Royal Enfield ประกาศขยายฐานการผลิต เปิดโรงงานประกอบ CKD แห่งแรกแห่งเดียวในเนปาล โดยความร่วมมือกับ Triveni Group โรยัล เอ็นฟีลด์เล็งรุกตลาดในภูมิภาค SAARC หรือภูมิภาคเอเชียใต้ พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่มีต่อการขยายธุรกิจในประเทศเนปาล โดยโรงงานใหม่นี้ตั้งอยู่ในเมือง Birgunj ซึ่งนับเป็นหน่วยประกอบ CKD แห่งที่ 5 ในโลกของแบรนด์ หลังจากบราซิล ประเทศไทย โคลอมเบีย และอาร์เจนตินา ที่รับไม้ต่อมาจากโรงงานผลิตอันทันสมัย ตั้งอยู่ในรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย

โดยภาพรวม ตลาดรถจักรยานยนต์ในเนปาลกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างน่าจับตามอง และ Royal Enfield มองเห็นศักยภาพของตลาดในจุดนั้น โดยในช่วงก่อนการระบาดของ Covid-19 กลุ่มรถจักรยานยนต์ในเนปาลมีจำนวนเกือบ 1.7 ล้านคันต่อปี โดยเกือบ 60%-65% เป็นรถจักรยานยนต์ที่ขายในกลุ่มพรีเมียม (150 ซีซี) คาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตที่ 10%-15% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และ Royal Enfield เชื่อว่าแนวโน้มของการผลิตรถจักรยานยนต์ระดับพรีเมียมจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะยืดหยุ่น แรงบิดสูง และเชื่อถือได้ Royal Enfield จึงเป็นแบรนด์ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสไตล์การขับขี่กับภูมิประเทศที่สมบุกสมบัน และน่าท้าทายของประเทศเนปาล

ณ เมืองกาฐมาณฑุ ในการเปิดตัวโรงงาน CKD รวมถึงเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่สำหรับตลาดเนปาล การประกาศการดำเนินงานของโรงงานประกอบ CKD ในเมือง Birgunj เป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราต่อศักยภาพของตลาดและ Community ของกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่กำลังเติบโต นอกจากความมุ่งมั่นของเราในการขยายตลาดในประเทศแล้ว แผนระยะยาวของเราคือการขยายเครือข่ายระบบค้าปลีกของเราจาก 18 แห่งในปัจจุบัน เป็น 35 แห่งใน 30 เมือง ภายในปีหน้า
ด้วยความสามารถในการประกอบชิ้นส่วน 20,000 ชิ้นต่อปี ศูนย์ประกอบชิ้นส่วนท้องถิ่นในเมือง Birgunj นับเป็นศูนย์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัย มีขนาดพื้นที่กว่า 1 แสนตารางฟุต ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศได้อย่างทั่วถึง ในช่วงเริ่มต้น โรงงานแห่งนี้จะมีการประกอบชิ้นส่วนของ Classic 350 และ Scram 411 และด้วยการเปิดตัวศูนย์นี้ Royal Enfield มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจรถจักรยานยนต์ตลอดจนดูแลกลุ่มผู้รักรถขนาดกลางที่กำลังเติบโตในประเทศเนปาลอย่างครอบคลุมและทั่วถึง