่มขึ้น 20 แรงม้า ขณะที่แรงบิดก็เพิ่มเป็น 550 นิวตันเมตร เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขุมพลังที่แรงสุดของรถกลุ่มนี้แล้ว
ฟิลลิ่งการขับต้องบอกว่าเร้าใจกว่า Fortuner GR-Sport ตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัด คันเร่งตอบสนองดีมาก กดเป็นมากเรียกได้ว่าติดเท่าเอาเรื่อง และที่สำคัญช่วงต่อของแต่ละเกียร์กระชับขึ้นอย่างรู้สึกได้ ซึ่งทำให้สามารถทำอัตราเร่งได้ดี แต่อาจจะรู้สึกกระชากขึ้นกว่าเดิมหน่อยช่วงรอยต่อของเกียร์ ซึ่งทางคนพัฒนาโมเดลนี้ เค้าบอกต้องการให้เป็นบุคลิกที่ขับสนุก สไตล์คล้ายๆ กับรถแข่งประมาณนั้น
มาต่อกันที่ช่วงล่างและการควบคุม สำหรับ New Fortuner GR-Sport ได้มีการปรับช่วงล่างใหม่ ให้สปอร์ตหนึบหนับ แต่นุ่มนวลขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมงานได้มีโอกาสไปทดลองในสนาม (ตามคลิป (12) ลองขับ FORTUNER 3 รุ่นใหม่ ต่างกันอย่างไร…? – YouTube) บอกเลยว่าเจ้า New Fortuner GR-Sport ช่วงล่างที่เป็นแบบ Monotube มันดีมาก เกาะถนน อาการโยนถือว่าน้อยมากหากเทียบกับรถสไตล์นี้ที่มีตัวถังค่อนข้างสูง แต่ครั้งนั้น เรายังไม่มีโอกาสลองการขับแบบบนถนนใช้งานจริง เพราะกลัวจะเหมือนกับรุ่นที่แล้ว ที่ช่วงล่างสปอร์ตจริง แต่ขับบนถนนทั่วไปแล้ว มันดูจะสปอร์ตเกิน จนทำให้นั่งไม่สบาย แต่สำหรับช่วงล่างตัวนี้ บอกเลยว่าดีกว่าเดิมมาก ฟิลสปอร์ตหนึบยังคงอยู่ แถมได้ฟิลความนุ่มนวลเติมเข้ามาให้อีกต่างหาก จนต้องยกนิ้วให้กับการเซ็ตอัพช่วงล่างของเจ้า New Fortuner GR-Sport ครั้งนี้
ในขณะที่พวงมาลัย ไม่ต้องไปหวังว่าจะมากับพวงมาลัยไฟฟ้า EPS แต่ตัวนี้ยังคงเป็นแบบไฮดรอลิกที่มีการปรับน้ำหนักแปรผันตามความเร็ว ซึ่งบอกตามตรงว่าน้ำหนักพวงมาลัยยังรู้สึกแอบหนักอยู่ หากวิ่งความเร็วช้าๆ ช่วงในเมือง รวมถึงเวลาถอยจอด แต่เมื่ออยู่ในย่านความเร็วสูง น้ำหนักถือว่ากำลังดี อีกทั้งในตัว GR-Sport ด้านหลังของพวงมาลัยมีแป้นเปลี่ยนเกียร์มาให้ด้วย ช่วยให้ขับได้อย่างสนุกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ปิดท้ายด้วยระบบความปลอดภัย New Fortuner GR-Sport มากับ Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยก่อนการชน –ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ และระบบควบคุม พร้อมปรับรถความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งต้องบอกว่ารถยุคนี้จะขาดระบบพวกนี้ไม่ได้เป็นอันขาด ไม่งั้นบอกเลย Out สุดๆ
สรุปปิดท้ายกับค่าตัว สำหรับ New FORTUNER GR-Sport 2.8 GR Sport เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เปิดมา 1,939,000 บาท แต่สำหรับสี Emotional Red Black Top และสี Platinum White Pearl Black Top เพิ่ม 20,000 บาท หลายคนอาจจะบอกว่าราคาแรงไปนิด เพราะอีกนิดเดียวก็ 2 ล้านบาทแล้ว แต่เชื่อสิ!! สำหรับ Toyota Fortuner เปิดมาราคาไหน ก็มีคนซื้อหมด … เชื่อกันมั้ยล่ะ!!
