ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคมปี 2022 Toyota ได้เผยโฉมรถต้นแบบของ C-HR เจเนอเรชั่นที่ 2 Prologue และตอนนี้ก็ถึงเวลาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จะเห็นได้ชัดเจนเรื่องการออกแบบที่แตกต่างกัน แต่ไม่เสียความเป็น C-HR ที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นที่นิยมในกลุ่มรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก สำหรับ เจเนอเรชั่นที่ 2 ได้รับการพัฒนาและออกแบบทางวิศวกรรมในยุโรปซึ่งจะมีการผลิตที่นี่ด้วยเช่นกัน
อย่างที่เห็น Toyota C-HR MY2024 มีรูปลักษณ์แบบ “Super Coupe” ตั้งอยู่บนล้อขนาด 20 นิ้ว พร้อมกับสีภายนอกเป็นสีทูโทน Toyota มีการปรับเส้นสายของตัวรถให้ดูนุ่มนวลขึ้น ปรับเทคโนโลยีของกล้อง เซ็นเซอร์ต่างๆ รวมไปถึงปรับปรุงระบบล้างไฟหน้าให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับแอโรไดนามิกที่ดีขึ้น ในแง่ของขนาด โมเดลใหม่นี้มีความยาว 4360 มม. กว้าง 1830 มม. และสูง 1558 มม. หรือ 1564 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่น
ก้าวเข้าไปในห้องโดยสารด้วยระยะฐานล้อ 2640 มม. แผงหน้าปัดดิจิตอลเต็มรูปแบบขนาด 12.3 นิ้วที่เชื่อมต่อกับหน้าจอสัมผัสขนาดเดียวกัน ในบางรุ่นยังได้รับ Head-up display พร้อมไฟ 64 สี ,หลังคาแบบพาโนรามา และระบบเสียง JBL แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ตรงที่ Toyota ไม่พร้อมที่จะเลิกใช้ปุ่มสำหรับฟังก์ชั่นที่ใช้งานบ่อย ๆ แม้ว่าหน้าจอจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามรถยนต์รุ่นใหม่แต่ละรุ่นก็ตาม การเน้นสีแดงและตรา GR เป็นของ GR Sport Premiere Edition ใหม่พร้อมสัมผัสแบบสปอร์ตทั้งภายในและภายนอก
ตามที่คาดไว้ C-HR ใหม่ จะวางจำหน่ายเฉพาะในยุโรปด้วยขุมพลังไฮบริด เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังรวม 140 แรงม้า 103 กิโลวัตต์ ตามด้วยรุ่น 2.0 ลิตรที่ให้กำลัง 198 แรงม้า 145 กิโลวัตต์ และปลั๊กอินไฮบริดขนาด 2.0 ลิตร ที่มีกำลัง 223 แรงม้า 164 กิโลวัตต์ มาในรูปแบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น ในขณะที่รุ่นไฮบริด 2.0 ลิตรสามารถเลือกใช้ AWD ได้
ในด้านสมรรถนะ ในรุ่นเริ่มต้นที่ใช้ระบบส่งกำลังไฮบริด 1.8 ลิตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ได้ใน 9.9 วินาที และวิ่งได้เร็วสูงสุดที่ 170 กม./ชม. รุ่น FWD 2.0 ลิตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ใช้เวลา 8.1 วินาที ส่วนเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร AWD ใช้เวลา 7.9 วินาที ทั้งสองรุ่นนี้ทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. สำหรับ PHEV นั้น อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว จะสามารถไว้ได้ระยะทาง 66 กิโลเมตร
โตโยต้ากำลังเปิดรับจองออนไลน์ในยุโรปแล้ว โดย GR Sport Premiere Edition ที่เรากล่าวถึงก่อนหน้านี้จะใช้รุ่น High Premiere Edition เป็นพื้นฐาน