ค่ายโตโยต้ายังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจในประเทศไทย แม้สถานการณ์และแนวโน้มของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะมีปัจจัยลบหลายด้าน และถูกท้าท้ายอย่างรุนแรงจากโลกยานยนต์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง โดยเชื่อมั่นว่าตลาดในปีหน้าจะดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัวรถปิกอัพรุ่นใหม่ Hilux Travo จะแรงขับเคลื่อนหลัก

โตโยต้าเน้นย้ำถึงความสำคัญของการ รักษาห่วงโซ่อุปทานและการผลิตภายในประเทศ เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์มีส่วนสำคัญต่อ GDP และการจ้างงานของไทย เรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนตลาดโดยรวม ปกป้องการผลิตภายใน และส่งเสริมการส่งออก รวมถึงเร่งแก้ปัญหา ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีผลต่อการขนส่งสินค้า เพื่อรับมือกับการแข่งขันสูงที่สูงขึ้น

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และคณะผู้บริหารระดับสูง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ให้สัมภาษณ์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์ ซึ่งปีนี้จัดเต็ม รวมถึงเป้าหมายในการทำตลาดที่จะยึด 3 เสาหลักเป็นตัวกำหนดทิศทางในอนาคตไว้อย่างน่าสนใจ

จัดเต็มกระหึ่มมอเตอร์ เอ็กซ์โป
บูธโตโยต้าในงาน Motor Expo 2025 เที่ยวนี้จัดภายใต้แนวคิด Move your world จัดแสดงรถยนต์โตโยต้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ นำโดยรถกระบะมหาชนรุ่นใหม่ “HILUX TRAVO” เสริมทัพด้วยรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ทั้ง “HILUX TRAVO-e” และ “bZ4X” ตอกย้ำความเป็นผู้นำ HEV ด้วยรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ “YARIS CROSS NIGHTSHADE EDITION”, “NEW YARIS ATIV HEV” และ “INNOVA ZENIX” เติมเต็มไลน์อัพผู้นำตัวจริงในตลาด PPV ด้วย “FORTUNER LEADER G+” และการกลับมาของตำนานรถแข่ง “GR86” รุ่นใหม่ รถทุกรุ่นมาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ “ดีลตอบจบ ครบทุกความต้องการ” และแคมเปญส่งท้ายปี “โตโยต้า อาริกาโตะ”

การจัดงานครั้งนี้ประเทศไทยมาพร้อมเหตุการณ์สะเทือนใจกับปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ โตโยต้าขอแสดงความห่วงใยจากใจต่อพี่น้องชาวไทยทุกคน ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั่วประเทศ ช่วงที่ผ่านมา โตโยต้าจัดส่งคาราวานเพื่อให้การช่วยเหลือและสนับสนุนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมผ่านมูลนิธิโตโยต้า และในวันนี้โตโยต้ายังได้ส่งคาราวานช่วยเหลือชุดใหม่ไปยังชุมชนในพื้นที่ภาคใต้ พวกเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ได้รับผลกระทบ และขอให้ทุกท่านปลอดภัย

นอกจากนี้ โตโยต้าขอบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษารถยนต์ ด้วยบริการตรวจเช็กสภาพรถฟรี 30 รายการ พร้อมสิทธิประโยชน์ส่วนลดค่าอะไหล่ 30% สำหรับงานซ่อมทั่วไปและเคมีภัณฑ์ และส่วนลดค่าอะไหล่ 50% สำหรับกลุ่มพรมปูพื้นและพรมซับเสียงรถยนต์ และสำหรับลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ประกันภัย TOYOTA CARE และ TOYOTA CARE PHYD ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ความร่วมมือกับบริษัทประกันภัยชั้นนำทั้ง 7 แห่ง สามารถนำรถเข้ารับบริการซ่อมเคลมประกันได้ที่ศูนย์ซ่อมตัวถังและสีโตโยต้าทุกแห่งทั่วประเทศ
คาดการณ์การปีหน้าฟื้นตัว
โตโยต้าขอยืนยันว่า ยังคงลงทุนต่อเนื่องในประเทศไทย พร้อมมีส่วนร่วมส่งเสริมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยผ่านการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยโตโยต้าได้แนะนำรถรุ่นใหม่หลายรุ่นที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนอันหลากหลาย แม้ตลาดรถยนต์ไทยในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ยากลำบากพอสมควร ทุกๆ เซ็กเมนต์ มีสภาวะที่ค่อนข้างลำบาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มียอดชายประมาณ 570,000 คัน ยอดขายล่าสุดลดลงไปกว่า 26% ตลาดรถปิกอัพซึ่งถือเป็น Champion Product ของประเทศไทย ก็อยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างจะลำบาก

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมีทั้งที่เป็นบวกและลบ โดยปัจจัยลบ ได้แก่ ปัญหาความเสี่ยงทางการเมืองในระดับโลกและการขึ้นภาษีต่างๆ ตลาดยังต้องรับมือกับ กฎของภาษีใหม่ ที่จะมีการปรับเปลี่ยนไป ซึ่งการรับมือกับมาตรการภาษีที่เปลี่ยนไปไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อย่างไรก็ตามการรักษาสายโซ่อุปทาน ในประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการจัดการปัญหาด้านการผลิตโดยใช้ชิ้นส่วนในประเทศยังยากลำบาก

ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้การขนส่งทางบกข้ามชายแดนทำไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเออร์ในกัมพูชาที่ต้องเปลี่ยนไปใช้การขนส่งทางเรือแทน ซึ่งทำให้ใช้เวลานานขึ้นและมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมาก ปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเออร์หลายแห่งที่ตั้งอยู่ในภาคใต้ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อยอดขายในพื้นที่ เนื่องจากประชาชนประสบความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

แต่โดยรวมแล้ว เชื่อว่าตลาดในปีหน้าจะดีกว่าปีนี้อย่างแน่นอน ตลาดโดยรวมในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 4% โดยมีระดับยอดขายอยู่ที่ประมาณ 600,000 คัน ปีหน้าคาดว่าตลาดจะดีกว่าปีนี้คาดการณ์ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นประมาณ 6% เมื่อเทียบกับปีนี้ และยอดขายจะไม่ต่ำกว่า 630,000 คัน

ที่สำคัญมองเห็นการฟื้นตัวของตลาดรถปิกอัพ มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าตลาดปิกอัพจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ปัจจัยกระตุ้นหลักคือการเปิดตัว Hilux Travo ซึ่งมีลูกค้าที่รอซื้อรถรุ่นนี้อยู่ และคาดว่าจะเป็นตัวกระตุ้นยอดขายของโตโยต้าได้เป็นอย่างดี

ผลผลิตของโตโยต้าสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมรถยนต์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจไทย โดยมีส่วนสนับสนุน GDP ถึง 10% และมีการจ้างงานกว่า 900,000 คน ดังนั้นรัฐบาลต้องสนับสนุนไม่เพียงแต่กลุ่มปิกอัพ แต่รวมถึงทุกๆ เซ็กเมนต์ เพื่อปกป้องการผลิตและซัพพลายเชนในประเทศ ต้องเร่งส่งเสริมการส่งออก เราต้องการให้รัฐบาลปรับมาตรการต่างๆ เพื่อรองรับและส่งเสริมการส่งออกไปต่างประเทศ
ชู 3 กลยุทธ์หลัก
ในภาวะการแข่งขันที่รุนแรงและมีปัจจัยลบมาก 3 เสาหลักสำคัญที่จะมากำหนดทิศทางของโตโยต้า คือ 1. เร่งทำความเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า แม้จะไม่สามารถผลิตรถที่ลูกค้าชอบได้ทั้ง 100% แต่สิ่งสำคัญ คือการผลิตรถที่ลูกค้าชอบมากที่สุด

2. เสริมความแข็งแกร่งในการผลิตในประเทศ เรามุ่งมั่นที่จะปกป้องการผลิตรถในประเทศเป็นหลักให้ตวามสำคัญอย่างยิ่งต่อ การรักษา Supply Chain ในประเทศ
และ 3 สร้างความเชื่อมั่นผ่านเครือข่ายบริการ ขณะนี้เรามีเครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุม ทั่วประเทศซึ่งทำให้ลูกค้ามั่นใจและไว้วางใจในแบรนด์ ปัจจุบันโตโยต้า มี ดีลเลอร์ 150 แห่ง และมี ศูนย์บริการมากกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ

ขอย้ำว่าสิ่งที่โตโยต้าให้ความสำคัญมากที่สุดคือ การทำความเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า กลยุทธ์นี้ถูกนำไปใช้ตั้งแต่ขั้นตอนของการออกแบบ โดยมีการลงพื้นที่ไปสำรวจผู้คนที่เป็นผู้ใช้งานจริง เพื่อทำความเข้าใจว่าลูกค้าต้องการดีไซน์แบบไหน สเป็กแบบไหน และต้องการความสบายในการขับขี่อย่างไร จะเห็นว่า Hilux Travo เป็นตัวอย่างที่ดี
พร้อมบุกตลาด EV
โตโยต้าได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากรถยนต์รุ่น bZ4X โดยมีรายงานว่า มียอดจองเข้ามาถึง 2,000 คัน ภายในระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งบริษัทรู้สึกขอบคุณลูกค้าที่ให้ความสนใจและทำการจอง แม้ว่ายอดจองจะดี แต่เนื่องจากเพิ่งเปิดตัวมาได้เพียงเดือนเดียว โตโยต้าจึงยังไม่สามารถสรุปภาพรวมในอนาคตของตลาด EV ได้ และจะยังคงติดตามสถานการณ์ตลาด อย่างใกล้ชิด การพิจารณาการผลิต bZ4X ในไทย คงต้องดูจาก Demand ที่ชัดเจนและมากพอ โตโยต้าได้ เข้าร่วมและพร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในมาตรการ EV 3.5 ซึ่งมาตรการนี้รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับแพ็กเกจการสนับสนุนและการดำเนินการเรื่อง การผลิตชดเชยในประเทศ

นอกเหนือจากรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) โตโยต้ายังสนับสนุนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ ไฮบริด โดยเฉพาะการผลักดันให้มีการ ปรับเปลี่ยนเรื่องภาษีสรรพสามิต และการ ส่งเสริมให้มีการผลิต HV ในประเทศเพิ่มขึ้น













