New Subaru Forester Eyesight 4.0 รถอเนกประสงค์ไซส์ใหญ่ของค่ายซูบารุที่ใส่ระบบความปลอดภัย eyesight 4.0 เวอร์ชั่นล่าสุด พร้อมฟังก์ชั่นความสะดวกสบายกับขุมพลัง BOXER 4 สูบ 2.0 ลิตร กำลัง 156 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 169 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD

 

 

New SUBARU FORESTER i-L EYESIGHT

 

หากพูดถึงแบรนด์ซูบารุ หลายคนคงยอมรับถึงสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นทั้งเรื่องของเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ ระบบช่วงล่าง และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ แต่สำหรับ New Forester ผมอยากให้ลืมเรื่องที่ผมพูดทั้งหมดไปก่อน เพราะรถคันนี้มันกลับกลายเป็นรถสไตล์ครอบครัว ที่เน้นความสะดวกสบายในการใช้งาน กับห้องโดยสารขนาดใหญ่ ฟังก์ชั่นความปลอดภัย แต่ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์จะให้ลืมความสปอร์ตไปเลยซะก็คงไม่ได้ เลยใส่ฟิลลิ่งอารมณ์สปอร์ตมาให้ซักหน่อย ซึ่งขับแล้วรถเค้าจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวผมจะไล่เรียงให้ได้รู้กันครับ

 

 

New Subaru Forester ด้านขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์ที่ถูกใช้ในรุ่นก่อนหน้านี้ โดยเป็นขุมพลังเบนซินแบบ Boxer 4 สูบ ที่มีวาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย ส่วนระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตรชื่อดังของค่ายอย่าง Symmetrical AWD ซึ่งจะว่าไปสำหรับผม ถือว่าเป็นจุดเด่นที่พอจะขายได้สำหรับรถรุ่นนี้ในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ ขณะที่ระบบช่วงล่างเป็นแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้าเป็นแบบใช้แบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง ช็อคอัพ และเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน ช็อคอัพสปริง และเหล็กกันโคลง

 

เครื่องยนต์เบนซินแบบ Boxer 4 สูบ 

 

เรามาไล่เรียงในส่วนของสมรรถนะการขับขี่เริ่มกันที่เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง หากย้อนกลับไปในอดีตเครื่องยนต์ Boxer ระดับ 156 แรงม้า อาจนับว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว  แต่ยุคนี้ต้องยอมรับว่าคู่แข่งทั้งรถค่ายญี่ปุ่น จีน และยุโรป เค้าขยับเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ไปกันไกลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีไฮบริด รวมถึงเทคโนโลยีอีวี หรือมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งทั้งจากที่ได้รองขับขี่ก็ต้องบอกว่าความแรงนั้นเมื่อใช้งานก็ดูจะไม่เพียงพอหากต้องวิ่งทางไกลออกนอกเมือง หากแต่ทางซูบารุพยายามจะชดเชยด้วยแรงบิดในช่วงออกตัวให้เจ้า New Forester มันดูกระฉับกระเฉงและคล่องตัวยามที่ต้องใช้งานในเมือง แต่สิ่งที่ต้องชดเชยไปนั่นก็คือความสมูทของระบบเกียร์ที่แม้จะเป็นแบบ CVT แต่ต้องถูกเซ็ตให้เน้นตีนต้นที่จัดจ้าน ทำให้เวลาความเร็วต่ำ หรือเวลาออกตัวนั้นจะค่อนข้างคุมคันเร่งให้รถสมูทยาก หากเผลอกดคันเร่งแรงไปเพียงนิดเดียว แล้วลืมเกรงคอ มีหัวโยกไปมาหน้าหลังเหมือนฟังเพลงร็อคแน่นอน อันนี้ไม่ใช่ผมคนเดียวที่รู้สึกนะครับ เพราะมีทีมงานที่ได้ทดลองขับก็รู้สึกเช่นเดียวกันผมเหมือนกัน ส่วนช่วงความเร็วในช่วงกลางถึงปลายนั้น แม้ความแรงจะไม่มากมายอะไร แต่ก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งาน โดยส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับระบบเกียร์ CVT ที่มี Paddle Shift มาให้ใช้เวลาต้องการเรียกอัตราเร่งแบบฉุกเฉิน

 

 

ด้านสมรรถนะการควบคุม ต้องบอกว่าเจ้า New Subaru Forester คันนี้ เค้าดูจะเซ็ตมันให้มีความเป็นรถสไตล์ครอบครัว ที่เน้นความสะดวกสบายในการขับขี่มากกว่าความเป็นรถสปอร์ตตามบุคลิกของแบรนด์ ทั้งระบบพวงมาลัยที่เป็นแบบไฟฟ้า EPS ก็เซ็ตมาให้มีน้ำหนักเบาแบบกำลังขับง่ายพอดีมือ สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ฟิลลิ่งของช่วงล่างหลายคนที่ผมเห็นทำรีวิวไปนั้น บอกว่าค่อนข้างนุ่มนวล แต่สำหรับผมนั้นอาจรู้สึกไม่เหมือนท่านอื่นๆ เพราะรู้สึกถึงฟิลความสปอร์ตของช่วงล่างโดยเฉพาะด้านหลัง ซึ่งในจุดนี้ หากใช้งานในเมืองที่ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือมีเนินลูกระนาด เยอะๆ คนนั่งหลังอาจไม่ค่อยนุ่มนวลซักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นการขับนอกเมืองที่ใช้ความเร็วอันนี้หายห่วงเรื่องการเกาะถนน

 

 

ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร ที่มีระบบ X Mode มาให้นั้น ก็เหมาะแก่การเข้าป่าปีนป่าย หากแต่อาจจะไม่เหมาะกับเส้นทางออฟโรดโหดๆ มากนัก เพราะเจ้าป่าตัวนี้ดูจะเน้นการขับในเมือง หรือทางทุรกันดารแบบเบาๆ ซะมากกว่า

 

 

ด้านความปลอดภัยกับ Eyesight 4.0 ซึ่งถือเป็นอีกจุดเด่นของรถคันนี้ ที่ทำงานด้วยระบบกล้องคู่ และเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของเจ้า Forester ที่ตรวจจับรถ หรือวัตถุต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้น โดยเจ้า Eyesight 4.0 นั้นสามารถทำงานตอบสนองได้ไวกว่าเดิมอย่างชัดเจน โดยเมื่อเปิดระบบป้องกันรถออกนอกเลน จะเห็นได้ว่าเมื่อรถเข้าใกล้เส้นปะถนนเพียงเล็กน้อย ระบบจะเตือนทันที รวมถึงหากเปิดระบบที่ช่วยควบคุมพวงมาลัยไว้ ระบบก็พร้อมดึงพวงมาลัยกลับเข้าเลนทันที นอกจากนี้ยังรวมถึงระบบเตือนก่อนชนด้านหน้า ก็ทำงานได้ไวขึ้น เพียงขับเข้าไปใกล้รถคันหน้า ระบบก็ส่งเสียงร้องก่อน เพื่อเตือนให้ชะลอความเร็ว

 

 

ส่วนระบบควบคุมความเร็วแปรผันตามรถคันหน้า Adaptive Cruise Control ก็ทำงานได้ดี ช่วยควบคุมความเร็วให้สัมพันธ์กับรถคันหน้าได้อย่างสมูท และปลอดภัย และที่สำคัญการเปิดปิดระบบต่างๆ พวกนี้ อีกทั้งการปรับโหมดการขับขี่ สามารถทำได้ง่าย เพราะสามารถควบคุมได้ง่ายจากระบบมัลติฟังก์ชั่นของพวงมาลัย ทำให้ไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัย ไปกดปรับระบบต่างๆ บนหน้าจอกลางเหมือนรถสัญชาติจีน ที่ชอบเอาไปรวมไว้ในหน้าจอ ช่วยให้การขับขี่สะดวกและปลอดภัยมายิ่งขึ้น ถือเป็นอีกจุดที่ทางซูบารุทำได้เป็นอย่างดี

 

Adaptive Cruise Control

 

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในคันนี้ หรือความหรูหราอะไรนั้น ต้องยอมรับว่าค่ายนี้เค้าไม่เน้นเท่าไหร่ มาตรวัดยังเป็นอนาล็อค แต่จะว่าไปตรงหน้าจอกลางก็มีฟีเจอร์มารองรับ ทั้งแผนที่ทำทาง Apple Car Play, Android Auto หรือบลูทูทต่างๆ ก็มีมาให้ใช้งานครบครัน หากแต่การตกแต่งอาจดูไม่หรูหราเท่าไหร่ ก็แค่นั้นเอง

 

ภายในห้องโดยสาร

 

บทสรุปของ New Subaru Forester i-L Eyesight ที่มาพร้อมค่าตัว 1,185,000 บาท นับเป็นรถครอบครัวที่ใช้งานได้สะดวกสบาย โดยเฉพาะภายในห้องโดยสารที่โอ่อ่ากว้างขวาง การเก็บเสียงในห้องโดยสารก็ถือว่าดี ส่วนระบบความปลอดภัยกับเทคโนโลยี Eyesight ตัวใหม่ ก็ใช้งานได้ดี ด้านสมรรถนะการขับขี่ สำหรับใครที่ยังฝังใจกับชื่อของซูบารุที่เป็นรถสปอร์ต สมรรถนะสูง อาจต้องเปลี่ยนแนวคิดกับเจ้า New Forester ที่ดูจะเป็นรถสไตล์ครอบครัวเสียมากกว่า ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ หากยังมองเห็นภาพที่ไม่ชัดเจน ไปลองขับกันก่อนได้ที่โชว์รูมซูบารุ จะได้เข้าใจฟิลลิ่งที่ผมบอก

 

 

เอ่อ!! แล้วเกือบลืมไป สำหรับอัตราความประหยัด สำหรับ New Subaru Forester i-L Eyesight ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา แม้จะไม่ใช่ตัวเลขที่น่าประทับใจมากนัก แต่โดยส่วนตัวก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่รับได้กับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 11-12 กม./ลิตร ระดับนี้