“ช่วงที่ผ่านมา Yaris Ativ ของเราขายดีมาก” นี่คือคำพูดของผู้บริหาร โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) ที่เริ่มต้นด้วยความภูมิใจในยอดจำหน่าย เพื่อเป็นการเกริ่นนำถึงสินค้ารุ่นล่าสุดที่พร้อมเตรียมเข้าไปจอดขายในมอเตอร์โชว์ที่จะถึงนี้ นั่นก็คือ New Toyota Yaris Hatchback ที่เรารู้กันดีว่ายังไม่ใช่โมเดลใหม่ แต่เป็นการปรับโฉมอีกครั้งพร้อมเพิ่มอุปกรณ์ออพชั่นให้เพียบพร้อมมากยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังได้มีการจัดทดสอบเจ้า New Yaris นี้ด้วย ซึ่งหลายคนรวมถึงผมเองก็สงสัยว่า Yaris โมเดลนี้เราก็ขับกันมาหลายรอบแล้ว จะให้ขับทำไมบ่อยๆ ผมเองก็แอบคิดเล่นๆ หรือว่ามีอะไรหมกเม็ดมาให้เราลองรึเปล่า? แต่ที่แน่ๆ ทาง Toyota เหมือนปรับกลยุทธ์การขายมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าวัยรุ่นมากขึ้น โดยรุ่นย่อยของ New Yaris ถูกแบ่งออกเป็น 4 รุ่น และยังได้เปลี่ยนชื่อรุ่นด้วยเริ่มต้นจาก Sport , Smart , Premium และท็อปสุด Premium S
New Toyota Yaris
สำหรับผม New Toyota Yaris รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ครั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงที่ถูกใจพอสมควร เพราะหลายครั้งที่ได้ยินคำว่า “ปรับปรุง” ก็มักจะเป็นการเติมเสริมแต่งนิดๆ หน่อยๆ แค่นั้น บางครั้งมีแต่ลวดลายสติกเกอร์ด้วยซ้ำ แต่ New Yaris ครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพราะแค่ภายนอกก็นับว่าเปลี่ยนไปเยอะพอสมควร เริ่มต้นจากหน้าใหม่ที่ไม่ใช่แค่เสริมบางชิ้นส่วน แต่ถูกศัลยกรรมใหม่หมด
เริ่มตั้งแต่รูปทรงไฟหน้ารวมถึงการใช้ไฟ LED โปรเจ็คเตอร์ พร้อมด้วยไฟ LED Light Guiding ในทุกรุ่นย่อย นอกจากไฟหน้าแล้วหน้ารถเปลี่ยนใหม่หมด กันชนหน้าและกระจังหน้าใหม่แบบ Hammer Head Design ดูดุดันสปอร์ตมากกว่าเดิมเยอะเลย ด้านข้างยังคงรูปทรงของตัวถังเดิม เพียงแต่เปลี่ยนล้อเป็นลายใหม่และยังใช้ขนาดของล้อและยางเท่าเดิมคือ 185/60 R15
ไฟหน้าแบบ LED Light Guiding
ส่วนท้ายรถเพิ่อให้กลมกลืนสอดคล้องกับด้านหน้าที่เปลี่ยนไป มีการเปลี่ยนกันชนหลังทั้งชิ้นเป็นดีไซน์ใหม่ โดยเฉพาะรุ่นท็อปสุด Premium S มีการเพิ่มสปอยเลอร์หลังทรงใหม่ และคิ้วด้านข้างกระจกหลัง ส่วนเสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin ให้มาในทุกรุ่นย่อย แต่ถ้าหากคุณยังรู้สึกว่าดีไซน์ภายนอกใหม่มันยังไม่เต็มอิ่ม ทาง Toyota มีการเพิ่มชุดแต่งภายนอกให้กับ New Yaris ซึ่งมีให้เลือกถึง 3 แบบได้แก่ Chiaro , Lusso และ Presto
ในเมื่อภายนอกเปลี่ยนแล้ว ภายในจะยังคงเดิมก็ใช่เรื่อง มีการปรับสีสันและอุปกรณ์ไปพอสมควร มีการใช้สีเงินซาตินที่มือเปิดประตูด้านใน แผงควบคุมแอร์ และปุ่มปลดล็อคเบรกมือ ตัวมาตรวัดเป็นแบบเรืองแสงดีไซน์ใหม่ มีระบบเชื่อมต่อ T-Connect มีช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB-C สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ส่วนในรุ่นย่อย Premium และ Premium S หน้าจอเครื่องเสียงเพิ่มขนาดเป็น 9 นิ้ว เบาะนั่งและแผงข้างประตูเป็นดีไซน์ใหม่ ในรุ่น Sport เป็นวัสดุผ้า ส่วนใน 3 รุ่นที่เหนือขึ้นมาเป็นหนังสังเคราะห์โทนสีแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย แต่ที่แน่คือในรุ่นท็อปอย่าง Premium S ได้เป็นเบาะหนังสังเคราะห์สีทูโทนแดง-ดำร้อนแรงดีเหลือเกิน
ภายในห้องโดยสาร
สมรรถนะทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม…รึเปล่า? ที่แน่ๆ คือเครื่องยนต์ยังคงเป็นตัวเดิมเบนซินรหัส 3NR-FKE ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ ให้พละกำลัง 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock อย่างไรก็ตามได้มีการเพิ่มระบบความปลอดภัยใหม่เข้าไปในรุ่น Premium และ Premium S ประกอบไปด้วย ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitor (BSM) , ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear Cross-Traffic Alert (RCTA) , กล้องมองภาพรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) และกล้อง DVR บันทึกภาพหน้ารถแบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ได้
เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ
มาถึงช่วงของการทดสอบสมรรถนะ New Yaris เมื่อได้เห็นสถานีทดสอบก็ถึงบางอ้อว่า เขาจัดให้ได้ลองระบบความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามาจากเดิมนั่นเอง เริ่มตั้งแต่การทดลองระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA ในขณะถอยออกจากช่องจอด เมื่อมีรถคันวิ่งวิ่งตัดผ่านด้านหลังจะมีสัญญาณเสียงเตือนขึ้นมาทันที (แค่เตือนนะครับ ไม่ได้ช่วยเบรก) และยังมีตัวช่วยเพิ่มก็คือ กล้องมองภาพรอบคัน PVM ซึ่งส่วนตัวผมว่ามันช่วยได้มากเมื่อใช้งานจริง
จากนั้นเป็นการทดลองระบบมาตรฐานที่ Toyota แทบทุกรุ่นมี นั่นก็คือ ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSC และ TRC โดยในการขับรอบแรกทำการปิดระบบทั้งหมดและขับเข้าไปบนพื้นที่ลื่นมากๆ ผลที่ได้คือไม่สามารถควบคุมรถได้แม้แต่น้อย หมุนเคว้งคว้าง แต่รอบหลังพอเปิดระบบดังกล่าวใช้งานตามปกติ รู้เลยว่ามันช่วยเราได้เยอะมากในกรณีที่ขับไปบนถนนที่มีพื้นผิวลื่น อาจจะไม่ได้ช่วยให้ควบคุมรถได้ 100% แต่มันก็ช่วยให้เราแก้สถานการณ์ได้ง่ายขึ้นมากในกรณีฉุกเฉิน
มาตรวัดเรือนไมล์
หลังจากสถานีดังกล่าวก็เป็นการขับในเส้นทางที่ถูกจัดไว้หลากหลายทั้งการเข้าโค้งยาวๆ ที่ความเร็วปานกลาง การขับลัดเลาะไพลอนแบบสลาลอม การเปลี่ยนเลน การขับขึ้นคอสะพาน และการขับบนพื้นผิวเป็นคลื่นต่างๆกัน ตรงนี้แหละที่ผมว่าเจ้า New Yaris มันไม่เหมือนรุ่นที่แล้ว ไม่เหมือนยังไง ตั้งแต่เข้าโค้งยาวๆ อันแรกแล้วต่อด้วยสลาลอม ผมว่าช่วงล่างมันเฟิร์มๆ แน่นๆ อาการโคลงน้อยลงกว่ารุ่นที่แล้วน่ะสิครับ ตอนแรกก็ว่าอุปทานไปเองรึเปล่า ก็ในเมื่อเจ้าหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Toyota ก็เพิ่งพูดในช่วงบรีฟข้อมูลรถว่าทุกอย่างเหมือนเดิมหมด
เสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin และสปอยเลอร์หลังทรงใหม่
แต่…หลังจากที่ไปทดลองขับแล้วกลับเข้ามาเพื่อดูรายละเอียดตัวรถที่จอดอยู่ในภายในอาคาร ก็แอบได้ยินคนของ Toyota พูดว่า ที่ว่าช่วงล่างเหมือนเดิมน่ะ มันคือเลย์เอาท์ จุดยึด ส่วนโช้คอัพ-สปริงมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่อันนี้เขาไม่ได้พูดถึง แต่ที่แน่ๆ มีการจูนหรือเซ็ตใหม่ครับ! แต่ด้วยวิธีไหนไม่เป็นที่เปิดเผย ถ้าเป็นอย่างที่เขาพูดจริงผมชอบนะ เพราะถือเป็นการปรับปรุงอย่างแท้จริงไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา ขอติสักอย่างคือ พวงมาลัยน่าจะเพิ่มเป็น 4 ทิศทางปรับดึงเข้า-ออกได้จะดีมากเลยครับ นอกนั้นผมว่าโอเคแล้ว ได้หน้าตาใหม่ อุปกรณ์อ็อพชั่นเพิ่ม มีชุดแต่งจากโรงงานให้เลือกถึง 3 แบบ ชอบแบบไหนเลือกแบบนั้นเลยครับ ก่อนกลับก็ดันหูดีแอบได้ยินคนของทาง Toyota บอกเพื่อนนักข่าวท่านหนึ่งว่า เร็วๆ นี้เจอกันอีก มีของใหม่ ปีนี้ของเยอะ… ติดตามกันดูครับว่าปีนี้ Toyota เขาจะเอารถรุ่นไหนหรือมีรุ่นพิเศษอะไรออกมาอีกบ้าง