Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition พีพีวีรุ่นตกแต่งพิเศษที่มากับราคาค่าตัว 1.633 ล้านบาท โดยเป็นการยกระดับความหรูหราสไตล์สปอร์ต ที่โดดเด่นกว่ารุ่นมาตรฐานทั้งภายนอก – ภายใน และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย
โดยหากไล่เรียงภายนอกกับสิ่งที่ติดตั้งมาให้เพิ่มในรุ่น Elite Edition ก็จะมีทั้งกระจังหน้ารถสีดำ พร้อมโลโก้ PAJERO SPORT บนฝากระโปรงหน้า ชุดตกแต่งสีดำใต้กันชนหน้า และหลังสีดำ หลังคารวมถึงสปอยเลอร์หลัง เสาอากาศครีบฉลามสีดำ ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ลายสปอร์ตสีดำ โลโก้ ELITE EDITION ที่ประตูท้าย ปิดท้ายด้วยปลายท่อไอเสียสเตนเลส
ส่วนภายในห้องโดยสารก็ได้รับการตกแต่งพิเศษที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานไม่ว่าจะเป็น เบาะนั่งสีน้ำตาล QUOLE MODURE ซึ่งเป็นหนังช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดด โดยคู่หน้าเป็นแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง แผงข้างประตูและคอนโซลกลางบุด้วยวัสดุนุ่มสีน้ำตาล โลโก้ PAJERO SPORT ที่คอนโซลหน้าเหนือกล่องเก็บของด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร ฝาครอบสเตนเลสพร้อมไฟ LED ที่มีโลโก้PAJERO SPORT ที่ชายล่างประตู รวมไปถึงยังมีกล้องบันทึกภาพหน้ารถ ระบบปรับอากาศ แบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ แบบแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารนาโนอิ
ด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อผ่านจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ รองรับเมนูภาษาไทย พร้อมเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลจากหน้าจอระบบสัมผัส SDA และ Apple CarPlay และสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ โดยผู้โดยสารตอนหลังมีจอภาพแบบ Wide Screen ขนาด 12.1 นิ้ว บนเพดาน มาพร้อมรีโมทคอนโทรล และหูฟังอินฟาเรด รองรับการเชื่อมต่อ HDMI และ USB
มาถึงขุมพลังที่ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม เพราะยังคงเป็นเครื่องยนต์ดีเซล MIVEC Clean-Diesel ความจุ 2.4 ลิตร VG Turbo ให้พละกำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20
ส่วนจุดที่ผมให้ความสำคัญสำหรับรถคันนี้คือเรื่องของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II ที่สามารถปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจาก 2 ล้อ (2H) เป็น 4 ล้อ (4H) ได้เลยในขณะขับขี่ เพราะเป็นการทำงานแบบ Shift on the Fly โดยโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อนั้น จะเป็นการทำงานแบบ Full-Time All Wheel Control ซึ่งอยากลุยออฟโรดแบบจริงจัง ก็สามารถเลือกปรับจาก 4H ไปเป็น 4HLc ได้อีก ซึ่งระบบจะมีการปรับจูนการส่งกำลังของเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 อย่างอัจฉริยะ รวมไปถึงการปรับอัตราทดของเกียร์ใหม่ เพื่อให้เหมาะกับลักษณะการขับขี่ที่ลุยได้มากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากเส้นทางการลุยของคุณมันถึงขั้นต้องใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อขั้นสูงสุด ก็ยังสามารถเลือกปรับไปเป็น 4LLc ได้ แถมยังมี Diff Lock ไฟฟ้าที่เพลาหลังให้กดใช้งาน และยังมีโหมดการขับขี่ที่สามารถเลือกปรับให้เหมาะกับพื้นผิวถนนได้ 4 รูปแบบ Gravel, Mud/Snow, Sand และ Rock
ด้านระบบความปลอดภัยมีให้ทั้ง กล้องมองภาพรอบคัน 4 ตำแหน่ง พร้อมการประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird’s Eye View, Adaptive Cruise Contro,l ระบบเตือนการชนด้านหน้า พร้อมช่วยชะลอความเร็ว (FCM), ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง และรวดเร็ว (UMS), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวพร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล (ASTC), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
สำหรับสมรรถนะการขับขี่โดยรวมของ Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition ในเรื่องพละกำลัง ความแรงถือว่าไม่ได้เป็นตัวตึงหากเทียบกับคู่แข่ง แต่การใช้งานจะเป็นแบบเพียงพอ ไม่แรง แต่ก็ไม่อืด ฟิลจะเป็นแบบอัตราเร่งค่อยๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ แบบสมูทๆ ซึ่งจะทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่มีการวางอัตราทดเกียร์ช่วยเสริมอัตราเร่งในช่วงต้น ดังนั้นฟิลของเกียร์ชุดนี้เวลาออกตัวจะค่อนข้างปรู๊ดปราดหน่อย หากต้องการออกตัวให้นุ่มนวล ก็ต้องคุมคันเร่งที่เท้าหน่อย ส่วนจังหวะ Kick Down มีต้องรอเทอร์โบบูสต์ ซักเล็กน้อย แต่ถ้าเริ่มคุ้นชิน ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร
ในเรื่องของระบบช่วงล่าง ถือว่าเซ็ทมาได้ค่อนข้างลงตัวดี ตามสไตล์ของรถที่วางกระดองลงบนแชสซีย์ ฟิลนั่งก็จะออกไปในแนวสปอร์ตที่ขับความเร็วสูงได้มั่นใจ ส่วนขับในเมืองอาจจะรู้สึกว่าความนุ่มนวลน้อยไปนิด แต่ก็ไม่ติดถึงขนาดว่ากระด้างสะเทือนจนเกินรับไหว ด้านพวงมาลัยตรงนี้ยังเป็นจุดที่ยังสู้คู่แข่งเจ้าของสโลแกนดุดันไม่เกรงใจใครไม่ได้ เพราะยังเป็นแบบแร็คแอนด์พิเนียนพร้อมพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง แต่เรื่องของน้ำหนักยังดูว่าหนักมือไปนิด ผู้ชายขับอาจไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่หากเป็นผู้หญิงอาจจะรู้สึกว่าหนักมือไปนิด
ตัดจบสำหรับรถคันนี้ต้องบอกว่า แม้จะเป็นรถที่อยู่ในช่วงปลายโมเดล เพราะกระบะของค่ายอย่าง Triton เพิ่งเปิดตัวไป หลายคนอาจจะคิดว่าอีกไม่นาน คงถึงคิวของเจ้า Pajero Sport แต่เท่าที่รู้มา โมเดลให้ของ Pajero Sport ไม่ได้มาในปีนี้แน่ๆ อย่างเร็วสุดก็อาจเป็นช่วงต้นไตรมาส 2 ของปีหน้า เพราะฉะนั้น หากใครกำลังมองเจ้า Mitsubishi Pajero Sport แล้วสามารถรอถึงปีหน้าได้ ก็รอ!! แต่ถ้ารอไม่ได้ ผมว่าก็ไม่ต้องรอให้เสียเวลา จัดตัว Mitsubishi Pajero Sport Elite Editionที่ผมรีวิวคันนี้เลย ก็อย่างที่รู้รถปลายโมเดล ออปชั่นก็จะมาล้นๆ แบบนี้แหล่ะครับ
